Monday, November 29, 2010

กำไรชีวิต...

เช้านี้อากาศกลับมาหนาวเย็นอีก  เท่าที่ผ่านมานี้ผมยังไม่ต้องค้นหาเสื้อกันหนาวออกมาสวมใส่ ทั้ง ๆ ที่เดือนธันวาคมก็มาแล้ว เนี่ยถ้าหากธรรมชาติไม่แปรปรวน ร่างกายผมก็คงจะแปรเปลี่ยน หน้งคงจะหนาขึ้น ทำให้ไม่รู้ร้อนรู้หนาว (ฮา)...



เมื่อคืนนี้คลิกดูหนังเรื่อง Titanic 1997 อีกครั้ง กว่าจะจบก็เกือบตีสาม ตื่นเช้ามองนาฬิกา โห...๘ โมงกว่า รีบลุกขึ้นจัดอาหารให้พี่ชาย นำลงไปให้แล้วออกไปฉีดยา (สารสกัดจากสะเดา) ต้นไม้ พอกลับขึ้นมาชั้นสาม ดูนาฬิกาอีกที พบว่าเพิ่ง ๗ โมงกว่า แสดงว่าผมปฏิบัติหน้าที่ก่อนกำหนด ๑ ชั่วโมง ต่อนี้ไปทุกโมงยามที่ได้อยู่ดูโลกก็ถือว่าเป็นกำไรแล้วล่ะ...

พูดถึงเรื่องไวโอลิน ผมอยากรายงานถึงความก้าวหน้าของเด็ก ๆ ที่มาเรียนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่ามีมาทั้งหมด ๕ คน ขาดน้องเดียร์และโดโด้...

ความจริงแล้วผมต้องการสอนโดโด้แบบเดี่ยว ๆ เพื่อให้สามารถตามเพื่อนนักเรียนคนอื่นได้ แต่ติดอยู่ตรงที่ยังหาเวลามาเรียนไม่ได้ ผมไม่อยากเห็นโดโด้ยืนจับโวโอลินอยู่เป็นชั่วโมงโดยไม่ได้ทำอะไร โดโด้เปลี่ยนแปลงจากเมื่อปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด จากเด็กที่เคยไม่อยู่นิ่งกลับสามารถยืนอยู่ข้างผม จับไวโอลินตามพี่ ๆ รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างก็ยืนอยู่ได้โดยไม่วางเครื่อง ไม่บ่นหรือก้าวออกจากตำแหน่งจนกว่าจะถึงเวลาพัก ผมรู้สึกแปลกใจมากที่เวลาผ่านไปเพียง ๑ ปี เด็กชายตัวน้อยเปลี่ยนไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ


ไม่เป็นไรครับ สัปดาห์นี้น้องเดียร์และโดโด้ยังไม่มาก็ไม่เป็นไร ผมสอนนักเรียนที่มีอยู่ให้ก้าวเดินต่อไปทันที เริ่มต้นด้วยการทบทวนแบบฝึกหัดเดิม ๆ แล้วแนะนำบทเรียนใหม่ ผม improvise การสอนไปเรื่อย ๆ โดยยังไม่เริ่มบทเรียนของซูซูกิ คิดว่าจะเร็วเกินไปสำหรับเด็กน้อย ขอใช้แบบฝึกหัดที่คิดขึ้นเองก่อนจะดีกว่า

ผมเริ่มสอนให้จับไวโอลินในท่าพัก ท่าพร้อมเล่นสายปล่อย ฝึกจับคันชัก เคลื่อนไหวในลักษณะขึ้น-ลงลิฟท์ วิธีนำโวโอลินออกจากกล่อง ถูยางสน ปรับหางม้า ตั้งสาย เก็บเครื่องลงกล่อง ฯลฯ  แบบฝึกหัดที่ใช้ก็มี การสีแบบรถไฟและการสีโน้ตตัวกลม ช่วงนั้นมีการทำเครื่องช่วยที่เรียกว่า bowing aid จากกระดาษกล่องพัสดุด้วย

เมื่อนักเรียนผ่านการทดสอบขับรถไฟให้ตรงทาง สีถูกเส้นถูกสาย ผมก็เริ่มให้เปลี่ยนจากการใช้มือซ้ายจับที่ตัวไวโอลินให้ไปจับที่คอไวโอลิน แต่ละขั้นตอนต้องก้าวเดินไปอย่างช้า ๆ ช่วงนี้แหละที่นักเรียนจะได้เริ่มเล่นนิ้ว ๑ โดยใช้แบบฝึกหัดที่ชื่อว่า เรโด-เรโด นักเรียนจะได้ฝึกสีกับสายทั้ง ๔ สายและได้รู้จักกับการเล่นโน้ตตัวกลม ตัวดำ และตัวขาว

ต่อไปก็ให้เพิ่มการใช้นิ้วสองโดยใช้แบบฝึกหัดที่ผมเรียกชื่อว่า โดเรมีเรโด ตามมาด้วยการใช้นิ้วสามเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งนิ้วโดยใช้แบบฝึกหัดที่เรียกว่า โดเรมีฟา-ฟามีเรโด ซึ่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานักเรียนก็ได้เริ่มฝึกกันแล้ว ต้องยอมรับว่ายากขึ้นมาก ผมต้องให้นักเรียนเล่นสลับกับเสียงเปียโน ซ้ำไปซ้ำมา และกำชับให้กลับไปซ้อมที่บ้านให้มาก ๆ ด้วย นอกจากฝึกเล่นไวโอลินแล้ว นักเรียนยังได้ฝึกการขับร้องเป็นโบนัส บาร์บี้เสียงดีและร้องไม่ผิดคีย์ ส่วนเจ้าขานั้นร้องงึ่มงั่ม ๆ แต่กล้าแสดงออก

ได้สอนเด็ก ๆ ก็เป็นกำไรชีวิตแล้วครับ

No comments: