Tuesday, May 29, 2012

พื้นที่เก็บไฟล์ออนไลน์จาก 3BB

วันนี้มีจดหมายเรียกเก็บเงินค่าอินเทอร์เน็ตจาก 3BB ส่งมาถึงผม เปิดซองดูผมเห็นมีใบแนบมาด้วย เขียนบอกว่า "ลูกค้า 3BB ใช้ฟรีพื้นที่เก็บไฟล์ออนไลน์ ตั้งแต่ 20 GB ขึ้นไป"  อืมมม์...เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผมเพิ่งจ่าย ๒ พันกว่าบาทสำหรับค่าเช่าพื้นที่ 100 GB บน 4shared.com แต่เนี่ยได้เปล่า ๆ ก็ดีสิ!  เพื่อน ๆ ที่ใช้อินเทอร์เน็ตของ 3BB สามารถที่จะเป็นเจ้าของที่เก็บไฟล์ได้ ลูกค้า 6 Mb ได้ 20 GB ส่วนลูกค้า 9 Mb ได้ 40 GB

รับสิทธิ์มาแล้วครับ! ใช้เวลาแป๊ปเดียวในการลงทะเบียน...ผมก็ได้ฮาร์ดดิสก์ขนาด 20 GB ลอยอยู่บนอากาศโน่น มองไม่เห็นแต่ก็รู้ว่ามันสามารถเก็บไฟล์ไว้ได้จำนวนไม่น้อยเลยล่ะ!

In a flash จริง ๆ ครับ ได้มาแล้ว!

  


การใช้งานก็ง่ายมาก ผมตั้ง folder ชื่อว่า Magazines เพื่อใช้เก็บนิตยสารต่าง ๆ และ folder ชื่อ Photos ไว้เก็บภาพถ่าย



สามารถแบ่งปันให้ผู้อื่นได้ด้วย ลองหนังสือสักเล่มก็ได้...


ฉบับล่าสุด เดือนมิถุนายน 2012 คลิกโหลดได้ ที่นี่ จ้า...

ผมอยากเพื่อน ๆ ที่ใช้ 3BB ได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ไว้ใช้ เพื่อจะได้มีพื้นที่เก็บไฟล์ของตัวเอง หรือจะเอาไว้ใช้ส่งไฟล์่ขนาดใหญ่ ๆ ก็ได้ครับ....


ที่จริงก็ไม่อยากโฆษณาให้ใคร แต่เห็นว่าตัวนี้มีประโยชน์จึงนำมาบอกต่อ...

Monday, May 28, 2012

คุยเรื่องประตูรั้ว(ต่อ)...

เมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ผมเขียนเรื่อง "ซ่อมประตูรั้ว..." โดยแนะนำการทำประตูรั้วแบบง่าย ๆ ใช้งบประมาณไม่มาก ผมยังเปรียบเทียบว่า...ประตูเหล็กแม้จะดูดี เพราะมีเหล็กดัดลวดลายสวยงาม แต่ก็ไม่สามารถปิดบังได้มิดชิด!  วันนี้ข่างเหอะมีโอกาสลงไปทำไม้เสริมโครงประตูเพื่อลดช่องว่างระหว่างบานประตูทั้งสองบาน  จึงอยากจะถ่ายรูปมาให้เพื่อน ๆ ได้ดู...


ที่เห็นก็คือประตูรั้วของบ้านที่อยู่ติดกัน จะเห็นได้ว่า...นอกจากเป็นรั้วโปร่งแล้ว ยังมีวัชพืชเลื้อยขึ้นไปพันเหล็กบานประตูจนเกิดสนิมหลายจุด...

ที่นี้มาดูประตูรั้วราคาถูกของผมบ้าง...


จะเห็นได้ว่าม้นปิดได้มิดชิดดีเหลือเกิน ปีนก็ยากกว่า...


สำหรับค่าวัสดุอุปกรณ์ ซึ่งประกอบด้วยสังกะสีรั้วขนาด ๕ ฟุต ไม้หน้า ๓ บานพัน ตะปู สกรู และ สายยู ผมคิดว่ากำเงินไป ๑,๕๐๐ บาท จ่ายค่าของหมดแล้ว ยังอาจเหลือเศษตังค์พอซื้อโอเลี้ยงหรือชาเย็นกินชุ่มอกชุ่มคอได้อีก...

ลองดูนะครับ สำหรับผู้ที่ชอบทำอะไรที่ค่อนข้างจะแหวกแนว!

Sunday, May 27, 2012

ทำที่แขวนไวโอลิน...



ผมอยากจะทำร้านกาแฟเก่าของผมให้เป็นห้องแห่งการเรียนรู้  คุณอ้อเคยติงว่าการใช้สีดำทำให้บรรยากาศดูไม่สดใส ผมเห็นด้วยครับ...กำลังจะเปลี่ยนสีผนังด้านข้างแกรนด์เปียโนเสียใหม่ จากสีดำให้เป็นสี earth tone อ่อน ๆ  แต่สีส้มนั้นยังจะคงไว้


เครื่องดนตรีหลายชิ้นจะต้องถูกนำขึ้นแขวนหรือตั้งแสดงไว้  เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ว่าตัวไหนคือไวโอลิน... ตัวไหนคือวิโอล่า หรือแอคคอร์เดียนมีปุ่มกดเรียงเป็นแถว ๆ


เด็กบางคนอาจจะสนใจว่าภาพคีตกวีที่ติดไว้มีใครบ้าง...คนไหนหรือที่ชื่อ Beethoven?


กล้องถ่ายรูปเสีย ๆ แทนที่จะทิ้งไป ผมก็นำไปแขวนไว้ให้เด็ก ๆ ได้ปีนเก้าอี้ขึ้นไปสัมผัส...



มีทุนน้อยครับ ผมต้องค่อย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก!


ผมอยากจะแขวนไวโอลิน วิโอล่า ไว้ตรงผนังด้านหลังแกรนด์เปียโน ตรงที่ ๆ มีคันชักแขวนอยู่ มีผู้ใจดีให้ที่แขวนมาแล้ว ลักษณะเป็นอย่างที่เห็นในภาพต่อไปนี้...

 
มันไม่มีที่ยึดติดกับผนัง ผมต้องหาวิธีติดตั้งให้ได้...


แต่ยังคิดไม่ออกครับ ใครมีไอเดียดี ๆ ช่วยแนะนำด้วย!

Saturday, May 26, 2012

ช่างเหอะหัวหมุน...

หนึ่งอาทิตย์เต็ม ๆ ที่ผมไม่ได้อัพเดทบล็อกช่างเหอะ เพราะมีภาระกิจหลายอย่างเข้ามาแย่งเวลาซึ่งค่อนข้างจะมีจำกัดของผมไป ต้องขออภัยด้วยนะครับ




ช่วงนี้เพื่อน ๆ อ่าน National Geographic ฉบับเดือน พ.ค. ๒๕๕๕ ไปก่อนนะครับ คลิก ที่นี่ ได้เลยจ้า...

แม้จะหัวหมุน...แต่ผมก็ยังมีโอกาสได้เขียนเล่าเรื่องการท่องเที่ยวครั้งล่าสุดลงในบล็อก "ฟังลุงน้ำชาคุย"
เป็นการเขียนแบบค่อยเป็นค่อยไป  ถ้าเพื่อน ๆ ไม่รังเกียจก็เชิญเข้าไปอ่านได้นะครับ

เรื่อง "ห้องเก็บหนังสือลุงน้ำชา" ตอนนี้ผมก็จ่ายเงินต่ออายุที่ 4shared เรียบร้อยแล้ว หนังสือหนังหาก็ยังคงอยู่ให้ดาวน์โหลดได้ต่อไป...

ขอเวลาพักสมองนิดเด้อ...

Sunday, May 20, 2012

เปียโนคีย์ค้าง...


เจ้า "คลาสสิก" ของผมมีอาการคีย์ค้างมานานมาก ๆ เล่น ๆ ไป...เดี๋ยวก็คีย์ค้าง!  มันเป็นหนักอยู่ในช่วงฝนตกชุก อากาศชื้น ผมก็ได้แต่คิดว่า "เดี๋ยวก็ดีเอง"  

หลังจากผ่านหนาวผ่านร้อนมาจนจะเข้าหน้าฝนอีกครั้ง คีย์ส่วนใหญ่ก็มิได้ติดค้างเหมือนแต่ก่อน แต่ยังคงมีบางคีย์ที่ยังเกเร...ยึดติดอยู่กับอาการเดิม!  ผมเล่นเปียโนประกอบวงเครื่องสายเด็ก ๆ แล้ว รู้สึกรำคาญมั่ก ๆ วันนี้..หลังจากเสร็จสิ้น string class ผมจึงได้ฤกษ์ที่จะลงมือซ่อม

อาการคีย์ค้างเกิดได้จากหลายสาเหตุ  อากาศชื้นทำให้ไม้พองตัว...ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง ฤดูฝนปีที่แล้วเปียโนยามาฮ่าของน้องปันก็มีอาการคีย์ค้าง มันเป็นหนักมากกว่าเจ้าคลาสสิกของผมเสียอีก!  แต่ผมก็ไม่ได้ทำอะไร...ได้แต่บอกนักเรียนว่า "เดี๋ยวก็ดีเอง"  จริง ๆ นะ...ทุกวันนี้เปียโนของน้องปันไม่มีอาการคีย์ค้างให้เห็นเลย

ส่วนสาเหตุอื่นก็มี บางครั้งถึงกับต้องยก action ออกมาซ่อมกันทีเดียว!  สำหรับเจ้าเปียโน "Classic" หลังนี้ ผมคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรเสียหายมากจนถึงกับต้องถอด action ออกมา เพราะสภาพก็ยังดูค่อนข้างใหม่

อย่างไรก็ตาม...ผมก็จำเป็นต้องถอดเอาไม้คิ้วสีดำออกเพื่อหาสาเหตุ (ดังที่เห็นในภาพ)


อ้าว! พอปราศจากไม้คิ้ว...ก็ไม่มีคีย์ไหนแสดงอาการค้างให้เห็น ผมบรรเลงเพลงได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเสียอารมณ์!

รู้แล้วว่าเจ้าไม้ที่ถอดออกจะต้องมีส่วนทำให้คีย์บางตัวค้าง  ผมลองใส่มันกลับคืนเข้าไป แล้วสำรวจหาสาเหตุ...



นั่นแน่ เจอแล้ว.....


ผมใช้มือดันให้เจ้าตัว action เข้าไปสุด ๆ มันขยับเข้าไปได้อีกประมาณ ๑-๒ ม.ม. จากนั้นก็ประกอบชิ้นส่วนอื่น ๆ กลับเข้าที่


เห็นได้ว่ามี "ช่องว่าง" ระหว่างตัวพลาสติกกับไม้คิ้ว...ไม่ทำให้เกิดอาการคีย์ค้างอีกแล้ว!


เรียบร้อยไปอีกงานนึง ผมสามารถเล่นเปียโนได้อย่างสบายใจแล้ว  อืมมม...แต่ถ้าจะให้มีความสุขในการเล่น ผมคงต้องหาเวลาตั้งสายใหม่ (ตั้งแต่ซื้อมายังไม่เคยได้ตั้งสายเลย)

เรื่องเสียงเพี้ยน ผมพูดไม่ได้ว่า "เดี๋ยวก็ดีเอง"

Saturday, May 19, 2012

เตรียมแผนที่ก่อนออกเดินทาง...

เพื่อน ๆ ที่รักครับ... พักนี้ผมไม่ค่อยได้สวมบทบาท "ช่างเหอะ" จึงหาเรื่องที่จะเขียนไม่ค่อยได้เอาเสียเลย  จริง ๆ แล้วงานซ่อมมากมายหลายชิ้นก็มีรอให้ผมลงมือ แต่พอดีช่วงนี้มีเรื่องให้ศึกษาอยู่หลายเรื่อง ผมจึงต้องแบ่งเวลาไปทางโน้นซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ตั้งใจว่าถ้ามีอะไรที่เป็นประโยชน์...ผมจะต้องนำมาเขียนเล่าให้เพื่อน ๆ ได้อ่านในบล็อกนี้โดยไม่รีรอ


วันนี้ก็เช่นกัน พอดีผมไปเจอเว็บ ๆ หนึ่งซึ่งมีประโยชน์มาก ๆ สำหรับนักเดินทางแบกเป้ผู้นิยมการผจญภัยที่ท้าทาย นั่นคือ http://www.hobomaps.com/

เป็นเว็บนี้เราสามารถหาแผนที่เมืองต่าง ๆ ในประเทศลาว รวมทั้งจังหวัดชายแดนของไทยซึ่งติดกับประเทศลาว อาทิ หนองคาย น่าน และ เชียงรายได้  แผนที่ซึ่งมีทั้งในเมืองและพื้นที่โดยรอบนั้นละเอียดและอ่านง่าย มีประโยชน์จริง ๆ ข้อมูลการเดินทางก็มีให้ด้วย

เสียดายที่ผมไม่สามารถนำตัวอย่างแผนที่มาให้ดูได้ เพราะเค้าห้ามไว้...

ในการเดินทาง...ถ้าหากเราได้ศึกษาแผนที่เมืองที่จะไปไว้ก่อน หรือมีพกติดตัวไปด้วย ก็จะช่วยได้เยอะ ผมยังรู้สึกเสียดายที่ก่อนไปลาวและเวียดนามครั้งที่ผ่านมา ผมยังไม่เจอเว็บนี้ มิฉะนั้นคงจะมีข้อมูลของเมืองแต่ละเมืองที่ผมเดินทางไปถึง มากพอที่จะไม่ต้องไปเดินหาหรือไปลุยเอาข้างหน้าแบบไร้จุดหมาย!

ยกตัวอย่างเช่น "เมืองไชย" หรือที่เรียกว่า "อุดมไชย" ซึ่งผมไปถึงเมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๕ เวลาประมาณ ๕ โมงเย็น โดยปราศจากแผนที่ตัวเมือง ทำให้ผมต้องเสียเวลาเดินหาที่พัก และเที่ยวชมเมืองโดยไม่รู้ว่ามีสถานที่ ๆ น่าสนใจอยู่ตรงไหนบ้าง



ถ้าวันนั้นผมมีแผนที่อยู่ในมือ ผมคงจะคล่องในเรื่องทิศทางและตำแหน่งแห่งหน มันคงจะดีกว่ากันเยอะ!

แม้แต่ที่บ้านห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ก็เช่นเดียวกัน ถ้ามีแผนที่ละเอียด ๆ ติดมือไปด้วย สายตาผมคงจะกว้างไกลขึ้น! แต่ไม่เป็นไรครับ แม้จะรู้จักเว็บนี้ช้าไปหน่อย แต่ผมก็ยังมีโอกาสได้นำแผนที่ไปใช้กับการเดินทางครั้งต่อ ๆ ไปอย่างแน่นอน

เพื่อน ๆ จะไปเที่ยวประเทศลาว อย่าลืมศึกษาเกี่ยวกับเมืองที่จะไปจากแผนที่ซึ่งหาได้จากเว็บดังกล่าวไปก่อนนะครับ การเดินทางจะได้ราบรื่นขึ้นอีกเยอะ!

ขอบคุณเว็บดี ๆ อย่าง hobomaps ด้วยครับ

Saturday, May 12, 2012

ซ่อมประตูรั้ว...


ถ้าหากเพื่อน ๆ มีที่ดิน...หรือมีสวนซึ่งกั้นรั้วไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ทำประตู หรือกำลังคิดอยากจะทำประตูใหม่ ในกรณีที่ไม่สามารถทำประตูเหล็กอย่างดี ซึ่งอาจจะเป็นด้วยเหตุผลหลายประการ อาทิ ที่ดินอยู่ห่างไกลไม่สะดวกในการติดตั้ง สวนยังไม่มีไฟฟ้าสำหรับการเชื่อมหรือตัดเหล็ก หรือไม่อยากใช้ประตูโปร่งซึ่งทำให้มองเห็นเข้าไปถึงในสวน ผมก็อยากจะแนะนำประตูโครงไม้ ตีด้วยสังกะสีมุงหลังคา อย่างที่ผมทำครับ

เคยทำประตูแบบนี้ใช้มาแล้วสองครั้ง ข้อดีของมันคือค่าวัสดุอุปกรณ์รวมแล้วไม่แพง สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเชื่อม ไม่ต้องมีเครื่องมือไฟฟ้า ใช้เครื่องมือพื้นฐานธรรมดา ๆ ก็ทำได้ ในขณะที่ประตูโครงเหล็ก ๒ บาน ความกว้างขนาดนี้ หากไปจ้างช่างโลหะทำแล้วยกเข้าใส่ ผมตีราคาคร่าว ๆ ก็คงไม่ต่ำกว่า ๓ พันบาท แม้จะดูดีเพราะมีเหล็กดัดลวดลายสวยงาม แต่ก็ไม่สามารถปิดบังได้มิดชิด!

ตอนที่ผมย้ายเข้าอยู่ที่ตึกร้างเชิงสะพานนาก่วมเมื่อสิบกว่าปีก่อน ผมใช้เวลาแรมเดือนในการก่อรั้วคอนกรีตบล็อคบริเวณหลังบ้าน...


เสร็จแล้วก็ทำประตู ผมทำง่าย ๆ ด้วยการซื้อไม้หน้าสาม(เนื้อแข็ง)มาทำโครง ทาด้วยน้ำมันขี้โล้(น้ำมันเครื่องที่ถ่ายออกจากเครื่องยนต์) จากนั้นก็ซื้อสังกะสีมาตีปิด รวมทั้งหมดใช้เงินแค่พันกว่าบาท ผมอยู่มาแล้ว ๑๐ กว่าปี สภาพของประตูก็ยังดูดีอยู่เลย แต่พอดีถูกเจ้าสำลี(สุนัขสีดำ)มุดเข้ามุดออกมาเป็นเวลา ๑๐ ปีเช่นกัน ขาประตูข้างหนึ่งจึงได้หัก และทำให้สังกะสีแหว่งไปด้วย



ผมจึงต้องลงมือซ่อม...


ก่อนอื่นต้องตรวจสอบบานพับเหล็กชนิดบึกบึนซึ่งเป็นหัวใจของประตูเสียก่อน มีทั้งหมด ๔ ตัว ยังใช้ได้ดี ไม่มีปัญหา ผมตั้งใจว่าจะนำน้ำมันขี้โล้มาลงใหม่ทั้งโครงไม้และที่บานพับ....

 

วันนี้มีเลื่อยไฟฟ้าใช้ จึงไม่ต้องใช้เลื่อยลันดาเหมือนเมื่อ ๑๐ ปีก่อน ผมนำไม้หน้าสามมาตัดให้ได้ความยาวของขาประตูที่จะเปลี่ยนใหม่ จากนั้นก็บากทำร่องเพื่อประกบกับไม้คร่าว เลื่อยตัวนี้สามารถตั้งตัวสีแดง(ที่เห็นตรงกลางภาพ)ให้กินเนื้อไม้ลงไปครึ่งเดียว (ไม่ตัดให้ขาด) งานนี้ไม่ต้องพิถีพิถันก็ได้ บากไม้แค่ ๔ แห่งแล้วใช้สิ่วปากแบนเซาะออก จากนั้นก็นำไปเทียบดู...

 
โอเค...ใช้ได้!  จัดการรื้อขาไม้ชิ้นที่หักออกได้เลย...


 นำไม้ตัวใหม่ไปทาบเพื่อทำเครื่องหมายรูน้อต เสร็จแล้วนำไปเจาะด้วยสว่าน...


จากนั้นก็นำไม้ตัวใหม่ไปใส่ ใช้น้อต ๔ ตัวเดิม ขันด้วยกุญแจปากตายยึดให้แน่น


 



ตอนทำครั้งแรกผมไม่ได้ใส่กาว ทำให้แกะไม้ออกโดยง่าย แต่คราวนี้ผมนำขี้เลื่อยผสมกับกาวลาเท็กซ์ทา ก่อนที่จะนำไม้ประกบเข้าด้วยกัน พอยึดน้อตแน่นหนาดีแล้วผมยังใช้กาวส่วนที่เหลืออุดร่องเข้าไปอีก...


คิดว่าถ้าจะต้องแกะออกมาซ่อมอีกที ต่อไปคงจะไม่ง่ายแล้ว! 

ไม่เป็นไรครับ...ถึงยังไงผมคงอยู่ไม่ถึงวันนั้นอยู่แล้ว!  อิอิ

Thursday, May 10, 2012

poke one's nose...

ผมหายเงียบไปหลายวัน หาเรื่องที่จะเขียนไม่ได้จริง ๆ ซ่อมก็ไม่ได้ซ่อม ซ้อม(ดนตรี)ก็ไม่ได้ซ้อม!  ไม่มีอะไรที่พอจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ติดตามอ่านเลย ต้องขออภัยด้วยครับ!

เช้าวันนี้ ผมขี่จักรยานไปรับเงินยังชีพฯ ที่วัดปงแสนทอง...


 เจ้าหน้าที่เทศบาลเขลางค์นครจะมาตั้งโต๊ะจ่ายเงินให้ในศาลาที่เห็นในภาพ...


ผมพกหนังสือ "ศิลปะแห่งการแปล" ของ ส. ศิวรักษ์ไปอ่านในระหว่างนั่งรอด้วย...

พิมพ์ครั้งที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๖ พิบูลย์ หัตถกิจโกศล ออกแบบปก


อ่านแล้วชอบครับ ขออนุญาตหยิบยกหน้า ๕๑-๕๒ มาให้เพื่อน ๆ อ่านด้วยดังนี้:-

--๑๒--  แปลสำนวน
ปัญหาการแปล ที่ยุ่งยากและลำบากมากอยู่ที่สำนวน (IDIOM) และความหมายที่อาจแปลได้ตื้น ๆ หรือพิจารณาลงไปให้เห็นความลึกซึ้งก็ได้ (SHADES OF MEANING) ยังพวกเล่นคำ (PUN) และคำปากตลาด (SLANG)  เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่ สอนกันไม่ได้ แลในภาษาอังกฤษมีดิกชันนารี่ทุกชนิด ถ้าจะแปลกันให้ดีจริง ๆ ต้องมีดิกชันนารี่ต่าง ๆ รอบตัว แม้ดิกชันนารี่จะเป็นเพียง A FOOL แต่ก็เป็น AN HONEST MAN
ด้วยเหตุแห่งความยุ่งยาก ความสลับซับซ้อนดังกล่าวนี้ เบนจมิน โจเอต นักแปลผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษจึงกล่าวว่า All translation is a compromise; the effort to be literal and the effort to be idiomatic.
ในที่นี้จะเอาสำนวนอังกฤษ (IDIOMATIC ENGLISH) มาแปลเทียบให้เห็นพอสมควร ยกตัวอย่างคำว่า NOSE ใคร ๆ ก็รู้ว่าหมายถึงอะไร เป็นอวัยวะส่วนไหนของร่างกาย แต่ประโยคหรือวลีต่อไปนี้ล้วนมีความหมายแตกต่างกันออกไปทั้งสิ้น
He pokes his nose into my affairs. แปลได้เพียงว่า เขาเสือกมายุ่งกับธุระฉัน
These things are right under my nose.  สิ่งของเหล่านี้อยู่ตำตาฉันนี่เอง
I had to pay through the nose for it.  ฉันต้องจ่ายราคาแพงจับใจทีเดียว
My explanation is as plain as the nose on your face.  คำอธิบายของฉันชัดเจนเห็นได้ง่ายจะตายไป
His wife used to lead him by the nose. ภรรยาจูงเขาดังหนึ่งสนตะพาย
I hope my son will keep his nose to the grindstone. ฉันหวังว่าเจ้าลูกชายคงจะฝนทั่งให้เป็นเข็ม
Some people can't see beyond their own nose. คนบางคนไม่มีจินตนาการเสียเลย

You don't have to bite my nose off. เธออย่ามาเกรี้ยวกราดเอากับฉันเลยน่า
Don't turn your nose up at it.  อย่าดูถูกมันเลย

Friday, May 04, 2012

แนะนำเรื่องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองห้วยทราย...


เวลาช่างเหอะต้องซ่อมของบางอย่างโดยอาศัยการลองผิดลองถูก บางครั้งมันก็ทำให้เสียเวลาหรือเสียเงินโดยไม่จำเป็นได้เหมือนกัน ต่างกับถ้าจะมีผู้รู้มาบอกเลยว่าตรงไหนเสียและต้องซื้ออะไรมาเปลี่ยน เช่นเดียวกันกับการเดินทางคนเดียวไปยังสถานที่ ๆ ยังไม่เคยไป บางครั้งอาจต้องเสียเวลาไปกับความไม่รู้ก็เป็นได้

วันนี้ผมอยากแนะนำเรื่องการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือที่เรียกว่า ต.ม. ที่บ้านห้วยทรายซักหน่อย คิดว่าน่าจะมีประโยชน์อยู่บ้างสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยไป ท่านที่รู้แล้วคงไม่ว่ากันนะครับ...



เจ้าหน้าที่ ต.ม. ของลาวจะเริ่มทำงานเวลา ๘.๓๐ น. สิ่งที่ต้องเตรียมไว้คือ หนังสือเดินทางและปากกา  แบกเป้ไปคนเดียวโดด ๆ พอไปถึง...ต้องรีบหาแบบฟอร์มให้ได้ก่อน (ไม่เหมือนไปกับทัวร์หรือกับบริษัทเดินรถซึ่งจะมีผู้จัดเตรียมไว้ให้) ได้มาแล้วก็ให้รีบกรอกทันที  เป็นภาษาอังกฤษ...เขียนให้ดี ๆ หน่อยนะ ตัวสะกดให้ถูกต้อง  ตัวเลขวันเดือนปีเกิด หมายเลขหนังสือเดินทาง วันออกหนังสือฯ วันหมดอายุ ดูให้ดี...อย่าให้ผิด ช่องที่ถามว่าจะพักที่ไหนก็ให้เขียนลงไปว่า Hotels

เค้าไม่มีแบบฟอร์มวางไว้ให้หยิบเอง ต้องไปขอกับเจ้าหน้าที่ ถ้าเพื่อน ๆ วางแผนที่จะไปเวียดนามแล้วกลับเข้าลาวอีกครั้ง จะขอมา ๒ ใบก็ได้ (เหลือเก็บไว้ใช้ตอนเข้าลาวอีกครั้ง)


แบบฟอร์มมี ๒ ส่วนติดกันคือ ด้านซ้าย(ขาเข้า) และด้านขวา(ขาออก)  ด้านขาออกจะกรอกรายละเอียดไว้ล่วงหน้าก็ได้ แต่ยังไม่ต้องลงวันที่ เพราะเรายังไม่รู้กำหนดวันแน่นอน

ทีนี้ก็เป็นเรื่องของการเข้าคิวอย่างที่เห็นในภาพ เพื่อน ๆ ไม่ต้องไปเข้าคิวตามก้นฝรั่งนั่นนะครับ จะเสียเวลาเปล่า (ภายหลังอาจต้องเขกหัวตัวเอง) เพราะว่าคนมากมายเหล่านั้นเป็นผู้เดินทางเข้าลาวที่ต้องมีวีซ่าและต้องเสียค่าธรรมเนียม คนไทยอย่างเราไม่จำเป็นต้องใช้วีซ่า (เช่นเดียวกับคนสิงคโปร์ คนมาเลเซีย ฯลฯ)  ไม่ต้องไปต่อคิวหรอกครับ ให้นำหนังสือเดินทางพร้อมแบบฟอร์มที่กรอกแล้วไปยื่นตรง IMMIGRATION PASSPORT CHECK นั่นเลย



ตรงนั้นจะมีเจ้าหน้าที่อยู่ เค้าจะตรวจสอบและฉีกเอกสารขาเข้าที่เรากรอกเก็บไว้ ขั้นตอนการประทับตราใช้เวลาไม่ถึงนาที เพื่อน ๆ ก็จะได้ passport คืน!   

ที่สำคัญคือ...เมื่อได้หนังสือเดินทางคืนมา ให้ตรวจสอบว่ามีการประทับตราเข้าเมืองถูกต้องหรือเปล่า ถ้าไม่มี...ตอนเดินทางออกเป็นได้เรื่องแน่นอน โดนปรับฐานลักลอบเข้าเมืองหลายตังค์นะครับ

ลาวให้อยู่ได้ ๑ เดือน เช่นเดียวกับมาเลเซียและสิงคโปร์...


เอกสารขาออกที่ได้คืนมาพร้อมกับหนังสือเดินทางต้องเก็บให้ดีนะครับ อย่าให้หายโดยเด็ดขาด 

ถ้าดูในภาพบนสุด...ตรงหน้าต่างสีฟ้าที่เห็นคือจุดรับแลกเงิน เพื่อน ๆ ยังไม่ต้องแลกเงินกีบจากตรงนั้นก็ได้ เมื่อเดินขึ้นไปถึงถนนใหญ่ เลี้ยวซ้ายแล้วเดินไปอีกซัก ๓๐-๔๐ เมตร จะเห็นบูธแลกเงินทวีสิน ที่นั่นเค้าให้ rate ดีกว่านิดนึง!


๑ บาทแลกได้ ๒๕๖ กีบเจ้า...


Thursday, May 03, 2012

ซ่อม accordion


ทุกวันนี้ผมมี accordion คู่ใจเหลืออยู่ตัวเดียว คือเจ้า Bai-le รุ่น Kingmaster สัญชาติจีน ขนาด 37 keys 96 Basses เวลาคุณปิว(มือแบนโจ) หรือคุณเหลา(มือกีต้าร์)รับงานแล้วชวนผมไปเล่นด้วย ผมก็ใช้หีบเพลงตัวนี้แหละ...

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมได้ไปเล่นดนตรีในงานรดน้ำดำหัวคณาจารย์และศิษย์เก่าอาวุโสอุเทนถวาย ที่โรงเรียนมัธยมวิทยา โชคไม่ดี...ฝนตกตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มบรรเลง แอ็คคอร์เดียนของผมโดนฝนจนเทปที่ติดกระเพาะลม (Accordion Bellows Tape) หลุดออก ๒ เส้น ส่วนที่ยังไม่หลุด...บางเส้นก็เริ่มเผยออ้า



วันนี้ต้องซ่อมแล้วครับ พอดีผมมีกาว UHU สารพัดประโยชน์เหลืออยู่ครึ่งหลอด...


ช่างเหอะไม่มีกาวสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ จำเป็นต้องใช้ของที่มีอยู่ ผมบีบกาว UHU ออกมาแล้วใช้นิ้วป้ายไปทาที่ขอบ bellows และที่ตัวเทป จากนั้นก็ติดเทปกลับเข้าที่ ใช้มือบีบให้ติดกันสนิท คิดว่ากาว UHU ตัวนี้น่าจะเหมาะดี  ถ้าใช้กาวร้อนไม่ดีแน่...เพราะเป็นน้ำใส แถมยังแห้งเร็วเกินไป  แต่ถ้าใช้กาวยาง(แบบที่เราใช้ติดพื้นรองเท้า)..มันก็แห้งช้าเกิน


ผมใช้กาว UHU ซ่อมเทปที่หลุด ๆ จนหมดหลอด! อ้า Bellow ปล่อยทิ้งไว้พักใหญ่เพื่อให้กาวแห้งสนิท
ใช้ได้แล้วครับ! หมดเรื่อง Bellows Tape เสียที!  ทีนี้ก็มาถึงปัญหาใหญ่ที่รอให้ผมแก้ไขมานานแล้ว กล่าวคือ accordion ตัวนี้ไม่สามารถล็อค bellows ได้ เนื่องจากที่ล็อคเสียหมด..ทั้งตัวบนและตัวล่าง!

ด้านบน...ตัวล็อคหลุดออกไปอย่างที่เห็นในภาพ




ด้านล่าง...อาการหนักกว่า สายหนังขาดหายไปครึ่งนึงเลย!!


ซ่อมตัวบน...ผมรู้ว่าตัวโลหะกลม ๆ ที่ใช้ล็อคมันหลุดจากสายหนัง แล้วติดอยู่กับตัวล็อคอีกตัว ผมต้องใช้มีดทำคร้วสอดเข้าไปข้างใต้ แล้วงัดมันออกมา...


หลุดออกมาแล้ว....


เอามาวางเรียงให้ดูชัด ๆ


ปวดหมองแล้วครับ ไม่รู้จะทำยังไงดี!


 ทีแรกจะใช้รีเวทยิง แต่ระหว่างค้นหาลูกรีเวท...ผมดันไปเจอเจ้าตัวดำ ๆ ที่เห็นนั่นเข้า!


ใช้เจ้าตัวนี้ดีกว่า มันเป็นตัวอุดหรือล็อคอะไรผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เจ้าแป้นดำ ๆ นั่นสวยดี มีแกนเป็นเกลียวขนาดใหญ่กว่ารูของตัวล็อคโลหะนั่นนิดนึง  ผมใช้กรรมวิธีช่างเหอะหลายอย่าง ทั้งอัดกาว ขันเกลียว ตัดแต่ง ในที่สุดก็สามารถทำให้มันล็อคเข้ากับได้


ภาพข้างบนคือการทดลองใส่ดูก่อน เมื่อเห็นว่าใช้ได้ ผมก็ยึดปลายอีกข้างเข้ากับตัว accordion


 จากนั้นก็มาถึงตัวล็อคอีกตัวนึง คิดว่าไม่มีทางซ่อมได้แน่ เพราะมันเหลืออยู่แค่นี้เอง...


เกือบจะหมดหนทางแล้วครับ พอดีเหลือบไปเห็นหีบเพลงอิตาลีตัวเล็กที่ถูกปลดระวางแล้ว โห...มีสายสำหรับล็อคกระเพาะลมติดอยู่เส้นนึง ไม่รู้ว่าจะยาวพอที่จะใช้กับเจ้า Bai-le หรือเปล่า?


ผมจัดการถอดออก แล้วนำไปใส่ให้กับหีบเพลงตัวใหญ่  ว้าว..ใส่ได้พอดีเลย!!


เรียบร้อย...accordion ของผมสามารถล็อค bellows ได้ทั้งด้านบนและด้านล่างแล้วครับ