ทุกวันนี้พี่ชายก็ยังคงอาศัยอยู่กับผม เค้านอนติดเตียงวันละกว่า ๒๐ ชั่วโมง รอให้ผมขี่จักรยานยนต์เวียนหัวไปซื้ออาหารมาให้กินเกือบทุกวัน ในขณะที่ผมรู้สึกอ่อนล้า ร่างกายเริ่มประท้วงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคืออาการเวียนศีรษะ
ไม่มีบำเน็จบำนาญ...เหลือเงินแค่ ๑ ล้านบาทเพื่อใช้ดำรงชีวิตต่อไปจนกว่าจะตาย เอาไปฝากธนาคารในสภาพเศรษฐกิจตกต่ำได้ดอกเบี้ยเดือนละไม่ถึง ๒ พันบาท ผมเอาไปช่วยคนอื่น..
เดินทางไปเยี่ยมพี่จ๋าที่เชียงใหม่ต้องเช่าโรงแรม ต้องกินอยู่ ผมก็ควักเงินสำรองจ่ายไปเรื่อย ๆ
ค่าใช้จ่ายประจำคือ ค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าเน็ต ตกเดือนละพันกว่าบาท ในขณะที่มีรายได้จากการสอนไม่ถึง ๒,๐๐๐ บาท (คิดเป็นปีก็ไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท) มีคนโทรศัพท์บอกให้ผมไปลงทะเบียนคนจน เผื่อว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากรัฐ
แต่ผมไม่ไป ที่ไม่ไปเพราะไม่สนใจในนโยบายจากรัฐบาลที่มาด้วยความไม่ชอบธรรม ผมไม่ยอมรับเช่นเดียวกับที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา...
จะขาบอยู่ (กบดาน) ให้ได้ หากเพื่อน ๆ ไม่เห็นตาแก่คนนี้ออกมาพบปะสังสรรค์ด้วย ก็โปรดเข้าใจว่ามันยังอยู่ได้อย่างทรนง ไม่ยอมร้องขอในเมตตาจากใครทั้งสิ้น!
No comments:
Post a Comment