รู้สึกดีใจที่ได้มาอยู่ห้างฉัตร เพราะชีวิตที่นี่สุขสงบและเรียบง่าย (easy-going) ยิ่งได้ "ขาบอยู่" หรือที่คุณเดชาหมายถึง"กบดาน" อย่างทุกวันนี้ ผมไม่อยากได้อะไรมากกว่านี้อีกแล้ว!
ก่อนเที่ยงวันนี้ ผมคว้าเจ้ายักษ์ขี่ออกจากบ้าน ยังไม่ทันได้เหงื่อก็ถึงที่ทำการไฟฟ้าฯ เข้าไปจ่ายค่าไฟก็ไม่ต้องรอคิวนาน (มาอยู่ห้างฉัตรค่าไฟฟ้าลดลงจากที่เคยใช้ตอนอยู่บ้านปงแสนทองจากพันบาทเหลือ ๗๐๐ กว่าบาท)
จากนั้นผมก็ปั่นไปไปรษณีย์ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่ทำการไฟฟ้า เนี่ยก็ง่ายอีกเช่นกัน!
บริการรวดเร็วทันใจ คนไม่มาก...ใช้เวลาไม่นาน
บุรุษไปรษณีย์หนุ่มที่ไปส่งจดหมายก็ช่างดีเหลือเกิน เรื่องเขียนว่า "บ้านปิด" แล้วให้ไปรับเอง ที่ห้างฉัตรไม่เคยมี แม้ประตูบ้านจะปิดอยู่..เค้าก็โทรศัพท์เรียก หากไม่อยู่จริงก็นำพัสดุไปฝากไว้ที่ร้านลำแต้ ทุกคนล้วนมีน้ำใจ!
ธนาคารรึก็อยู่ไม่ไกล! จากสี่แยกไฟแดงปั่นเลี้ยวซ้ายไปอีกนิดเดียวก็ถึง "ธนาคารทหารไทยสาขาห้างฉัตร" ซึ่งบริการเป็นเลิศ... ต้องยกนิ้วให้ ไม่ต้องรอนานอีกเช่นกัน!
จากธนาคาร...ขี่เจ้ายักษ์ไปอีกนิดก็ถึงตลาด
ถนนหนทางโล่ง...ขับขี่สบาย
เอาหละ! มาดูการจับจ่ายของคนกินผักกันหน่อย ที่นี่แม่ค้านำผักจากสวนมาวางจำหน่าย ถ้าเป็นไปได้...ผมมักเลือกซื้อผักปลอดสารพิษนำไปทำอาหาร ถูกด้วยครับ ผักหญ้าที่เห็นแขวนเต็มหน้ารถทั้งหมดแค่ ๕๐ บาทเอง
มาแจงกันหน่อย...
มะนาว ๑๐ บาท...
แตงกวา ๑๐ บาท...
กะเพราะขาว ๒ มัด ๑๐ บาท
ฟักทองชิ้นละ ๑๐ บาท
กะเฉด ๑๐ บาท...
มีเต้าหู้อีก ๓ แผ่น ๒๐ บาท...
แวะซื้อไข่ไก่อีก ๑๐ ฟอง ๓๐ บาท...
No comments:
Post a Comment