Saturday, February 22, 2025

ตั๋วสามใบ

ลังจากออกทริปกลับมาถึงบ้าน สิ่งหนึ่งที่ผมทำคือ การเก็บตั๋วและแผ่นพับที่ได้มาในระหว่างการเดินทางเอาไว้ในสมุดบันทึกความทรงจำ 

 
 
ติดด้วยกาวลาเท็กซ์ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไฉนจึงทำ? ในเมื่ออีกไม่นานเมื่อตายไปสมุดที่มีอยู่หลายเล่มก็จะถูกทิ้งให้ย่อยสลายไปกับกาลเวลา แต่ผมก็ยังอยากทำต่อไปนะ อย่างน้อยเมื่อยังมีชีวิตอยู่ก็บอกได้ว่าเป็นตั๋วอะไร? ไปที่ไหน? สนุกอย่างไร? เป็นต้น... 
 
 
ตั๋วใบที่ 1 เป็นตํ่วรถโดยสาร น่าน-เฉลิมพระเกียรติ ผมปั่นจักรยานจากที่พักไปสถานีขนส่งน่านแต่เช้ามืด ทันเวลาได้ขึ้นรถโดยสารซึ่งมีอยู่แค่ 2 คันต่อวัน ไม่มีปัญหาเรื่องจักรยานพับเลย (ข้อนี้ชอบที่สุด) คนขับรถสุดยอดมาก ๆ ช่วยนำจักรยานเข้าเก็บไว้ใต้ท้องรถแล้วบอกให้ผมไปซื้อตั๋วได้เลย...
 
 
 ไม่จู้จี้จุกจิกคอยแต่จะเรียกเก็บเงินพิเศษ ผมซื้อตั๋วรถไปลงเมืองปอนเพราะคิดว่าสุดระยะแค่นั้น แต่พอทราบว่ารถไปจนถึงด่านห้วยโก๋น ขอเปลี่ยนจุดหมายได้อย่างง่ายดาย (ที่เห็นบนตัว...เค้าแก้จาก 101 บาท เป็น 132 บาท) ผมแค่จ่ายเงินเพิ่มบนรถ เพื่อน ๆ ลองคิดดูซิครับ จากเมืองน่านไปด่านห้วยโก๋นด้วยรถโดยสารปรับอากาศโดยมีจักรยาน เป้ และกระเป๋าตูดมดไปด้วย จ่ายแค่ 132 บาทเท่านั้น ช่างเหมาะเหลือเกินสำหรับการเดินทางท่องโลกสไตล์ลุงน้ำชา! 
 
 
ส่วนตั๋วใบที่ 2 นั้นเป็นตั๋วรถเมล์เขียว (greenbus) นั่งจากสถานีขนส่งลำปางไปสถานีขนส่งน่าน ระยะทาง 220 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 225 บาท ตกกิโลละบาท พาผมไปส่งถึงจุดหมายปลายทางพร้อมกับจักรยานพับกับสัมภาระ
 
 
จักรยานก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน คนขับช่วยหิ้วเจ้า Banian เข้าเก็บไว้ใต้ท้องรถพร้อมกับเป้และกระเป๋าตูดมดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หยอกล้อผมว่า "นึกว่าจะไม่เอาไปด้วยแล้ว"
 
 
เขาขับด้วยความเร็วจำกัด จอดรับหรือส่งผู้โดยสารตามจุดที่มิใช่สถานีขนส่งด้วยความใส่ใจ! 

 
นั่งสบายครับ แอร์เย็น มีน้ำดื่มแจกให้ด้วย...

 
ห้องน้ำบนรถก็มีด้วยนะ...
 
 
นั่ง ๆ ไปก็คิดเลยเถิดไปว่า ถ้าอย่างนี้ FB Trip ของผม หากไม่ใช้รถไฟชั้น 3 ก็เปลี่ยนมาอาศัยบริการของเมล์เขียว ผมก็สามารถไปได้หลายเส้นทาง อาทิ เชียงของ แม่สาย แม่สอด พิษณุโลก ฯลฯ แค่ปั่นจักรยานพับไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งลำปาง แล้วไปปั่นจักรยาน ณ จุดหมายปลายทางที่เลือก
 
ส่วนตํ่วใบที่ 3 เป็นตั๋วรถรางพาเที่ยวรอบเมือง จัดโดยศูนย์บริการท่องเที่ยว เทศบาลเมืองน่าน...


ค่าโดยสารคนละ 30 บาท พาเราเที่ยวประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ แวะวัด 2 แห่ง มีผู้บรรยายบนรถด้วย...
 

แค่เห็นตั๋วก็เล่าเรื่องราวได้ไม่รู้จักจบจักสิ้น ชีวิตของคนธรรมดาสามัญตัวน้อย ๆ ก็มีความสุขในการเดินทางได้มากพอ ๆ กับผู้ที่เดินจากโรงแรมหรูมาขี้นรถรางคันเดียวกัน...
 
 

ตั๋วสามใบ...ผมจ่ายไป 387 บาท พาผมเดินทางจากลำปางไปจนถึง สปป.ลาว (ได้นั่งรถรางด้วย) มันนำมาซึ่งความประทับใจมากเกินกว่าราคาที่จ่ายไป...จริง ๆ

Friday, February 21, 2025

หน้าร้อนกำลังมา

ลังจากแบกเป้ออกทริปกลับถึงบ้าน สิ่งหนึ่งที่ควรทำคือ การนำข้าวของทุกอย่างออกจากเป้แล้วนำไปตากแดดไว้หนึ่งแดด

 
วันนี้หยิบกล้อง Nikon D50 ที่คุณเมธีให้มา กล้องอะไรกันเนี่ย? มันช่างอดทนเหลือหลาย ยังคงทำงานได้ดี เวลากดชัตเตอร์ได้ยินเสียงกลไกเหมือนกับกล้องฟิล์ม มันให้ความรู้สึกที่ดีมาก ๆ   


หลอดไฟที่เปิดอยู่ยังคงใช้พลังงานจากแผงโซล่าเซลล์บนหลังคาดาดฟ้า หลังจากเปลี่ยน solar charge controller เป็น MPPT ตั้งแต่ 8 โมงเช้าผมก็ใช้ไฟฟรีได้แล้ว...
 
 
เสียอย่างเดียวคือ battery เสื่อม ทำให้ตอนกลางคืนใช้ไฟฟรีได้ไม่นาน เช้านี้ขึ้นมาถ่ายภาพบนดาดฟ้า ไม่มีอู่หลงตามติด ผมคิดถึงเหลือเกิน!!...
 
 
หลังจากรดน้ำต้นมะกรูดสม่ำเสมอ...มันก็แตกใบ พร้อมให้ผมเด็ดไปทำแกง
 

อากาศเริ่มร้อนแล้วนะเนี่ย! หน้าร้อนกำลังมา

Saturday, February 15, 2025

ร้านตี๋ใหญ่อาหารตามสั่ง ห้างฉัตร

วันนี้ผมต้องปั่นจักรยาน (สหัสเดช) ออกไปหาอาหารกินนอกบ้าน...ตอนแรกก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปกินที่ไหน?
 
 
ปั่นไปเรื่อย ๆ จนถึงสี่แยกไฟแดงบนถนน 1039 (ลำปาง-ห้างฉัตร สายเก่า) ผมเลี้ยวขวา บอกตัวเองว่าให้ลองไปกินร้านอาหารตามสั่งที่มาเปิดแทนร้านชัยอาหารตามสั่งเจ้าเดิมน่าจะดี? มาถึงแล้วจอดจักรยานไว้หน้าร้าน...
 
 
ร้านนี้ชื่อ "ตี๋ใหญ่ อาหารตามสั่ง"
 
 
 
การจัดร้านดูดีกว่าร้านเดิม...ผนังทาสีสดใส

 
พร้อมเมนูอาหารหลากหลาย...



 

 
สั่งข้าวราดเต้าหู้ผัดใบกระเพรากินครับ ราคา 50 บาท...

 
อร่อยครับ...แต่ปริมาณน้อยไปหน่อยสำหรับคนตัวใหญ่กินสองมืออย่างผม (สำหรับผู้หญิงกินก็พอดีเลย) ผมไม่ได้กินข้าวขาวมานานแล้ว รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเต็มท้องซักเท่าใด จริง ๆ แล้วรสชาติมันอยู่ตรงที่ว่าเจ้าของร้านและภรรยาเป็นคนคุยสนุก อัชฌาสัยดี ตี๋ใหญ่เป็นนักปั่นจักรยานที่ชอบการท่องเที่ยวด้วย เราก็เลยคุยกันสนุก จากนั้นผมก็ปั่นจักรยานไปที่ร้านหมูอินเตอร์ เพื่อซื้อผักและไข่ไก่...
 
 
เป็นหนึ่งในร้อยครั้งที่ผมปั่นจักรยานกลับมาถึงบ้านโดยที่ไข่ไม่แตก ซื้อไข่ไก่ร้านนี้ถูกกว่าเพื่อนครับ เบอร์ 0 30 ฟองราคา 145 บาท

 
ผักคะน้า 1 มัด ต้นหอมผักชี 1 มัด (มัดละ 10 บาท) หอมแดงแขก 20 บาท มะเขือเทศ 5 บาท...


พรุ่งนี้ค่อยทำอาหารกินเองครับ!

Saturday, February 08, 2025

FB Trip ไปทุ่งไหหิน - จากเมืองเงินไปหลวงพระบาง

สถานีขนส่งเมืองเงิน สปป.ลาว - ขอขอบคุณภาพจาก google maps

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ผมต้องเดินทางถึงเมืองเงิน สปป.ลาวให้ได้ จะได้มีเวลาพอสำหรับการปั่นจักรยานไปหลวงพระบางทางเส้นทางตัดใหม่ 4B

ถ้านอนที่อ่างเก็บน้ำปอน คงต้องออกเดินทางแต่เช้ามืดแล้วปั่นจักรยานประมาณ 40 กิโลเมตร ผ่านด่านห้วยโก๋นของไทยและด่านน้ำเงินของลาวไปยังเมืองเงิน แต่ถ้านอนที่วัดป่าเฉลิมพระเกียรติคงโอ้เอ้ได้! เพราะระยะทางไม่ถึง 10 กิโลเมตร...


เมืองเงินมีที่พักแค่ 2-3 แห่ง ผมคงจะเลือกพักในเฮือนพัก (guest house) มากกว่าโรงแรม จุดหมายแรกในเมืองเงินคือ "ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว" 

ภาพจาก google maps - ขอขอบคุณ

จากนั้นก็ไปสำรวจสถานีขนส่งเมืองเงินหรือเรียกง่าย ๆ ว่า "ท่ารถ" ทั้งนี้เพื่อหาข้อมูลเตรียมไว้ในกรณีเปลี่ยนใจไปรถโดยสาร...

ภาพจาก google maps - ขอขอบคุณ

แต่ถ้าเดินทางได้ตามเวลาที่วางไว้ คือสามารถออกเดินทางจากเมืองเงินได้ตั้งแต่เช้าวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ผมก็คงจะปั่นจักรยานไปหลวงพระบางตามเส้นทาง 4B ที่คิดไว้ ระยะทาง 166 กิโลเมตร แบ่งเป็น 3 ระยะ คงปั่นวันละไม่เกิน 60 กิโลเมตร แม้จะขึ้นเขาเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็เคยปั่นลักษณะเดียวกันตามเส้นทาง 4A มาแล้ว หากคราวนี้เตรียมตัวดี มีน้ำดื่มและเสบียงพร้อมก็น่าจะไปได้รอด วันแรก (13) อาจหนักหน่อยที่ต้องปั่น 87 กิโลเมตรให้ถึงเมืองหงสา...

 วันที่สอง (14) ปั่นจากหงสาถึงเฮือนพักมินตา ด้วยระยะทาง 46 กิโลเมตร...

 
ภาพจาก google maps - ขอขอบคุณ

วันที่สาม (15) จากเฮือนพักมินตา ปั่นอีก 30 กิโลเมตรก็ถึงจุดหมายปลายทางที่ Meet sunset hostel ในหลวงพระบาง 

 
จองที่พักไว้แล้ว (15-18 ก.พ.) จะเห็นได้ว่าเวลามันบังคับให้ต้องเดินทางให้ตรงตามกำหนด...
 


จากนั้นก็จะพาเจ้า Banian นั่งรถไปทุ่งไหหิน...

FB Trip ไปทุ่งไหหิน - ไปบ้านปอน

ลังจากปั่นจักรยนเที่ยวเมืองน่านแบบเต็ม ๆ วัน และพักอยู่ที่ hostel อีกหนึ่งคืน เช้าวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ผมจะต้องเดินทางต่อ...

 
จุดหมายข้างหน้าคือ "บ้านปอน" ซึ่งอยู่ติดกับพรมแดนไทย-ลาว Facebook เสน่ห์น่านวันนี้กล่าวว่า...
บ้านปอน ภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นที่ราบสูงและเป็นภูเขา มีแม่น้ำไหลผ่าน จำนวน 3 สาย คือ แม่น้ำน่าน แม่น้ำปอน และแม่น้ำแงน มีพื้นที่ทั้งหมด 64,798 ไร่ ห่างจากที่ว่าการอำเภอทุ่งช้างประมาณ 16 กิโลเมตร ทิศเหนือติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทิศใต้ติดกับ ต.งอบ ทิศตะวันออกติดกับ ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ...

Facebook ททท.สำนักงานน่าน ให้ข้อมูลไว้ว่า "รถโดยสารประจำทางระหว่างอำเภอน่าน-ทุ่งช้าง- ปอน สาย 2187 เริ่ม 06.00 น. - 18.00 น. ออกทุก 1 ชั่วโมง สิ้นสุดที่บ้านปอน ต.งอบ อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน"  ผมเลือกที่จะออกเดินทางแต่เช้าและใช้บริการรถโดยสารธรรมดา ๆ ซึ่งเปิดหน้าต่างให้ลมโบกพัดใบหน้าขณะดูสองข้างทาง....

ถึงปลายทางเมื่อไหร่? ผมไม่แคร์ เพราะจากบ้านปอนอีก 30 กิโลเมตรก็ถึงด่านห้วยโก๋นแล้ว หวังว่าคงมีเวลาได้ปั่นจักรยานเที่ยวชมหมู่บ้านปอน ซึ่งมีให้เลือกสองทางคือ พักค้างคืนที่นี่ หรือขี่จักรยานต่อไปจนถึงใกล้ชายแดน ถ้าจะพักที่บ้านปอนผมคงเลือกที่จะนอนใกล้อ่างเก็บน้ำ ซึ่งที่ไหนมีศาลา..ก็อาศัยนอนค้างคืนได้แล้ว (ขอให้มีอาหารและน้ำดื่ม พร้อมยากันยุง)

 
ถ้าจะกางเต็นท์ก็ ไม่มีปัญหา...น่าจะหาที่ได้
 
 
ถึงตอนนั้นก็ต้อง improvise เอาเอง คิดว่าถ้ามีเวลามากพอ ก็จะขอปั่นต่ออีก 30 กิโลเมตรไปให้ถึงวัดป่าเฉลิมพระเกียรติซึ่งอยู่ไม่ไกลจากด่านห้วยโก๋น....

 

 

ตื่นเช้าจะได้ปั่นจักรยานไปเมืองเงิน สปป.ลาว ได้แบบชิล ๆ

FB Trip ไปทุ่งไหหิน - ที่พักเมืองน่าน

ปน่านวันพรุ่งนี้...ผมจะพาเจ้า Banian ไปขึ้นรถ green bus ที่สถานีขนส่งลำปาง

เลือกรถคันที่มาถึงลำปางเวลา 10 โมงครึ่ง ถึงน่านเวลาประมาณบ่ายสาม....

ภาพจาก Facebook Greenbusthailand - ขอขอบคุณ

 
 
 
จากสถานีขนส่งน่าน (1) ผมปั่นจักรยาน 1.2 กิโลเมตรไปยังที่พักซึ่งได้จองไว้แล้ว (2)...
 
 
เพิ่งได้รับข้อความให้เช็คอินได้เอง...
 

เป็น hostel ราคาไม่แพงแต่พักได้สบาย ดังในภาพที่เห็น... 


ภาพจาก booking.com - ขอขอบคุณ

ภาพจาก booking.com - ขอขอบคุณ


ผมเลือกที่จะมาให้ถึงน่านก่อนค่ำ เพื่อจะได้มีเวลาสัก 2-3 ชั่วโมงปั่นจักรยานเที่ยววัดซึ่งอยู่ใกล้ ๆ ก่อนที่จะกลับมานอนในห้องปรับอากาศสบาย ๆ
 
ภาพจาก booking.com - ขอขอบคุณ
 
 วันรุ่งขึ้นผมมีเวลาเต็มวัน...ปั่นจักรยานเที่ยวครับ