Wednesday, April 29, 2015

Morning Ride

เช้านี้ออกไปปั่นจักรยานตั้งแต่ ๖ โมงครึ่ง...ตั้งใจว่าจะใช้เวลาสัก ๒ ชั่วโมง!  เส้นทาง morning ride วันนี้ผมกะจะปั่นผ่านบ้านแม่ฮาวแล้วไปให้ถึงบ้านปางม่วงโน่นเลย!


จากบ้านห้างฉัตร (1) ผมขี่เจ้ายักษ์ไปเลี้ยวซ้ายที่สี่แยกไฟแดง (2)  ผ่านตลาดไปเลี้ยวขวาออกสู่บ้านแม่ฮาว  ผมรู้สึกแปลกใจที่พบว่าความเจริญได้เข้าไปยังพื้นที่แทบทุกตารางเมตร เห็นถนนคอนกรีตคดเคี้ยวไปตามทุ่งนา สวน และหมู่บ้าน ถนนสภาพเช่นนี้ บางครั้งดีกว่าทางหลวงเชื่อมต่อระหว่างเมืองต่าง ๆ ในประเทศลาวหรือพม่าเสียอีก


ปั่นไปพบวัด ๆ หนึ่ง (4) ซึ่งไม่มีป้ายบอกชื่อ และไม่เห็นมีพระภิกษุอยู่อาศัย...


ผมหยุดถ่ายภาพมาให้เพื่อน ๆ ได้ดู...




พระอุโบสถซึ่งมีพัทธสีมาครบถ้วนดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับการดูแลสักเท่าใด!



ประตูรั้วปิด! ประตูวิหารปิด! ผมได้แต่กดชัตเตอร์เก็บภาพจากข้างนอก...




ศาลาอเนกประสงค์ดูอ้างว้าง....


แต่ไม้ค้ำต้นโพธิ์ก็บอกให้รู้ว่าวัดนี้มิได้เป็นวัดร้าง ยังมีศรัทธาจากชาวบ้านเต็มเปี่ยม... 



พอดีไม่มีใครผ่านมา จึงไม่ได้ถามถึงชื่อวัดและประวัติความเป็นมา ก่อนเดินทางต่อผมถ่ายภาพอีก ๑ บาน เจ้ากล้องตัวเล็กส่งเสียงบอกว่าแบตเตอรี่หมดแล้ว!. 


ต้องเลิกล้มที่จะไปบ้านปางม่วง เพราะถ่ายรูปไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์! ผมปั่นจักรยานเข้าหมู่บ้านแม่ฮาว ผ่านตลาดสด (5) แล้วออกไปยังทางหลวงหมายเลข 1035 (ลำปาง-ห้างฉัตรสายเก่า) มุ่งหน้ากลับบ้าน หมดโอกาสได้ปั่น ๒ ชั่วโมง  ก่อนถึงบ้าน...ผมเลี้ยวซ้ายเข้าไปที่ริมทะเลสาบขามแดง ถ่ายภาพเจ้ายักษ์ไว้หน่อย (เปิดกล้องแล้วรีบกดชัตเตอร์) !


มองไปยังตึกแถวที่ผมอาศัยอยู่ เห็นเจ้า green workshop อยู่ไกล ๆ บนดาดฟ้า....


วันก่อนปั่นจักรยานได้นิดเดียวต้องกลับบ้านเพราะฤทธิ์น้ำผึ้งผสมมะนาว วันนี้ยังปั่นไม่ได้ครบกำหนดเวลาก็ต้องกลับอีกเพราะแบตหมดซะก่อน วันต่อไปก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีอะไรอีก!! 

Tuesday, April 28, 2015

น้ำผึ้งผสมมะนาว

อยากจะฟื้นฟูสุขภาพและลดน้ำหนักให้ได้สัก ๕ กิโลกรัม  ๐๖.๓๐ น. เช้าวันนี้ผมนำจักรยานออกปั่น แต่ดันไปดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว ๒ ถ้วยเพื่อระบายท้อง ไม่นึกเลยว่ามันจะทำให้การปั่นจักรยานเช้านี้ต้องสิ้นสุดเร็วกว่าที่คิด!



จากบ้านห้างฉัตร (1) ผมนำจักรยานข้ามถนนไปตั้งต้นที่หน้าสถานีตำรวจ ปั่นตรงไปเติมลมที่ปั้มน้ำมันตราหอย (2) แล้วไปแวะถ่ายรูปอาคารพาณิชย์สร้างใหม่ ความเจริญซึ่งมาสู่ย่านที่ผมอาศัยอยู่อย่างรวดเร็ว ผมจำได้ว่าเพื่อนของคุณเอกเคยบอกว่าตึกแถวที่นี่ราคาห้องละ ๓ ล้านกว่าบาท!


มีคนมาซื้อทำเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านกาแฟ และสำนักงานแล้วหลายคูหา!! 


ผมถ่ายภาพมาให้เพื่อน ๆ ได้ดู ก่อนเริ่มปั่นไปตามทางหลวงหมายเลข 11


ก่อนถึงสะพานคอนกรีต (3) ผมเลี้ยวซ้ายลัดเลาะเข้าไปตามถนนเล็ก ๆ จนทะลุออกถนนซึ่งครั้งหนึ่งเคยไปมาแล้ว.... 


หยุดถ่ายภาพตรงสามแยก (4) ไว้หน่อย...



จริง ๆ แล้วผมอยากปั่นซัก ๒ ชั่วโมง แต่เจ้าน้ำผึ้งผสมมะนาวซึ่งทำปฏิกริยาร่วมกับการสั่นสะเทือนของลำไส้ ทำให้ผมต้องรีบกลับไปเข้าห้องน้ำที่บ้าน!


ป้ายบอกทางไปบ้านหัวหนองทำให้ผมไม่หลง...


ถึงท้องจะปั่นป่วน แต่ก็ยังอดแวะเก็บภาพบรรยาศท้องทุ่งมาฝากเพื่อน ๆ ไม่ได้....








ในที่สุดก็ไปทะลุออกที่ร้านข้าวแต๋นน้ำแตงโมบ้านหัวหนอง (4) ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน 


เช้านี้ผมปั่นได้แค่ ๕ กิโลเมตร ก็เพราะเจ้าน้ำผึ้งผสมมะนาวแท้ ๆ 

Monday, April 27, 2015

ทำตามคำแนะนำของหมอพรเทพ...

เพื่อน ๆ ที่รักครับ ตั้งแต่กลับมาจาก Travellin' light ไป Bukit Lawang ผมเพิ่งเขียนบล็อกช่างเหอะได้ไม่กี่เรื่อง ส่วนงานที่รออยู่ก็ยังไม่ได้ลงมือต่อ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้ขี้เกียจถึงเพียงนี้! 

ผมลืมรายงานด้วยว่า เมื่อกลับถึงลำปางก็ต้องไปพบแพทย์ ทั้งหมอตาและหมอหัวใจ "หมอตา" คือคุณหมอพงษ์ศักดิ์ อนุจารี เป็นการไปตรวจทุก ๆ ๓ เดือน เพื่อเฝ้าดูความเสื่อมของจอประสาทตา (retina)  ยังไม่มีข่าวร้ายจากคุณหมอพงษ์ศักดิ์ ท่านบอกให้ผมดีใจว่าจอประสาทตายังแข็งแรงอยู่

ส่วน "หมอหัวใจ" ก็คือ คุณหมอพรเทพ วรวงศ์ประภา ท่านตรวจพบว่าหัวใจผมชักจะออกอาการแกว่ง ๆ จึงแนะนำให้เข้านอนหัวค่ำแล้วตื่นเช้า แทนที่จะนอนดึกแ่ล้วตื่นสาย  เมื่อคืนที่ผ่านมาผมทำตามคำแนะนำของคุณหมอ เข้านอนก่อนห้าทุ่ม ทำให้วันนี้ตื่นทันได้เห็นท้องฟ้ายามเช้า


บนทางหลวงยังมีรถราไม่มาก หลายคนอาจยังคงหลับใหล แต่ที่ทะเลสาบขามแดงหลังบ้าน...ผมเห็นคนมาหาปลาตั้งแต่เช้า!!


ออกมายืนหน้าบ้าน...ผมตั้งใจจะนำจักรยานออกปั่น


พอดีเห็นหญ้า่ขึ้นรก...


ผมเปลี่ยนใจไม่จับจักรยาน แต่ผมคว้าจอบออกมาร่ายรำกำจัดวัชพืชซึ่งถือว่าไม่เป็นมิตร ไม่ช้าก็ราบเรียบ.... 



ไม่ต้องออกปั่นก็ได้เหงื่อเหมือนกันครับ...

Sunday, April 26, 2015

Penang Street Food III


พอกลับมาจากอินโดนีเซีย ผมก็รีบค้นหาหนังสือ "Indonesian Food and Cookery" ซึ่งเขียนโดย Sri Owen ทันที!


ด้านหลังปกมีคำนิยมเขียนไว้ว่า...
Indonesian Food and Cookery is far more than a collection of recipes.  Sri Owen gives a comprehensive picture of the culture from which the cuisine has grown with charming recollections of her childhood and happy meals in her grandmother's kitchen.  There is a  splendid glossary with clear explanations of essential ingredients and substitutes where necessary, so that shopping for Indonesian cooking is made easy.  The recipes for the delicious food given in all its regional diversity are clearly written and easy to follow.  the illustrations, especially those of cooking equipment, are helpful.  A fine teaching book and a valuable contribution to culinary literature from a comparatively little known region, it opens up a whole new world of taste. 

เล่มนี้แต่หนังสือ ยังไม่มีไฟล์ pdf   เอาไว้ถ้ามีเวลาเมื่อไร ผมจะสแกน recipe และทดลองเลือกทำอาหารอินโดนีเซียมารายงานให้เพื่อน ๆ อ่านเป็นตอน ๆ ไป วันนี้ขอเขียนต่อเรื่อง Penang Street Food ก่อนนะ

11) Koay Teow Soup คิดว่าคงเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำใส่ลูกชิ้นปลา... 


12) Curry Mee ชามนี้เห็นชัด ๆ ว่าเป็นข้าวซอยแถวบ้านผมนั่นเอง!!


13) Lor Mee  ไทยวิกิพีเดียกล่าวว่า...
หมี่โลร์ (Lor mee; ภาษาจีน: 鹵麵; Pe̍h-ōe-jī: lóo-mī) เป็นอาหารมาเลเซียที่ได้รับอิทธิพลจากอาหารจีน เสิร์ฟกับน้ำซุปข้นที่ใส่แป้ง และใส่เส้นหมี่สีเหลืองแบน อาหารนี้เป็นที่นิยมของชาวจีนฮกเกี้ยนในมาเลเซียและสิงคโปร์ นำซุปที่ข้นนั้นใส่แป้งข้าวโพด เครื่องเทศ และไข่ เครื่องปรุงอื่นที่เติมเข้ามาได้แก่โงเฮียง ลูกชิ้น เนื้อปลา ไข่ต้มผ่าครึ่ง อาจเติมน้ำส้มสายชูและกระเทียมได้ นิยมใส่พริกด้วย แบบดั้งเดิมจะใส่ปลาทอดด้วย 

14) Hokkien Mee  "หมี่ฮกเกี้ยน" เป็นการผัดหมี่กับอาหารทะเล ใส่หมู ลูกชิ้น เครื่องในได้ตามใจชอบ ระหว่างผัดจะใส่น้ำซุปไปด้วย จากนั้นจะทิ้งไว้ให้น้ำซุปเดือดและซึมเข้าไปในเส้นหมี่  หมี่ฮกเกี้ยนมี ๒ แบบคือ แบบผัด และ แบบน้ำ ชาวภูเก็ตเรียกหมี่ฮกเกี้ยนน้ำว่า "หมี่เชก"


รู้เรื่องอาหารนานาชนิดไว้ก็ดีเหมือนกันนะ เพื่อน ๆ จะได้เลือกกินได้หลากหลาย....

Saturday, April 25, 2015

Penang Street Food II

ขอใช้พื้นที่บล็อกช่างเหอะเขียนถึงเรื่องอาหารต่ออีกสักระยะนึงนะครับ ผมอยากจะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับอาหารที่หากินได้ในระหว่างเดินทางท่องเที่ยวในมาเลเซีย เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้เห็นหน้าเห็นตาของบรรดาอาหารที่มีจำหน่ายทั่ว ๆ ไปเอาไว้ก่อน...  

7) Banana Leaf  มีร้านอาหารแขกอยู่ประเภทหนึ่งคือ  Banana Leaf Restaurant ถ้ามีโอกาสผมจะต้องแวะเข้าไปอุดหนุนทันที คือว่าอยากกินอาหารที่ใส่มาบนใบตองอย่างที่เห็นในภาพน่ะ หากเพื่อน ๆ สั่งอาหารแล้ว ก็ให้มองหาอ่างล้างมือ ไปล้างมือให้สะอาดก่อนเปิบข้าวด้วยมือขวา (เก็บมือซ้ายไว้)  แม้เป็นจาปาตีก็ไม่ต้องยกมือซ้ายขึ้นมาช่วยจับ ผมจำได้ว่าที่โกตาบารูมีร้านอาหารใบตองอยู่ร้านนึงซึ่งถูกและอร่อยมากกก!  ในสิงคโปร์ก็ยังพอหากินได้  


8) Mee Udang  อุดังก็คือ "กุ้ง"  ผมจึงอยากเรียกอาหารชามนี้ว่า "หมี่กุ้ง" ซึ่งไม่เหมือนกับบะหมี่เกี้ยวน้ำใสที่มีขายในบ้านเรานะครับ ที่นี่เค้าใส่กุ้งตัวใหญ่ น้ำแกงมีรสคล้ายต้มยำ ซดร้อน ๆ แซบหลาย..


9) Wan tan Mee  ผมอยากจะเรียกมันว่า "บะหมี่" ซึ่งมีทั้งน้ำและแห้ง ที่เห็นในภาพคือ "บะหมี่แห้ง" หน้าตาคล้าย ๆ กับหมี่เหลืองขายที่ตลาดนัดวันพุธ (หน้าบ้านผม) กล่องละ ๑๕ บาท เพียงแต่ในมาเลเซียเค้าใส่หมู ใส่ปู ใส่ไข่ แล้วยังเหยาะด้วยซีอิ้วและน้ำมันหอย...  


10) Penang Laksa  ในไทยวิกิพีเดียกล่าวว่า "ละก์ซา (Laksa) เป็นอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยวรสเผ็ดของชาวเปอรานากันซึ่งเป็นการผสมผลานระหว่างวัฒนธรรมจีนและมาเลย์ในมาเลเซียและสิงคโปร์ รวมทั้งในอินโดนีเซียด้วย"  ส่วนเว็บ healthandcuisine.com ก็ขยายความไว้อย่างชัดเจนดังนี้...
ลักซา เป็นอาหารที่ผสมผสานวัฒนธรรมจีน โดยสังเกตได้จากลักษณะอาหารซึ่งเป็นเส้นเหมือนก๋วยเตี๋ยว เส้นลักซานั้นทำจากข้าว รูปร่างกลม ขนาดประมาณไม้ตะเกียบ เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่มหนึบอร่อย รับประทานได้เพลินดี..... ขอเน้นว่าห้ามลืมใส่ ดอนคะซุม (Daun Kesum) หรือผักแพว และบุหงากันตัน (Bunga Kantan) หรือดอกขิงป่า ลงในน้ำลักซาเด็ดขาด เพราะหากไม่มีสองสิ่งนี้ กลิ่นรสของลักซาจะไม่เหมือนอย่างต้นตำรับ และไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นลักซา
Penang Laksa ดูน่ากินนิ (ขอขอบคุณผู้ให้ข้อมูล)   


เขียนไป ๆ  น้ำลายชักไหลแล้วซิ!!!