Friday, September 18, 2015

คิดถึงคุณหมอมานะ

ผมรู้จักคุณหมอมานะมาได้หลายปี คุณหมอเคยช่วยสนับสนุนทุนในการทำเว็บ wichai.net  ครั้งหนึ่งท่านเคยโอนเงินหมื่นมาให้ซื้อกล้องถ่ายรูป...เมื่อทราบว่าผมไม่มีกล้องที่จะใช้ถ่ายภาพลงเว็บ ท่านมิให้ผมบอกเรื่องนี้กับใคร แต่วันนี้คงต้องขออนุญาตเขียนถึงนะครับ...

เนื่องจากไม่เห็นความเคลื่อนไหวในเว็บบอร์ด "คุยกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองแค" มานานแล้ว ผมรู้สึกคิดถึงคุณหมอมานะ ไม่ทราบว่าท่านลาออกจากราชการแล้วหรือยัง?   ด้วยความซาบซึ้งในน้ำใจของคุณหมอ และศรัทธาในการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน แม้จะได้อ่านเรื่องราวที่ท่านทำไว้กับสังคมเพียงย่อ ๆ จากเว็บบอร์ด...ผมก็รู้ว่าท่านเป็นบุคคลที่น่านับถือยิ่งนัก

ผมยังไม่เคยมีโอกาสได้พบกับคุณหมอมานะ แต่ได้ยินเสียงไวโอลินและฮาร์โมนิก้าที่ท่านบรรเลงใน google+  ยังดีที่พอมีรูปภาพซึ่งทำให้ผมได้เห็นใบหน้าของแพทย์ผู้เปี่ยมด้วยเมตตา จึงต้องขออนุญาตนำมาเก็บไว้ที่นี่เพื่อเป็นที่ระลึก...

ภาพจาก bkk1.in.th
ผมได้อ่านบทความที่ท่านเขียนไว้ในหัวข้อ "ทำไมจะลาออก" ซึ่งเป็นความคิดเห็นที่น่าสนใจมาก อยากให้เพื่อน ๆ ได้อ่าน โดยเฉพาะผู้ปกครองที่พยายามผลักดันให้ลูกได้เรียนแพทย์...

คุณหมอมานะท่านเขียนไว้ดังนี้ครับ...
- มีหลายคนถามผมว่า "ทำไมจะลาออก" มักจะมีคำพูดเล่นกันในหมู่แพทย์ "โง่แรกคือ เลือกมาเรียนแพทย์ โง่ที่สอง คือ มาเป็นผู้บริหาร" ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ "โง่ซ้ำซ้อน" ผมเคยเล่าให้หลายคนฟังว่า ผมโง่ที่ยอมให้เขาหลอกมาเรียนแพทย์ ทั้งๆที่รู้ตัวเองว่า ตนเองมีบุคคลิกที่ไม่เหมาะสมที่จะเป็นแพทย์ เป็นคนพูดน้อย ไม่ค่อยชอบการเอาอกเอาใจใคร แต่ผมกลับรู้สึกว่าเท่ห์ ที่ได้มีโอกาสไปเรียนแพทย์ จนผมเรียนแพทย์ขึ้นปี่ที่ ๓ ผมจึงรู้ว่า ตนเอง เลือกทางผิด ผมมิได้กล่าวหาว่า อาชีพแพทย์ไม่ดี อาชีพแพทย์เป็นอาชีพที่ดี เพียงแต่ผมมีบุคลิกที่ไม่เหมาะกับการเป็นแพทย์ การเรียนแพทย์โดยที่เราไม่ชอบ เปรียบเหมือนกับ "การได้แต่งงานกับลูกเศรษฐี ที่เขาดีพร้อมทุกอย่าง เพียงแต่เราไม่ได้รักเขาเท่านั้น" แต่ผมไม่มีทางเลือก ผมก็ตั้งใจเรียนแพทย์จนจบมาทำงาน ผมใช้เวลาอีก ๕ ปีเพื่อให้ทำใจว่าเราไม่สามารถอาชีพอื่นได้ นอกจากอาชีพแพทย์ และซ้ำร้าย ผมต้องทำหน้าที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่บรรจุเข้ารับราชการ ฟังดูเท่ห์ แต่ความจริงแล้ว มันเป็นความโชคร้าย ที่ผมไม่มีโอกาสได้เรียนรู้งานบริหารเลย ผมเริ่มเป็นผู้บริหารโดยที่ผมไม่รู้ระเบียบราชการสักข้อ ร่างหนังสือราชการก็ไม่เป็น ก็ใช้วิชา ครูพัก ลักจำ ลองผิดลองถูกมาโดยตลอด และที่สำคัญ ผมไม่มีความสามารถเชิงบริหารเลย เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหนองแค เลยตั้งฉายาให้ผมว่า "ผู้บริหารที่ใจดี(เกินไป)" เป็นคำที่กล่าวไว้ตรงที่สุด ผมเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองแซง ๘ ปี เคย "ด่า"เจ้าหน้าที่ ๑ คน และ ๑ ครั้งเท่านั้น ผมมาอยู่โรงพยาบาลหนองแค ปีนี้เป็นปีที่ ๑๙ ก็ "ด่า" เจ้าหน้าที่ไป ๑ คน และ ๑ ครั้ง เช่นกัน ผมมีความรู้สึกว่า ผมเองไม่ชอบที่จะให้ใครมา "ด่า" ผม ดังนั้นคนอื่นเขาคงไม่ชอบเช่นกันที่ผมจะไป "ด่า" เขา ดังนั้น ผมจึงเป็น "ผู้บริหาร" ที่ใช้ไม่ได้ แต่ ผมคิดว่า ผมเป็น "ผู้อำนวยการ" ที่ดี ผมก็จะพูดปลอบใจตนเองอยู่เสมอว่า "เราเป็นผู้อำนวยการที่ดี" ก็ตำแหน่งของเราเป็น "ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองแค" นี่  ไม่ใช่ตำแหน่ง "ผู้บริหารโรงพยาบาลหนองแค" ผมชอบที่จะ Back office ให้กับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะทำงาน ผมก็มีหน้าที่ อำนวยความสะดวกให้เขา มีอะไร ติดขัด ผมก็จัดการให้ แต่ผมไม่ชอบที่จะ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำโน่นทำนี่ แต่ผมจะใช้วิธีการ ชักชวน ใครอยากทำก็มาทำกัน ใครไม่อยากทำ ก็ไม่ว่าอะไร แต่วิธีการผมของ ก็เป็นผลดีเหมือนกัน คือทำให้เจ้าหน้าที่ "คิดงานเองเป็น" ก็ผมไม่คิดให้ เขาก็ต้องคิดเอง มันเหมือนกับวิธีการเลี้ยงลูกของคนจน คือพ่อแม่ไม่ค่อยมีเวลามาทำอะไรให้ลูก ลูกจึงต้องทำเอง ทำให้ลูกเก่ง ไม่เหมือนการเลี้ยงลูกของคนรวยที่ พ่อแม่ ทำให้ลูกทุกอย่าง จนลูกทำอะไรไม่เป็น ซักเสื้อผ้าก็ไม่เป็น รีดเสื้อผ้าก็ไม่เป็น หุงข้าวกินเองก็ไม่เป็น ถ้าไม่มีพ่อแม่ ลูกก็ต้องอดตาย วิธีการทำงานของผม จะเป็นเหมือน "ม้าตีนปลาย" ทั้งการไม่ชอบวิชาชีพแพทย์ และการที่ไม่ชอบงานบริหาร นี่แหละที่ทำให้ผมคิดอยากจะลาออกอยู่เสมอ การลาออก คงไม่สามารถทำให้ผมละทิ้งวิชาชีพแพทย์ได้ ผมยังคงต้องทำวิชาชีพแพทย์ เพื่อหาเลี้ยงชีพตนเองต่อไป แต่ผมสามารถละทิ้งงานบริหารไปได้ เพื่อที่ผมจะได้มีโอกาสได้ทำงานที่ตนเองชอบ ซึ่งก็คืองานช่าง และ งานดนตรี
- ปี สองปีนี้ คนรอบข้างผม ล้มป่วยกันเป็นแถว ตั้งแต่ ภรรยาผม ที่ต้องผ่าตัด และต้องรักษาแผลอีกเป็นเดือน คุณยอดชัย ที่ต้องผ่าตัด คุณสมพงษ์ ที่ต้องเทียวเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ล่าสุดคุณเกษร ที่ต้องผ่าตัด และคุณอัมพร ที่ต้องใส่เสื้อพยุงหลัง เดินขโยกขเยก ความเครียดเป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วย สักวันหนึ่งผมก็ต้องเจ็บป่วย แต่ก่อนที่จะเจ็บป่วยผมก็ขอดูแลตนเองอย่างเต็มที่ การลาออกจะทำให้ความเครียดของผมลดลงไปมาก ปัจจุบันผมต้องเครียดกับสิ่งที่ผมไม่ได้ทำมาก แพทย์รักษาคนไข้ผิด ผมก็ถูกตำหนิในฐานะผู้อำนวยการ แพทย์ดุคนไข้ ผมก็ถูกตำหนิในฐานะผู้อำนวยการ พยาบาลพูดจาไม่ไพเราะ ผมก็ถูกตำหนิในฐานะผู้อำนวยการ เจ้าหน้าที่ทะเลาะกัน ผมไม่ไปตัดสิน ผมก็ถูกตำหนิ ผมไปตัดสินว่าฝ่ายนี้ถูก ฝ่ายนั้นผิด ฝ่ายที่ถูกผมตัดสินว่าผิด ก็ตำหนิผม ทั้งที่มูลเหตุทั้งหมด ผมไม่ได้เป็นผู้ก่อเลย ทั้งหมดเป็นเพราะ ผมมีตำแหน่งเป็น "ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองแค"
- นี่แหละคือคำตอบ "ทำไมจะลาออก" 
ต้องกราบขออภัยที่นำข้อเขียนของคุณหมอมานะมาเก็บไว้ที่นี่โดยมิได้ขออนุญาตเจ้าของก่อน ผมคิดว่าข้อเขียนดี ๆ อย่างนี้หาอ่านไม่ได้ง่ายนัก  เกรงด้วยว่าเมื่อไม่มีเว็บบอร์ด "คุยกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองแค" อีกหน่อยบทความนี้อาจถูกลบทิ้งไป

บล็อกช่างเหอะขอนำมาแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านครับ...

1 comment:

มานะ said...


สวัสดีครับ คุณวิชัย ผมสบายดีครับ ตอนนี้ลาออกจากรราชการแล้ว ทำคลีนิกส่วนตัว หัดวาดรูป เล่น ไวโอลิน ฮาร์โมนิกา ทรัมเป็ต ทุกอย่าง ก็พอเอาตัวรอดได้ ตอนนี้ก็หนักที่หัดวาดรูปครับ ผมมีแผนว่าจะขึ้นไปเชียงรายต้นปีหน้า จะไปวัดร่องขุ่น ไปบ้านดำของคุณถวัลย์ แล้วก็จะไปเชียงแสน คงจะมีเวลาแวะไปเยี่ยมครับ ขอเบอร์ติดต่อด้วยครับ ของผม 081-994-6468