Wednesday, October 31, 2012

ขี้...ผสมกาว!

สิ่งที่คนทำงานไม้จะขาดไม่ได้  ผมว่าน่าจะเป็น "ขี้เลื่อยผสมกาว" (บางครั้งผมก็เรียกว่า "ขี้กบ"  ซึ่งจริง ๆ แล้ว ผมก็ยังไม่เคยเห็นขี้จากกบจริง ๆ เหมือนกัน อิอิ!

เวลาเราเลื่อยไม้ ไสไม้ หรือขัดกระดาษทราย จะได้ขี้เลื่อยออกมาจำนวนหนึ่ง เป็นผงไม้ซึ่งจะละเอียดมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับงาน ถ้าขัดกระดาษทรายก็จะได้ผงที่ละเอียดมากกว่างานไสไม้  สำหรับขี้...กองนี้ ได้มาจากการไสไม้ครับ...


มีขี้...แล้วก็ต้องมีกาว ผมไปซื้อกาวลาเท็กซ์จากร้านอิวหลีมา ๑ ขวด (เจ้า classifier สำหรับภาชนะบรรจุลักษณะนี้ช่างเรียกยากจริง ๆ ตอนมันเป็นน้ำดื่มมาส่งก็เรียกเป็นถัง  ตอนเป็นวิตามินหรืออาหารเสริมก็เรียกเป็นขวด ผมจะเรียก "กาว ๑ ขวด" ก็ฟังทะแม่ง ๆ  จะว่า "กาว ๑ ถัง" ก็ขัดหูพิลึก...ฮา)  


Latex เป็นกาวที่ใช้ได้ดีสำหรับงานไม้  มันแห้งช้าก็จริง แต่ถ้าติดแล้ว...ต่อให้ช้างจากข้าง ๆ หลอดกาวตราช้าง ๑๐ เชือกมาช่วยกันดึง ชิ้นงานก็ไม่หลุดออกจากกันง่าย ๆ   กาวน้ำหนักสุทธิ 32 OZ  ่ของ TOA ราคาประมาณ ๗๐ กว่าบาท  ผมไม่ได้ซื้อ...แต่เลือกใช้ยี่ห้อ Win (ราคา ๔๕ บาท)แทน!  เห็นด้านหลังมีพิมพ์ไว้ว่า Manufactured by TOA

พูดถึงการใช้งานกันหน่อย....ไม้วงกบช่องระบายอากาศห้องน้ำชั้นสามมีอาการผุ เพราะโดนน้ำโดนแดดมา ๑๐ กว่าปี 


ผมนำขี้กบผสมกาวลาเท็กซ์ในอัตราส่วนที่เหมาะสม ขยำ ๆ ให้เข้ากันดี แล้วนำไปอุด...เหมือนหมอฟันอุดฟัน  อุดและอัดเข้าไปจนเต็ม  ในที่สุดก็จะได้อย่างที่เห็นในภาพ...


ต้องทิ้งไว้ให้แห้ง (หลายวัน)...จากนั้นจึงค่อยใช้กระดาษทรายหยาบขัดให้เรีียบ แต่งอีกหน่อยด้วยกระดาษทรายละเอียด ก่อนที่จะทาสีให้ดูดี...

มองดูรอบตัว ถ้าตรงไหนมีรูน่าเกลียด ก็ใช้ขี้...กับกาวที่เหลืออุดเข้าไป


ขี้...ผสมกาวมีประโยชน์จริง ๆ นะ  ไม่เหม็นด้วย!!

Tuesday, October 30, 2012

ถ้าหาก็เจอ...


บ่ายวานนี้...ผมออกไปซื้อวัสดุและอุปกรณ์ชิ้นเล็กชิ้นน้อยมาทำงานงาน DIY  เพื่อแก้ง่อม (คำเมือง...หมายความว่า "แก้เหงา") หมดไป ๑๘๖ บาท

อุปกรณ์บางอย่างก็เอามาใช้ยึดของเก่า อย่างเช่นปืนโบราณ ให้ติดกับผนัง...


ยังมีที่จะต้องติดตั้งอีก...


รวมทั้งรูปอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ที่ต้อมและซาซื้อมาฝากด้วย...


ออกไปหาซื้ออุปกรณ์....ผมอยากได้สกรูยาว ๆ พร้อมน๊อตหางปลาเพื่อมาทำแท่นซ่อมคันชัก...แต่หาไม่ได้  พอกลับมาบ้าน ผมลองไปค้นตามกล่องเก็บตะปู โชคดีจัง...ได้น๊อตหางปลามาตัวนึง!  ค้นต่ออีก...ในที่สุดก็เจอเข้ากับสกรูซึ่งมีขนาดเข้ากันได้พอดีกับน๊อต  นี่ไง....วางให้ดูเสียหน่อย!


เอาไปใส่กับแท่นซ่อมคันชักแล้วเป็นเช่นนี้...


ถ้าขันน๊อตเข้าไป..มันจะบีบให้บล็อคไม้อยู่กับที่  เป็นการทำแบบง่าย ๆ เพื่อปรับแท่นวางปลายเท้าน้องโบว์ให้เหมาะสมกับความสูง!

ผมยังไม่ได้ขัดกระดาษทรายให้ดูดีนะครับ....

Monday, October 29, 2012

ที่แขวนคันชัก..


ที่แขวนวิโอล่าซึ่งครูหน่อยให้ผมมา(ตัวกลาง) ไม่ได้เป็นแบบมีแป้นแล้วใช้สกรูยึดติดกับฝาผนัง แต่ตัวนี้มีแค่ขาเกี่ยว ๒ ขา ปราศจากตัวล็อค จึงมีโอกาสหลุดตกได้ทุกเวลา!!

รู้สึกว่าจะเสี่ยงเกินไป เพราะวันดีคืนดีที่แขวนอาจจะหลุดออก แล้วกอดคอพาน้องเริงร่า (วิโอล่าตัวละ ๕,๕๐๐ บาทของผม) ร่วงหล่นลงสู่พื้นห้อง ซึ่งคงจะคล้ายกับคนกระโดดจากหน้าต่างบนอาคารชั้นห้าลงสู่ถนนเบื้องล่าง!

วันนี้ผมจึงเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ ไม่ยอมแขวนเจ้าวิโอล่าจนกว่าจะมีที่แขวนแบบใช้สกรูยึดกับฝาผนังมาติดตั้ง  ส่วนเจ้าแผ่นไม้นั่น...ผมก็ดัดแปลงให้เป็นที่แขวนคันชัก โดยใช้ตาขอเหล็ก ๔๕ องศา (ตัวละ ๒ บาท) ขันเข้าไป......



ได้ที่แขวนคันชักอย่างที่เห็นในภาพ...


๘ บาท...แขวนน้องโบว์ได้ ๔ ตัว!  

Sunday, October 28, 2012

เล่นกับไม้


วันอาทิตย์นี้เป็นอีกวันหนึ่งซึ่งยังไม่มี string class  น้องมะเหมี่ยว(เล็ก)ก็ลาหยุดด้วย ผมจึงมีเวลาทั้งวันได้ทำในสิ่งที่อยากทำ    ช่วงเช้า...ผมทำที่แขวนไวโอลินและวิโอล่าไว้ในห้อง Old Dreamz  ห้องนี้จะใช้เป็นที่สอนเครื่องสาย และใช้เป็นที่ซ้อมวง string ensemble ในอนาคต...



ช่วงบ่าย...ผมหาเศษไม้มาไส  ทำเป็นชั้นวางถ้วยกาแฟ....


วัสดุที่ใช้เป็นเศษไม้ที่ทิ้งขว้าง ไม่ได้ใช้งาน ถ้ามีเวลาเราก็สามารถหยิบเอามาทำประโยชน์ได้   ยังเหลือเศษอีกหน่อย...ผมนำมาทำเป็นที่จับคันชัก (Bow Holder)  เพื่อจะได้ใช้สำหรับศึกษาในเรื่องการเปลี่ยนหางม้า (rehair)   ผมอยากเปลี่ยนหางม้าเป็นครับ...จะได้ช่วยซ่อมคันชักให้เพื่อน ๆ



ก็คิดเอาเองเท่าที่จะทำได้  โดยให้ปลายด้านหนึ่งมีบล็อคไม้ที่สามารถปรับเลื่อนไปมาได้ ตรงนั้นใช้วางด้านปลายคันชัก (tip)  ส่วนอีกด้านหนึ่งจะใช้เป็นที่วางคันชักทางด้าน Frog.... .


ผมตั้งใจว่าจะทำง่าย ๆ ด้วยการใช้สิ่วเซาะร่องให้วางปลายคันชักได้พอดี  ก็คงต้องรอให้หาซื้อสิ่วเล็ก ๆ มาได้ก่อน ถึงค่อยทำต่อ

เพลินดี...แต่ขี้กบเต็มบ้านเลย อิอิ

Friday, October 26, 2012

เจ้านกน้อย...




คุณหมอใจดีท่านหนึ่งไว้วางใจให้ซ่อมไวโอลินจีนยี่ห้อ "Lark" อายุประมาณ ๒๐ ปี   ช่างเหอะเห็นว่าอาการเสียไม่เหลือบ่าฝ่าแรง จึงอาสาที่จะซ่อมให้... 

ก่อนอื่นต้องพูดถึงคำว่า Lark ก่อน มันอยู่ในเนื้อเพลง The Sound of Music ซึ่งขับร้องโดย Julie Andrews (ดาราที่ผมชื่นชอบมาก ๆ)  เนื้อเพลงท่อนหนึ่งมีว่า...
To laugh like a brook when it trips and falls 
Over stones on its way
To sing through the night
Like a lark who is learning to prey 
Lark คือนกชนิดหนึ่ง ตัวเล็ก ร่าเริง และร้องเสียงไพเราะ ในสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ ๑ กล่าวว่า Larks = นกกระจาบฝน  (nók grà-jàap fon)   

ผมขออนุญาตเรียกไวโอลินยี่ห้อ Lark ของคุณหมอว่า "เจ้านกน้อย" ก็แล้วกัน...


รัง...เอ๊ย กล่องของเจ้านกน้อยยังดูแข็งแรงอยู่เลย!


อาการป่วยมีดังนี้..

  • เอ็นยึดหางปลา (Tail Gut) หายไป ตัวหางปลายังอยู่
  • คันชักไม่มีหางม้า ตัวไม้คันชักยังดีอยู่
  • ไม่มีสาย
  • ไม่มียางสน
แค่นั้นเองครับ  ผมไปซื้อ "เอ็นยึดหางปลา (Tail Gut)"  ที่ร้านสกุลไทย ราคา ๖๐ บาท  เหลือเส้นสุดท้ายพอดี! 



ทีแรกได้คุยกับคุณหมอว่าจะเปลี่ยนสายชุดละพันกว่าบาทให้ แต่มาคิดดูอีกที...ผมว่าน่าจะลองใช้สายธรรมดาราคาชุดละ ๒๐๐ บาทใส่ไปก่อน

คุณหมอบอกว่าอยากจะนำเจ้านกน้อยกลับมาฝึกเล่นอีก ดังนั้นถ้าใช้สายคุณภาพดีไปเลย ผู้เล่นอาจจะไม่กล้าเล่นหนัก ๆ หรือบางครั้งการตั้งสายที่ยังไม่ชำนิชำนาญก็อาจทำให้สายใดสายหนึ่งขาดได้ ถ้ายังงั้นก็เสียดายแย่!   ผมจึงนำสายไวโอลินยี่ห้อ For-Tune ใส่ให้ก่อน...


จริง ๆ ด้วย ตอนเปลี่ยนสายใหม่...เสียงเจ้านกน้อยไม่ดีเลย แต่พอสีด้วยการลงโบว์หนัก ๆ และปล่อยให้ไวโอลินได้ปรับตัว เสียงก็เริ่มดีขึ้น! 

อ่อ... ผมลืมบอกไปว่า sound post ยังคงอยู่ในที่ของมัน มิได้ล้มหรือตกหายไป ตำแหน่งอยู่ใต้หย่องพอดี ผมไม่ได้ปรับแต่งอะไรเลย!  ส่วน fine tuners นั้นมีอยู่แค่ ๒ ตัว...


ใช้การได้แล้วครับ ค้างอยู่แค่คันชักเท่านั้นที่ยังไม่ได้ซ่อม!!


นึก ๆ แล้วผมก็อยากจะสั่งหางม้ามาลองใส่ดู (rehair)

Thursday, October 25, 2012

ซ่อมเอ็นยึดหางปลา


เมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ผมเขียนเรื่อง "ซ่อมไวโอลินอีก ๒ คัน"  มีอยู่คันหนึ่งซึ่งผมต้องซื้อ "สายรัดหางปลา" หรือ "สายรั้งหางปลา" มาเปลี่ยน 


เมื่อเปลี่ยนอะไหล่ตัวใหม่ให้ไปแล้ว...ผมก็ขอตัวเก่าซึ่งใช้การไม่ได้เก็บเอาไว้!  

จำได้ว่าเคยเขียนเรื่องเกี่ยวกับ "ไวโอลินตั้งเสียงไม่ได้"  ตอนนั้นผมช่วยซ่อมไวโอลินให้มะเหมี่ยว โดยถอดสายรัดหางปลาจากไวโอลิน 3/4 ของผมให้นักเรียนไป  ไวโอลินของผมใช้การไม่ได้ตั้งแต่นั้นมา  วันนี้ีระหว่างที่นั่งมองเจ้าสายรัดหางปลาพิการ...จู่ ๆ ผมก็เกิดความคิดที่จะทำให้มันใช้งานได้ แล้วนำไปใส่ให้เจ้าไวโอลิน 3/4 ซึ่งเดี้ยงมาเป็นปี...    

น้ากาแฟได้แนะนำไว้ว่า...
"เอ็นยึดหางปลา (Tail gut) มีแยกจำหน่ายครับ เส้นหนึ่งก็อยู่ประมาณห้าหกสิบไม่เกินร้อย แต่ถ้าเกิดไม่อยากเปลี่ยนก็ยังมีเทคนิคหนึ่งที่พอช่วยให้ใช้เส้นเดิมได้ ในกรณีที่เกลียวเสีย คือใช้กาวร้อนหรือกาวช้าง หยอดลงไปบริเวณเกลียวเอ็นยึดหางปลากับปลอกทองเหลือง ทิ้งไว้ซักพักให้กาวแห้ง ให้มันยึดติดตายตัวไปเลย ต้องระวังอย่าให้กาวหกไปโดนหางปลาหรือส่วนอื่น ก็จะสามารถใช้งานเอ็นยึดหางปลาเส้นเดิมได้ตามปกติ (ถ้ามีตังค์แล้วเกิดอยากเปลี่ยนก็ต้องตัดให้ขาดแล้วค่อยเปลี่ยนเส้นใหม่)"
จริงด้วย...เรียกเจ้าสายนี้ว่า "เอ็นยึดหางปลา (Tail gut)" ถูกต้องที่สุด!

ก่อนอื่นผมต้องหาน๊อตขนาดเล็กให้ได้ก่อน เจอมันอยู่ในเคส notebook เก่า...ผมใช้คีมปากนกแก้วดึงเจ้าขาพลาสติกรองรับบอร์ดออก และ้แกะเอาน๊อตทองเหลืองตัวเล็ก ๆ ที่เห็นนั่นออกมาใช้


นี่งัย...ขันมันเข้าไปตามเกลียวของเอ็นยึดหางปลา (Tail gut) ได้เลย


ไม่ค่อยมั่นใจ...เกรงว่ามันจะไม่แข็งแรงพอ  ผมหยอดกาวร้อนลงไปนิดนึง..ตามคำแนะนำของคุณน้ากาแฟ.


เอ็นยึดหางปลาใช้งานได้แล้วครับ...


ประหยัดตังค์ไปได้ ๖๐ บาท!

Tuesday, October 23, 2012

ต่อภาพด้วย Photoshop




เพื่อนผมคนหนึ่งเคยมอบภาพขาวดำให้ไว้ ๑ ใบ โดยเขียนสลักหลังไว้ว่า...
ด้วยความรักเพื่อน "Hotel Field"
From ไอ่ Meachan
6 May '79
(ลายเซ็น)

วันนี้ผมนึกสนุก...อยากทำภาพของเพื่อนคนนี้มาเปรียบเทียบให้เห็นว่าเมื่อเวลาผ่านไป ๓๐ กว่าปี เขาจะมีใบหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปมากน้อยขนาดไหน?  ไม่ยากครับ!  แค่เข้าไปใน FB ของเพื่อนรูปหล่อ แ้ล้วหา copy รูปมา ๑ บาน จากนั้นก็นำภาพมา crop ด้วยโปรแกรม Photoshop ให้มีขนาดเท่ากัน เมื่อได้ไฟล์ทั้งสองแล้ว...ก็ใช้โปรแกรม Photoshop เรียกภาพมาต่อเข้าด้วยกัน

วิธีทำคือ คลิกที่เมนู File > Automate > Photomerge จะได้หน้าต่างนี้ออกมา...


เลือก Use > Files แล้วคลิกที่ Browse...  เรียกไฟล์ภาพที่เตรียมไว้ออกมาดังนี้


คลิก OK ก็จะได้หน้าต่างนี้ออกมา...


ใช้เม้าส์ลากภาพเล็ก ๆ ที่อยู่ข้างบนลงมาที่จอข้างล่างเลย ผมเลือกภาพสีก่อนละกัน....


จากนั้นก็ลากภาพขาวดำลงมาต่อกัน...


คลิก OK ก็จะได้ภาพซึ่งต่อเข้าด้วยกันแล้วดังนี้...


คลิกที่ File >  Save for Web...  แล้วกด Save  (ตั้งชื่อไฟล์ตามต้องการ และตั้งชนิดของไฟล์ให้เป็น jpg.) ถ้าอยากจะทำกรอบก็ไปที่  Image > Canvas Size... > แล้วเพิ่มขนาดส่วนที่จะให้เป็นกรอบตามต้องการ จะได้ภาพดังนี้... 


Save ไว้ได้เลยครับ...

ผมทำมาให้ดูเป็นตัวอย่างอีกภาพนึง เป็นภาพผมและเพื่อน ๆ ซึ่งเรียนด้วยกันที่แผนกช่างไฟฟ้าวิทยาลัยเทคนิคภาพพายัพ (ตีนดอย) 

ภาพขาวดำถ่ายเมื่อต้นปี ๒๕๑๒  ส่วนภาพสีถ่ายเมื่อไม่กี่วันนี้เอง...
ทำไม่ยากครับ...สนุกดีด้วย!  

Sunday, October 21, 2012

ซ่อมซิงค์พัดลมซีพียู



คอมพิวเตอร์(ประกอบเอง)ของผม มีพัดลมซีพียู (socket 775) ที่สกปรกมาก ๆ  วันหนึ่งผมแกะออกมาล้างและทำความสะอาด ปรากฏว่าตอนใส่กลับ...ผมเห็นมีตัวล็อคพลาสติกหักไป ๑ ตัว แต่ที่เหลืออีก ๓ ตัวยังคงยึดซิงค์พัดลมให้อยู่กับบอร์ดได้ดีอยู่  ผมไม่ได้แก้ไขอะไร คงประกอบแล้วใช้งานคอมพิวเตอร์ต่อไป...

แล้ววันหนึ่ง มีเสียงเตือนดังปีบ ๆ ออกลำโพง แล้วคอมพ์ฯ ก็แฮ้งค์ไปดื้อ ๆ  ผมพบว่าซิงค์พัดลมอ้าหลุดออกจากซีพียู ทำให้ความร้อนขึ้นสูง โชคยังดีที่ซีพียูยังไม่เสีย  ช่างเหอะดีใจ...รีบขี่แมงกะไซค์เข้าเมืองไปหาซื้อตัวล็อคมาเปลี่ยน  แต่ไม่มีขาย...ต้องซื้อทั้งซิงค์และพัดลมตัวใหม่มาเปลี่ยน  (ราคา ๘๐ บาท)

เวรกรรมแท้ ๆ ยังไม่ทันได้ใช้งาน ตัวล็อคพลาสติกตัวนึงเกิดหักขึ้นมาอีก!  ผมต้องใช้สกรูยึดแทนอย่างที่เห็นในภาพ...



ก็อีหรอบเดิม คือใช้งานไปได้สักระยะนึง พัดลมหลุดอีก!! ตัวล็อคพลาสติกหักหมด!

ขาดคอมพิวเตอร์ไม่ได้...ต้องรีบซ่อมโดยเร็ว!  ผมไม่อยากออกไปซื้ออะไรอีกแล้ว  ค้นหาสกรูมาได้ ๔ ตัว พร้อมทั้งน๊อต แหวนโลหะ และแหวนสักหลาด...



ใช้คีมปากนกแก้วหักขาและตัวล็อคออกให้หมดเลย จากนั้นก็ใช้สกรู ๔ ตัวยึดซิงค์เข้ากับบอร์ด โดยใช้ฉนวน(แหวนสักหลาด)รองทั้งสองด้าน ค่อย ๆ ใช้ไขควงขันทีละนิด ๆ  สลับกันไป 

ขันเพียงแค่ตึงมือเท่านั้นนะครับ ไม่ต้องให้แน่นเหมือนขันน๊อตล้อรถยนต์! 



ตรวจสอบให้ดี ๆ ก่อนว่าซิงค์พัดลมถูกยึดแน่นหนา ไม่ขยับไปมา และไม่มีส่วนไหนลัดวงจร จากนั้นจึงค่อยเปิดเครื่องใช้งาน...

ใช้ได้เลยล่ะ! พัดลมทำงานตามปกติ ไม่ต้องกลัวอีกแล้วว่าตัวซิงค์จะหลุดออกจากซีพียูดังที่ผ่านมา...

นอกจากนั้น ผมยังนำ sound card "Audidy 2" รุ่น Platinum กลับมาติดตั้งด้วย... 



 เป็น sound card ที่ผมซื้อไว้ใช้นานแล้ว  เสียงดีทีเดียวครับ!

Thursday, October 18, 2012

ซ่อมไวโอลินอีก ๒ คัน

มีคนนำไวโอลินมาให้ผมซ่อม ๒ คัน ทั้งสองเป็นเครื่องใหม่ นับเป็นข้อเตือนใจให้ทำการตรวจสอบไวโอลินให้ดี ทันทีที่ได้รับเครื่องซึ่งร้านค้าส่งมาให้  หากมีปัญหาจะได้ส่งคืนหรือทำการแก้ไขได้โดยพลัน...

ไวโอลินคันที่ ๑ ขนาด 4/4 ใหม่แกะกล่อง (ผมไม่ได้ถ่ายภาพไว้) อาการเสียคือไม่สามารถตั้งสายได้  เคยมีประสบการณ์มาแล้วครั้งหนึ่งกับการซ่อมไวโอลินของมะเหมี่ยว...ผมแกะหางปลาออกมาดู ปรากฏว่าต่างกับไวโอลินของมะเหมี่ยวตรงที่คราวนี้ปลอกโลหะซึ่งหมุนเข้าไปตามสายเอ็นที่เป็นเกลียวหลุดหายไปเลยตัวนึง...


ไม่ยากอ่ะ...บี่งแมงกะไซค์ไปซื้ออะไหล่มาเล้ย ๖๐ บาท


เปลี่ยนสายรัดหางปลาแล้วใส่กลับเข้าที่...


ตั้งสายได้ตามปกติแล้ว ถ่ายรูปมาให้เพื่อน ๆ ดูหน่อย ไวโอลินระดับนี้ (ประมาณ ๒ พันบาท) ดูก็รู้ว่าเป็นการผลิตจำนวนมาก ไม่มีความละเอียด หาได้ปรับแต่งอย่างถูกต้องก่อนนำออกจำหน่าย...

ทีนี้มาดูไวโอลินอีกคันนึงนะครับ ใหม่เหมือนก้น แต่เป็นไวโอลินขนาด 3/4 อาการคือ sound post ล้ม!


มันไม่ใช่แค่ล้มธรรมดาเท่านั้น กล่าวคือตัว sound post ทำมาค่อนข้างจะสั้นกว่าที่ควรจะเป็น และความเอียงที่ปลายทั้งสองด้านก็ไม่ได้ทำด้วยความพิถีพิถัน ช่างเหอะได้พยายามตั้งดูแล้ว ไม่สำเร็จครับ  ตั้งล้ม ๆ อยู่หลายครั้ง ขนาดตั้งสายให้ตึงเพื่อกดไม้แผ่นหน้าลงไปแล้ว มันก็ยังหลวมอยู่  ผมขึ้นสายจนตึงแล้วเผลอตัว มัวแต่จ้องมอง sound post ขณะใช้มือซ้ายหมุนลูกบิด หุหุ...สายขาดครับ!

ถ้ามีไม้ sound post เป็นอะไหล่...ผมก็คงจะตัดใส่ใหม่ ให้ยาวกว่าเจ้าตัวนี้ แล้วฝนกระดาษทรายให้ความเอียงตรงปลายให้ดีกว่านั้น แต่ทว่า "ช่างเหอะ" ไม่มีอะไรเลย ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรจริง ๆ

ถ้าผมจะเพียรตั้งเจ้าเตี้ยแบบสู้ไม่ถอย ก็คงจะได้อยู่ แต่ sound post จะล้มได้ง่ายมาก...เอาไปใช้ได้ไม่นานเดี๋ยวก็ล้มอีก!  แล้วจะทำอย่างไร? ส่งกลับคืนไปอย่างนั้นก็คงไม่ดี!  คงจะต้องใช้วิชา "ช่างเหอะ" ซะแล้ว

พอดีผมมีเศษ sound post สั้น ๆ เหลืออยู่  จึงได้นำมาตัดแล้วต่อให้เจ้าเตี้ย โดยใส่กาวแล้วใช้ปากกาอัดทิ้งไว้ทั้งคืน



ด้วยความสูงที่เพิ่มขึ้น เจ้า sound post สวมรองเท้าส้นสูงก็สามารถยันกับไม้แผ่นหลังและแผ่นหน้าได้อย่างแข็งแรง


ใส่สาย ๑ ที่ขาดไป...แล้วตั้งสาย  ใช้ได้แล้วครับผม!

เพื่อน ๆ อย่าได้นำวิธีการซ่อมเช่นนี้ไปใช้เด้อ เดี๋ยวเค้าจะว่าเอา อิอิ