Monday, August 16, 2021

ภัยใกล้ตัว

พักนี้ต้องเก็บตัวให้ห่างจากโควิด ผมขอใช้เวลาทำงานบ้านและเขียนบล็อกไปเรื่อย ๆ นะครับ อาจไร้สาระก็ต้องขออภัย...
 
ภาพจากอินเทอร์เน็ต - ขอขอบคุณ
 
การปั่นจักรยานท่องโลกแบบฉายเดี่ยว (solo cycling) ไม่ว่าหญิงหรือชาย ความเสี่ยงจะมากน้อยเพียงใด ผมคิดว่าขึ้นอยู่กับปัจจัยบางประการซึ่งนักปั่นอาจเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ทำ แต่ก็มีบางอย่างที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้  ประการแรกคือ "วัย"  ผมว่ายิ่งแก่เฒ่าเหลาเหย่ ก็น่าจะเดินทางไปได้เรื่อย ๆ โดยไม่ใครให้ความสนใจนัก จะพักค้างคืนข้างทาง ตามวัด สถานีตำรวจ เขียงนา ศาลาพักร้อน ที่ไหน ๆ ก็คงไม่ค่อยมีใครอยากเข้าใกล้ ตาแก่เมืองรถม้าได้พิสูจน์มาแล้วด้วยตนเองตอนปั่นจักรยานไปสิงคโปร์และไปขอพักที่วัดไทยบนเกาะปีนัง ผมขี่จักรยานไปคนเดียว เจ้าอาวาสปฏิเสธทันที อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นผมยังดูหนุ่มแน่นแข็งแรงก็เป็นได้..
  
 
ช่วงหลัง...พอได้กลายเป็นตาแก่หัวขาวสวมกางเกงสะดอสีน้ำเงิน ผมไปขอพักค้างคืนที่ไหนไม่ว่าวัดวาอารามหรือสถานีตำรวจ ก็ยังไม่เคยมีใครขับไล่ไสส่ง...  

 
ประการที่สอง คือ "จักรยาน"  เรื่องนี้ไม่ต้องสงกะสัย รถดี ๆ ราคาหลายหมื่นหรือเป็นแสนย่อมอยู่ในสายตาของผู้คนไม่ว่า ณ มุมใดของโลกใบนี้...
 
ภาพจาก pantip.com - ขอขอบคุณ

ปรีชา พิมพ์พันธ์ พร้อมกับเงินทุนไม่ถึง ๑,๐๐๐ บาท ออกเดินทางจากไทยไปอเมริกาด้วยจักรยานธรรมดา ๆ อย่างที่เห็นในภาพ ค่ำไหนนอนนั่น ซึ่งถ้าเป็นจักรยานราคาแพงก็น่าจะไม่ค่อยปลอดภัยนัก!
 
 
วิกิพีเดียกล่าวว่า...
ปรีชา พิมพ์พันธ์ เป็นชาวตำบลแปดริ้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา จบการศึกษาจากโรงเรียนการฝึกหัดครูชั้นสูง ประสานมิตร (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ) เมื่ออายุ ๒๕ ปี และตัดสินจะไปศึกษาต่อปริญญาโทที่ มหาวิทยาลัยแอละแบมา สหรัฐอเมริกา โดยเดินทางด้วยจักรยานเพียงคนเดียว ปรีชา พิมพ์พันธ์ เริ่มออกเดินทางตั้งแต่ วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๔ เวลา ๔.๐๐ ผ่านพม่า อินเดีย เอเชียใต้ ถึงยุโรป แล้วโดยสารเรือจากอังกฤษถึงมอนทรีออล แคนาดา ขี่จักรยานอีกช่วงหนึ่งจากมอนทรีออลไปแอละแบมา สหรัฐอเมริกาใช้เวลาทั้งสิ้น ๖ เดือนผ่าน 20 ประเทศ และหลังจากเรียนจบแล้วได้ขี่จักรยานอีกช่วงหนึ่งจาก แอละแบมาไปลอสแอนเจลิส มีเรื่องราวบันทึกในหนังสือชื่อ "ปั่นหมื่นไมล์ไปเรียนหนังสือ"
 
ประการที่สาม คือ "สัมภาระ" การเดินทางพร้อมข้าวของมากมาย แถมยังติดอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ล่อตาล่อใจ ก็ยิ่งทำให้เชื่องช้า ไม่มีความคล่องตัว ปรากฏสายตาอยู่บนถนนให้เหล่ามิจฉาชีพคอยติดตามประสงค์ร้าย... 
 
 
ภาพจากอินเทอร์เน็ต - ขอขอบคุณ

อย่าลืมนะครับว่าบางครั้งนักปั่นต้องทำตัวเป็นนินจา พร้อมที่จะหายวับไปในสุมทุมพุ่มไม้ หลบหลีกให้พ้นจากสายตาผู้คน ถ้ามีสัมภาระน้อยหรือมีสมบัติไร้ค่าก็ไม่น่าสนใจ ความปลอดภัยก็จะมีมากขึ้น
 
 
 
Jeramy เพื่อนผมเดินทางรอบโลกด้วยจักรยาน Surly อย่างที่เห็นในภาพ ผมไม่ทราบว่าตลอดระยะเวลา ๖ ปีต้องประสบปัญหาเรื่องอันตรายในระหว่างทางหรือไม่ เขาเคยแต่เล่าให้ฟังว่าออกจากเกาหลีใต้นั่งเรือขึ้นฝั่งที่จีนแล้วปั่นลงใต้เข้าเวียดนาม ครั้งหนึ่งนอนหลับพักผ่อนที่เพิงริมทุ่ง ตื่นมาพบว่าโทรศัพท์มือถือโดนขโมยไปซะแล้ว!
 

เดินทางคนเดียว อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน...

No comments: