ชายผู้มีรายได้เดือนละหนึ่งพันบาท (จากการสอนนักเรียนไวโอลิน ๑ คน) ปีละไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาท แต่ไม่ยอมไปลงทะเบียนคนจน ขอกลับมาเขียนต่อเพื่อประกาศจุดยืนในสิ่งที่จะทำต่อไป...
ด้วยใบหน้าที่รองรับด้วยเหนียงคออุดมไขมันสวมกรอบแว่นตาราคา ๒๐๐ บาท บนศีรษะที่หมอบอกว่ามีอาการเส้นเลือดในสมองตีบสวมหมวกผ้าใบละ ๒๐ บาท ร่างกายส่วนล่างที่แข้งขายังเจ็บและเดินไม่ถนัด (หมอบอกว่าเอ็นข้อเข่าฉีกขาดแต่ไม่ได้รับการรักษา) ใส่กางเกงยีนส์ลูกฟูกตัวละ ๔๙ บาท ทุกอย่างที่ประกอบเป็นตัวตนของชายแก่ที่คนลาวเรียกว่า "พ่อใหญ่" ไม่มีของแพงประดับกาย ขออยู่ในสภาพนี้แต่ก็ไม่ยอมแพ้ และไม่สยบยอมให้กับเผด็จการทุกรูปแบบ...
จะขยับขยายไปอยู่ที่อื่นก็ไม่ได้แล้ว ผมต้องอยู่ปรับปรุงบ้านที่ห้างฉัตรต่อไป ในขณะเดียวกันก็จะท่องเที่ยว ถ่ายภาพ และเขียนบล็อกต่อไปเรื่อย ๆ โดยใช้เงินสำรองไปเรื่อย ๆ หวังว่าจะอยู่อีกไม่เกิน ๑๐ ปี ถ้ายาวนานกว่านั้นก็คงต้องทำตามวิธีที่เคยคิดไว้
เอาล่ะ บ่นพอแล้วครับ วันนี้ขอเริ่มคุยเรื่อง "ถั่วพู" ดีกว่า
ไปซื้อผักที่ตลาดมาหลายอย่าง มีทั้งถั่วพู ถั่วฝักยาว มะนาว ผักกระเฉด บวบ และดอกกุ่ยช่าย แต่เย็นนี้ผมเลือกที่จะผัดถั่วพูก่อน
เว็บ MedThai บรรยายถึงสรรพคุณของถั่วพูว่า...
ถั่วพูอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ ซี อี และยังเป็นผักที่มีโปรตีนสูง ซึ่งเป็นตัวช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายและทำให้ร่างกายแข็งแรง การรับประทานถั่วพูเป็นประจำจะช่วยบำรุงกระดูกและฟันได้เป็นอย่างดี เพราะถั่วพูมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง...
ซื้อมา ๒ มัด ๆ ละ ๕ บาท ฝักอ้วน ๆ ทั้งนั้น
ไม่มีแก่เลย ล้างแล้วไม่ต้องหั่น ผมใช้มือเด็ดดังเป๊าะ ๆ โยนใส่ได้เต็มชาม
จากนั้นก็นำน้ำมันมะพร้าวออกมา...
แล้วลงมือผัด...
ได้หนึ่งชาม กินกับข้าวร้อน ๆ เสียดายข้าวกล้องหมดพอดี
มื้อนี้ไม่เกิน ๒๐ บาทครับ!
2 comments:
ดีใจที่เห็นคุณลุงน้ำชากลับมาเขียนในบล็อกนี้ต่อนะครับ ช่วงที่ผ่านมากลับมาเช็คดูหลายครั้งครับ เป็นห่วงอยู่ว่าจะเลิกเขียนไป ตามอ่านมานานแล้วครับ ขอบคุณคุณลุงน้ำชาที่เขียนให้คนอ่านได้อ่านกันนะครับ
ขอบคุณมาก ๆ ครับ ลุงน้ำชาได้อ่านแล้วรู้สึกดีใจและมีกำลังใจที่จะเขียนต่อ
Post a Comment