ผมไปตลาดนัดวันพุธซึ่งจัดอยู่ใกล้บ้าน เห็นแม่ค้านำเผือกมาวางขายถุงละ ๑๐ บาท มันไม่ใช่เผือกหอมหัวใหญ่ ๆ แต่เป็นเผือกหัวเล็ก ...
ปกติก็ไม่ค่อยอยากเล่นกับเผือก เพราะรู้ว่ามันมีสารอะไรไม่รู้ทีทำให้คัน แต่ก็อดซื้อมา ๒ ถุงไม่ได้เพราะรู้สึกเห็นใจผู้ขุดเผือกขุดมันมาวางจำหน่าย ในขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่ได้แต่เดินผ่านไปมา วิกิพีเดียกล่าวว่า...
พันธุ์เผือกที่พบในไทยแบ่งได้ 4 พันธุ์คือ
- เผือกหอม เป็นชนิดหัวใหญ่ มีหัวเล็กติดอยู่กับหัวใหญ่เล็กน้อย ต้มรับประทานมีกลิ่นหอม กาบใบใหญ่สีเขียว
- เผือกเหลือง หัวขนาดย่อม หัวสีเหลือง
- เผือกไม้หรือเผือกไหหลำ หัวมีขนาดเล็ก
- เผือกตาแดง ตาของหัวมีสีแดงเข้ม มีหัวเล็ก ๆ ติดอยู่รอบหัวใหญ่ เป็นกลุ่มจำนวนมาก กาบใบและเส้นใบสีแดง
medthai.com ให้ข้อมูลว่า...
เผือกช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย บำรุงร่างกายให้แข็งแรง ใช้เป็นยาลดไข้ มีธาตุเหล็กและฟลูออไรด์สูงช่วยป้องกันฟันผุ ทำให้กระดูกแข็งแรงได้ หัวเผือกเป็นอาหารที่ช่วยบำรุงลำไส้และแก้อาการท้องเสีย ช่วยบำรุงไต หัวเผือกเป็นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง มีโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม วิตามินบี 1 วิตามินซี และสารอาหารอื่น ๆ เกือบครบทุกชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย (แม้ว่าจะมีปริมาณไม่สูงมากนัก) เผือกจึงเป็นอาหารที่ให้พลังงานและบำรุงสุขภาพไปพร้อมกัน มีรสหวานจืดอมมันนิดหน่อย ย่อยได้ง่าย เหมาะทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ (แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะเผือกมีแคลอรีสูง)เอาเหอะ ไหน ๆ ก็ซื้อมาแล้ว คิดว่าน่าจะเป็นเผือกไม้ (?) การปอกเปลือกเผือกหัวเล็ก ๆ สำหรับผมแล้วนับเป็นการฝึกสมาธิและทดสอบความอดทนได้เป็นอย่างดี เผือกที่ซื้อมา ๒๐ บาทปอกเปลือกแล้วได้เกือบเต็มจาน...อย่างที่เห็น
ข้อควรระวังในการรับประทานเผือก หัวและทั้งต้นมีผลึกแคลเซียมออกซาเลต (Calcium oxalate) ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้คัน จึงไม่ควรรับประทานแบบดิบ ๆ ต้องนำมาผ่านการต้มหรือหมักก่อนถึงจะรับประทานได้ สำหรับบางรายก็อาจมีอาการแพ้เผือกได้ แม้จะทำให้สุกแล้วก็ตาม โดยอาการที่พบ คือ คันในช่องปากและลิ้นชา การรับประทานเผือกในปริมาณมากเกินไปจะทำให้ม้ามทำงานได้อย่างไม่เป็นปกติ
เจ้าหัวเล็กหัวน้อยที่เลือกออก ผมกะว่าจะลองเอาไปฝังดิน (อยากรู้ว่ามันจะแตกหน่อหรือเปล่า?) ส่วนเศษเปลือกกองใหญ่ก็เอาไปทำปุ๋ย....
หั่นซะหน่อยแล้วล้าง ตอนนี้เริ่มคันแล้วจ้า เจ้ายางเหนียว ๆ นั่นแหละ หุหุ ผมนำเผือกแช่น้ำ คิดเอาเองตามประสาผู้ไม่มีความรู้ ตักเกลือป่นใส่ลงไปด้วยจำนวนนึง (จะได้ผลในการกำจัดสารพิษจากเผือกหรือเปล่าไม่รู้?) แช่น้ำไว้พักใหญ่แล้วเปลี่ยนน้ำ ยังไม่พอคราวนี้เอาน้ำส้มใส่อีก แช่อีก
No comments:
Post a Comment