แม้สิ้นหวังกับการปฏิรูปประเทศไทย หลังจากเงียบมานาน ผมขอปิดปากต่อไป เพื่อน ๆ อย่าหาว่าไม่รักบ้านรักเมืองเลยนะ จริง ๆ แล้วผมต่อสู้เรียกหาความยุติธรรมมาตั้งแต่อายุยังไม่ถึง ๒๐ ด้วยซ้ำ เคยลงทุนเขียนรถเก๋งตัวเองเพื่อต่อต้านสินค้าญี่ปุ่นเมื่อปี ๒๕๑๕ วิ่งฝ่าดงกระสุนที่ท้องสนามหลวงเมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ ผมเป็นเดือดเป็นร้อนทุกครั้งที่เห็นสังคมถูกเอาเปรียบ แต่วันนี้ผมต้องขอ "ขาบอยู่" ลูกเดียว!
ควักเงินที่เหลือค่อย ๆ จ่ายเลี้ยงชีพไปวัน ๆ โดยไม่รู้ว่าอีกกี่ปีจะได้หยุดกินหยุดหายใจ ผมไม่กลัวหรอกว่าเศรษฐกิจปีแพะจะโหดร้ายแค่ไหน เพราะรู้วิธีประคองตัวให้อยู่รอดด้วยการกินอยู่อย่างพอเพียง ไม่สุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือย วันนี้ขอคุยเรื่องอาหารราคาประหยัดหน่อยนะครับ...
ถ้าเพื่อน ๆ ได้ขี่รถเข้าไปในชนบท อาจเห็นคนนำผักหรืออาหารสำเร็จมาวางขายไว้ที่หน้าบ้าน หยุดแวะซื้อเลยนะ เพราะจะถูกมาก ผักหญ้าก็สดแถมยังได้เยอะ อย่างพะโล้เนี่ยก็ถุงละ ๑๐ บาทเอง!
มะเขือพวงและพริกขี้หนูสวนถุงละ ๕ บาท...
ถั่วฝักยาวมัดละ ๕ บาท ผมซื้อไว้ ๒ มัด นำมาผัดตามสไตล์ลุงน้ำชาดังนี้...
- ล้างถั่วฝักยาวให้สะอาด แช่น้ำไว้ก่อนแล้วล้างอย่างน้อย ๓ ครั้ง
- หั่นแล้วล้างอีกที
- ใส่น้ำมันลงกระทะในปริมาณพอเหมาะ (อย่าให้มาก) ตั้งกระทะจนร้อนแล้วนำถั่วลงผัด
- เหยาะน้ำปลา เติมน้ำขลุกขลิก ใช้ฝาครอบ เพียงครู่เดียวก็เอาขึ้น
ได้แล้วครับ ล้นชามเลย!
ไม่ต้องใส่ผงชูรสหรือกระเทียม ผัดกันแบบง่าย ๆ น้ำปลาก็ไม่ต้องใส่มากเพราะจะเค็มจัด ส่งผลร้ายต่อไต!
อาหารต้นทุน ๑๐ บาทถ้วยนี้ กินกับข้าวกล้องร้อน ๆ เคี้ยวกรุบ ๆ รับรองว่าอร่อยฮับ!!
No comments:
Post a Comment