Tuesday, May 27, 2014

จักรยานพับส่งแก๊ส

จักรยานพับ Coyote เคยพาผมไปเที่ยวหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นสามเหลี่ยมทองคำ เชียงแสน หรือเวียงกุมกาม...


เที่ยงวันนี้...ผมผัดวุ้นเส้นใส่ไข่ เพิ่งจะต๊อกไข่ ๔ ฟองลงในกะทะ รออยู่ไม่เห็นร้อนซักกะที ก้มลงมองดูที่หัวเตา อ้าว! แก๊สหมด!!  วุ้นเส้นก็แช่น้ำและตัดเตรียมไว้แล้ว ทำยังไงดีล่ะ?

ไข่ ๔ ฟองในกะทะยังไม่สุก ผมนำวุ้นเส้นใส่ลงไปเลย ใช้ตะหลิวคน เหยาะน้ำปลาลงไป ตักน้ำตาลทรายสาดลงไปอีก คลุก ๆๆๆ  แล้วคว้าจานใบใหญ่ลงมา ตักวุ้นเปื้อนไข่ใส่ลงไป...เต็มจานพอดี!!  กลิ่นคาวไข่ผสมกลิ่นน้ำปลาพุ่งเข้าจมูก

ผมนำเข้าเตาไมโครเวฟ ตั้งไฟแรงสุด ๕ นาที (สุดโหด)  เดินเครื่องได้ ๒ นาที เปิดฝา ใช้ส้อมเข้าไปคนวุ้นเส้นในจาน กลับให้ข้างล่างขึ้นอยู่บน คนอีกหน่อยแล้วปิดฝาเดินเครื่องต่อ  "อื่อ ๆๆๆ..." เสียงเครื่องบ่นต่อ เริ่มส่งกลิ่นหอมออกมาบ้างแล้ว!  ผมเปิดฝาแล้วคนอีกครั้ง เห็นว่าเริ่มแห้ง ไข่สุกแล้ว แต่ยังไม่ได้ที่  ต้องเพิ่มเวลาอีก ๒ นาที....

"ปี้ด ๆๆๆ"  เสียงเตาบอกว่าเสร็จแล้ว ผมยกออกมา...ได้วุ้นเส้นผัดไข่จานใหญ่!!

อ้าว...จะคุยเรื่องเจ้า Coyote ดันเป็นเรื่องผัดวุ้นเส้นได้อย่างไรกัน?  ก็ไม่มีอะไรหรอก นอกจากอยากจะเล่าว่าเจ้า Coyote ไปบรรทุกแก๊สมาได้อย่างไร...

กินข้าวแล้ว...ผมขี่จักรยานพับไปที่ร้านขายวัสดุก่อสร้างซึ่งอยู่ไม่ไกล เคยเห็นว่าที่นั่นมีแก๊สหุงต้มตั้งจำหน่ายอยู่ แต่วันนี้ดันไม่เปิด  แต่ยังมีอีกร้านหนึ่งอยู่ตรงข้ามที่เห็นถังแก๊สวางอยู่ ผมหยุดรถแล้วเข้าไปถาม ทราบว่าราคาแก๊สถังละ ๓๗๐ บาท แต่ต้องบรรทุกไปเอง เพราะคนส่งไม่อยู่ (ไปหาหมอ) 

หน้าที่จึงตกเป็นของเจ้า Coyote  ผมขี่จักรยานกลับบ้าน แล้วยกถังแก๊สเปล่าหนัก ๑๖.๑ กิโลกร้มลงมาจากชั้นสาม....


วางถังแก๊สซ้อนท้าย ใช้มือประคองไว้ ผมค่อย ๆ ปั่นจักรยานไปยังร้านดังกล่าว ระยะทางประมาณ ๓๐๐ เมตร!  พอไปถึงก็จัดการแลกถังแล้วจ่ายเงิน ๓๗๐ บาท หญิงคนขายบอกว่า "ขึ้นราคาทุกเดือน"  

ผมได้ยินแล้วร้อนวาบ!   ปตท. ตั้งแต่ยุคทักษิณมันเอาเปรียบคนไทยผู้เป็นเจ้าของทรัพยากรขนาดไหน ทุกวันนี้ประชาชนต้องใช้น้ำมันและแก๊สแพง แล้วไปรวยกระจุกอยู่ที่คนกลุ่มน้อยเพียงบางกลุ่ม ก็ยังไม่เห็นคนส่วนใหญ่ว่าอะไร!!  อย่าให้พูดมากดีกว่า เดี๋ยวของขึ้น! เล่าเรื่องวีรกรรมของเจ้า Coyote ต่อดีฝ่า..

น้ำหนักถังแก๊สบรรจุเต็มตอนนี้หนัก ๓๑.๑ กิโลกรัม คนขายแก๊สก็ยังสงสัยอยู่ว่าผมจะนำมันไปบ้านได้อย่างไร? ยางรถก็อ่อนซะด้วย!


จะไปยากอะไร ผมยกถัง ๓๑.๑ กิโลกรัมขึ้นซ้อนท้ายเหมือนเดิม แล้วจูงจักรยานกลับบ้าน...เหมือนจูงลาที่มีคนขี่นั่นแหละ

ที่มาของภาพ - ninkungz.exteen.com
ทั้งคนจูงและคนขี่เดินทางถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ....


ลำบากหน่อยก็ตรงที่จะต้องยกถังแก๊สหนักกว่า ๓๐ โล ขึ้นบันไดไปชั้นสาม ผมต้องระวังสุด ๆ ไม่ให้ตัวถังไปกระแทกกระเบื้องขั้นบันไดแตก แต่ในที่สุดก็เรียบโร้ย...


ความเหนื่อยบอกให้รู้ตัวแล้วว่าผมแก่ตัวลงเยอะ! 

Monday, May 26, 2014

จักรยานในฝัน

ถ้าถามผมว่ามี "จักรยานในฝัน" หรือเปล่า?  ผมก็จะตอบว่า "มี"  เพื่อน ๆ อยากรู้มั้ยครับว่าจักรยานที่ผมฝันอยากขี่ คือจักรยานประเภทใด ยี่ห้ออะไร และรุ่นไหน?


ไม่ใช่เจ้า "TREK 520" จักรยานทัวร์ริ่งสายพันธ์แท้ที่จะพานักปั่นทะยานข้ามพื้นทวีปสู่ทุกจุดหมายทั่วโลก อย่างที่เห็นโฆษณาในนิตยสารที่เห็นหรอก!   แต่เป็นคันนี้ครับ...


จักรยานพับยี่ห้อ Dahon รุ่น Espresso


เค้าโฆษณาว่ารถคันนี้เหมาะสำหรับขี่ระยะทางปานกลาง จากเมืองหนึ่งไปเมืองหนึ่ง วงล้อขนาด ๒๖ นิ้วทำให้สะดวกสบายเหมือนขับขี่รถจักรยานขนาดใหญ่ เป็นรถพับที่ใช้เวลาพับแค่เพียง ๑๕ วินาที พับแล้วแบนพอ ๆ กับกระเป๋าเสื้อผ้าขนาด 13.3″ x 36.7″ x 30.8″. น้ำหนักโดยรวม ๑๔.๑ กิโลกรัม...

สำหรับราคานั้น บอกได้แค่ว่ามันแพงเกินกว่าที่ผมจะซื้อหามาใช้!!

ขอให้แค่ได้ขี่ในความฝันก็พอ...

Sunday, May 25, 2014

เรื่องของคนขี้เหนียว!

ผมเคยเขียนเรื่อง "กาวซีเมนต์" ที่ได้ซื้อมาใช้ปูกระเบื้องพื้น workshop ช่างเหอะ...


วันนั้นบ่นว่าทดลองปูกระเบื้อง ๗ แผ่นใช้ปูนกาวหมดไปเกือบครึ่งถุง ที่เปลืองก็เพราะต้องเสริมความหนาเพื่อปรับระดับ...


วันนี้ต้องยอมรับว่าปูนกาวใช้งานง่าย ถ้าพื้นปรับระดับไว้ดีแล้ว แค่ใช้ปูนกาวฉาบแล้วปาดด้วยเกรียงหวี ก็จะปูกระเบื้องได้รวดเร็ว ง่าย  และมีเวลาให้ปรับแต่งได้นาน 

ผมไปค้นในอินเทอร์เน็ต เห็นผู้เชี่ยวชาญบอกว่าปูนกาว ๑ ถุง (๒๐ กิโลกรัม) ใช้ปูกระเบื้องได้ตั้ง ๕-๖ ตารางเมตร...

มีปูนกาวอยู่แค่ ๒ ถุง ถุงแรกถูกใช้ไปเกือบหมด หลังจากปูกระเบื้องไปได้ตารางเมตรกว่า ๆ!  ผมไม่อยากออกไปซื้อปูนมาเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นปูนกาวหรือปูนซีเมนต์ตราเสือมาผสมใช้เอง ไม่อยากจ่ายตังค์อีก แถมยังไม่มีรถไปซื้อด้วย  พอดีมีทรายละเอียดที่ซื้อมาใช้เทพื้นหลังบ้าน (ซื้อจากท่าทรายบ้านหมอสม ราคาถุงละ ๒๐ บาท ) ไปสำรวจดูแล้ว พบว่ามีเหลืออยู่ ๒ ถุงครึ่ง และมีปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ (สำหรับงานโครงสร้าง) เหลืออยู่ประมาณ 2/3 ถุง.... 

นี่ครับ! ทรายละเอียด... ผมยกจากข้างล่างขึ้นมาบนดาดฟ้า!


คงต้องปูกระเบื้องทั้งหมดด้วยปูนทรายที่ผสมเอง คิดดูแล้วทั้งปูนและทรายที่มีอยู่ก็น่าจะพอ  ข้อที่น่าเป็นห่วงคือ เจ้าปูนซีเมนต์ที่มีอยู่ มันเป็นปูนปอร์ตแลนด์ ประเภท ๑ สำหรับงานโครงสร้าง 


ปูนชนิดนี้มีคุณสมบัติแห้งเร็ว ซื้อมาเก็บไว้ได้หลายเดือน ปรากฏว่าแข็งเป็นก้อนตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดถุงนำออกมาใช้ ผมต้องใช้ค้อนทุบให้ละเอียดก่อนนำไปผสม...


(คำเตือน - อย่าลืมสวมเครื่องป้องกันด้วยนะครับ)


เตรียมทรายละเอียด ในอัตรา ๒ ส่วนต่อปูน ๑ ส่วน...
  

ใช้เกรียงยักษ์ผสมปูนกับทรายให้เข้ากัน ผมใช้ทราย ๘ ถัง (ถังน้ำแข็งสูงประมาณ ๑ คืบ) ปูน ๔ ถัง เนื่องจากใช้ปูนผิดประเภท จึงต้องนำกาวซีเมนต์มาผสมอีก ๒ ถัง เพื่อช่วยให้เกิดความเหนียวและแห้งช้าลง 

ผสมเข้ากันดีแล้วได้กองใหญ่ ผมแบ่งออกมาครึ่งนึงก่อน....


ผสมน้ำแล้วคนให้เข้ากัน..


ตักใส่ถังไปปูกระเบื้องได้เลย...


ปูกระเบื้องได้ ๖ ตารางเมตรแล้ว ค้างอีก ๗ แผ่นที่จะต้องปู.... 


ยังมีทรายละเอียดกับปูนกาวเหลืออยู่ในปริมาณที่พอเพียง...


วันนี้เป็นเรื่องของคนขี้เหนียวครับ...

Saturday, May 24, 2014

เสาร์สำราญ...

ทุก ๆ วันเสาร์...ผมมีความสุขเมื่อได้สอนน้องเมเปิ้ลให้เล่นไวโอลิน! 


ย้ายมาอยู่ห้างฉัตรเกือบครบปี...บ้านก็ยังปรับปรุงไม่เสร็จสักที สีก็ทาไปได้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ (อย่างที่เห็นในภาพ) ห้องเล็ก ๆ ตรงระเบียง(ด้านหลัง) ที่ผมตั้งใจว่าจะใช้เป็นห้องเรียนก็ยังไม่ได้ลงมือทำ น้องเมเปิ้ลกับน้องชายชื่อ "แกรม" ต้องเรียนตรงนี้กันไปก่อน....

เมเปิ้ลบอกว่า "ยุงกัด"  งั่ม ๆ คนสอนก็โดนยุงกัด แต่ไม่พูดเท่านั้นเอง!


ที่นี่คงเป็นที่เดียวที่ผู้ปกครองทั้งพ่อแม่มานั่งฟังการสอนอยู่ด้วย...


วันนี้ทบทวน scales และเพลงเก่า ๆ ก่อนที่จะเรียน  Concerto No. 2, 3rd movement ของ  F. Seitz (เพลงแรกในตำราซูซูกิเล่ม ๔)  ตอนนี้เกือบจบแล้วครับ!



อ่อ...ลืมแจ้งอีกครั้งว่าเด็กอนุบาลยังคงมาเรียนเครื่องสายได้ฟรีอยู่เหมือนเดิมนะ โตขึ้นแล้ว...ถ้ายังไม่ยอมแพ้ ก็เรียนฟรีต่อไปได้จนกว่าคนสอนจะหมดแรง...

อย่าลืมพกยาทากันยุงมาด้วยก็แล้วกัน อิอิ!

Friday, May 23, 2014

ที่บ้านฝนตกทุกวัน...

กรมอุดตูด เอ้ย..อุตุนิยมวิทยาแห่งประเทศไทยได้รายงานสภาพอากาศว่า "ที่ห้างฉัตร บ้านลุงน้ำชา มีฝนตกทุกวัน ปริมาณน้ำฝนมากบ้างน้อยบ้าง...แล้วแต่อารมณ์เจ้าบ้าน!"


ไม่ว่าอากาศจะร้อนแค่ไหน แต่ที่นี่หัวใจชุ่มฉ่ำเสมอ...


ต้นไม้ใบไม้ก็ดูเหมือนจะพอใจที่มีฝนตกทุกเช้า...


Raindrops keep fallin' on my head...

Monday, May 19, 2014

แผนที่มัณฑะเลย์จากคนขี่มอเตอร์ไซค์

เคยเล่าว่าที่ Royal Guest House ในมัณฑะเลย์ ผมซื้อน้ำดื่มขวดละ ๓๐๐ จ๊าด หรือประมาณ ๑๐ บาท ผมนำภาพมาโพสต์อีกครั้ง เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้เห็นแผนที่เมืองมัณฑะเลย์ซึ่งทางโรงแรมถ่ายเอกสารไว้แจก...

(Tip - พักโรงแรม อย่าลืมขอแผนที่จากเคาน์เตอร์ reception ไม่มีให้ไม่เป็นไร ขอไว้ก่อนเป็นดี) 


โรงแรมประเภท budget อย่างที่ผมพัก แผนที่แจกฟรีอาจเป็นแค่เพียงกระดาษ A4 ถ่ายเอกสารให้  แต่ก็ใช้ได้นะ  ประโยชน์ของมันคือช่วยให้หาทางกลับที่พักได้  หากออกไปเดินเที่ยวแล้วหลง!

เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๗ ผมออกไปเดินชมเมือง โดยนำแผนที่(ถ่ายเอกสาร) ติดมือไปด้วย ทำให้รู้ได้ว่าเดินถึงถนนอะไรแล้ว...  


ผมไปหยุดอยู่ตรงสี่แยก มองไปข้างหน้าเห็นอาคารขนาดใหญ่...



มีมอเตอร์ไซค์รับจ้างยืนอยู่ใกล้ ๆ...ผมเข้าประชิดตัวแล้วถามว่านั่นคืออะไร?  คำตอบคือ "ตลาดเซโจ (Zegyo Market)"  สารภีพม่ามองแผนที่ในมือผม แล้วหยิบกระเป๋าตังค์ออกมาเปิด ล้วงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาคลี่ ก่อนที่จะยื่นให้...    

มันคือแผนที่ Mandalay (แจกฟรี) ของโรงแรม Golden Dream พิมพ์อย่างดีบนกระดาษอาร์ต...  

พับเก็บไว้อย่างดีในกระเป๋าตังค์... ยังอุตส่าห์แคะออกมาให้!

Sunday, May 18, 2014

มิสเตอร์แบนโจ

ผมเคยเขียนเรื่อง "ตำราแบนโจ"  ไว้ในบล็อก "ฟังลุงน้ำชาคุย"   วันนี้คิดถึงคุณปิว เจ้าของร้าน Cowboy Corner ตั้งอยู่ตรงหัวมุมสามแยกโรงน้ำแข็ง...


คุณปิวนับว่าเป็นมือแบนโจคนเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในลำปาง ผมอยากจะเรียกชายคนนี้ว่า "มิสเตอร์แบนโจ"


ผมเคยมีตำราแบนโจอยู่หลายเล่ม แต่มันหายไปพร้อม ๆ กับการชำรุดของ hard disk แต่วันนี้โชคดีไปค้นเจอเล่มนึง คือ American Banjo เป็นตำราสอนให้เล่นแบนโจแบบ Three-Finger and Scruggs Style  


wikipedia อธิบายเกี่ยวกับ Scruggs Style ไว้ว่า...
Scruggs style is the most common style of playing the banjo in bluegrass music. It is a fingerpicking method, also known as three-finger style. It is named after Earl Scruggs, whose innovative approach and technical mastery of the instrument has influenced generations of bluegrass banjoists ever since he was first recorded in 1946. It contrasts with earlier styles such as minstrel, classic or parlor style (a late 19th-century finger-style played without picks)
๗๐ หน้า...สอนให้เล่นเพลงสไตล์ bluegrass เกือบ ๔๐ เพลง มีเพลงที่ผมชอบหลายเพลง อย่างเช่น Wildwood Flower

เพลง Train 45 ผมไม่รู้จัก แต่คิดว่าคงน่าเล่น...


แหม...ถ้าคุณปิวเล่นเพลงพวกนี้ คงจะสนุกไม่น้อย!

Saturday, May 17, 2014

Quarter tone


หยิบเส้นก๋วยเตี๋ยวมา ๒ เส้นให้ยาวเท่ากัน วางบนโต๊ะ แล้วใช้มีดตัด....เส้นหนึ่งแบ่งครึ่ง อีกเส้นหนึ่งแบ่งสี่ ให้เท่า ๆ กัน... 

เพื่อน ๆ ที่รักครับ ผมกำลังพูดถึงเสียงดนตรี  เส้นก๋วยเตี๋ยวแต่ละเส้น (ตอนที่ยังไม่ตัด) มีค่าเท่ากับ 1 whole tone คือจากปลายหนึ่งไปยังอีกปลายหนึ่ง หรือถ้าเป็นเสียงร้องก็...โด - เร

ทีนี้เจ้าเส้นที่ถูกตัดครึ่ง ก็คือเสียง  โด...ดี....เร  แต่ละเส้นเท่ากับ semitone   ส่วนเส้นที่ถูกตัดแบ่งเป็น ๔ ส่วน ก็คือเสียง  โด...ดู...ดี...เด...เร  แต่ละเส้นเท่ากับ quarter tone

(หมายเหตุ - เสียง ดู และ เด นั้น ผมคิดขึ้นมาเอง เพื่อให้สามารถร้อง quarter tone ได้ง่ายขึ้น)

เพื่อน ๆ ที่เป็นนักดนตรี หัดเขียน notation สำหรับ quarter tone ไว้บ้างนะครับ...


การเล่นด้วยเครื่องดนตรีก็ไม่ยาก ท่าน ผศ. แม้วสามารถจับทรอมโบนมาเป่า Quarter tone scale ได้เลย ยิ่งพวกเครื่องสายอย่างไวโอลิน วิโอล่า เชลโล่ หรือเบส...ก็ยิ่งซำบาย!

ส่วนการขับร้องก็ให้เพื่อน ๆ เริ่มร้องแบบ chromatic ก่อน คือแค่เพียง โด - ดี - เร จากนั้นจึงค่อยแบ่งย่อยลงไปอีกเป็น  โด - ดู - ดี - เด - เร  หัดร้องให้ชำนาญ จนแบ่งให้ละเอียดได้เลย!

เด็กคนนี้รู้จัก quarter tone ครับ...


ครูดนตรีจะร้องโด่หรือเด่....เป็นใช้ได้หมด ขอเพียงให้รู้จัก quarter tone ไว้บ้าง เด็ก ๆ ถามจะได้ตอบถูก! 

Friday, May 16, 2014

กาวซีเมนต์

วันศุกร์อีกแล้ว!  ทำไมวันเวลาถึงได้ผ่านไปรวดเร็วเช่นนี้?    

"ธงฟ้า-สินค้าราคาถูก" โดยกรมการค้าภายในมาตั้งร้านเปิดเพลงดังลั่นตั้งแต่เช้า... 


"เค้าใช้ลำโพงอะไรนะ ทำไมมันถึงดังได้ถึงขนาดนั้น"  ผมคิด...ขณะเดินขึ้นไปสำรวจ green workshop บนดาดฟ้า!

เปิดฝนเทียมรดน้ำต้นไม้ซะหน่อย ใจจะได้เย็นลง!


ต้นพริกขี้หนูยิ้มร่า...


ผมขนกระเบื้องขึ้นไปเตรียมไว้...เห็นข้างกล่องเขียนว่า "ไม้เรือนชาน บราวน์ เกรด 1" เป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 12" x 12"  หนึ่งกล่องมี ๑๑ แผ่น ใช้ปูได้เนื้อที่ ๑ ตารางเมตร...


อุ้มถุงกาวซีเมนต์น้ำหนัก ๒๐ กิโลกรัมไปเตรียมไว้ด้วย ข้างถุงเขียนว่าสำหรับงานปูกระเบื้องแบบดูดซึมน้ำ(เซรามิค)


ทุกทีผมผสมเองด้วยปูนกับทรายละเอียด ไม่เคยใช้ปูนประเภทนี้มาก่อน...


เย็นนี้ผมทดลองปูกระเบื้องดูหน่อยด้วยปูนกาว...


เพื่อมิให้น้ำขัง ผมต้องให้กระเบื้องด้านในสูงกว่าด้านนอกนิดนึง...ใช้ปูนค่อนข้างหนาในช่วงแรก!


งั่ม ๆ แค่ปูกระเบื้อง ๗ แผ่น ผมใช้ปูนกาวไปแล้วเกือบครึ่งถุง!


สะดวกและดีจริง ผมคิดว่ากาวซีเมนต์เหมาะสำหรับปูกระเบื้องผนัง และปูพื้นที่ได้เทปูนปรับระดับไว้ดีแล้ว ถ้าจะปูพื้นหลาย ๆ ตารางเมตรแล้วต้องเสริมปูนเพื่อปรับระดับ ผสมปูนทรายเองน่าจะประหยัดตังค์ได้มากกว่า!

มีปูนกาวอยู่แค่ ๒ ถุงเอง... ไม่รู้ว่าจะพอใช้หรือเปล่า?