สมแล้วที่คุณแม่เรียกบรรดาข้าวของที่ผมเก็บไว้ว่า "สัมภารก" จริง ๆ ด้วย...ทุกวันนี้ผมนอนอยู่ท่ามกลางกองสัมภารก!!!!
เพื่อนผมบอกว่าคนที่เป็นช่างมักไม่ยอมทิ้งอะไรง่าย ๆ (แต่มักเก็บไว้ให้รกบ้าน) เค้าส่งรูปที่เคยถ่ายที่บ้านปงแสนทองมาให้ดูอีกบานนึง โห...นั่นห้องทำงานของผมรึเนี่ย? นึกว่ารังหนูซะอีก!
รูปภาพเก่าใบเล็ก ๆ ที่อัดขยายจากฟิล์มซึ่งถ่ายไว้ในอดีต ผมหยิบขึ้นมาดู มันยังคงบอกเล่าถึงการเดินทางผจญภัยในอดีต ซึ่งน้อยคนจะมีโอกาสเช่นผม....
สะพานข้ามแม่น้ำอิรวดี ถ่ายตอนลงเรือจากมัณฑะเลย์ใช้เวลา 3 วัน 2 คืนล่องผ่าน ปะโคะกู ไปจนถึงเมือง พุกาม ผมใช้กล้อง Rollie 35 ใส่ฟิล์ม Agfa เก็บภาพไว้ในเช้ามืดวันที่ออกเดินทาง จำได้หมดว่าต้องตื่นก่อนไก่โห่ นั่งสามล้อไปที่ท่าเรือ ลงไปนอนรอในเรือ...
อีกเกือบ 20 ปีผ่านไปผมได้ทำแบบเดิมอีกครั้ง นั่งเรือจากมัณฑะเลย์ไปลง ปะโคะกู ลงจากเรือคนเดียว ท่ามกลางความมืด หาทางไปยัง guest house ที่เก็บความประทับใจเอาไว้ไม่รู้เลือน....อีกรูปหนึ่งถ่ายด้วยฟิล์มขาวดำ มีอายุมากกว่าภาพสะพานข้ามแม่น้ำอิรวดี คือรูปโครงกระดูกวาฬซึ่งตั้งโชว์อยู่ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ มศว.บางแสน ผมปั่นจักรยาน (เจ้าอามุย) จากกรุงเทพฯ ไปบางแสน แวะชมพิพิธภัณฑ์และนอนค้างคืนบนชายหาด....
แค่เห็นรูปเก่า ๆ ก็เล่าประสบการณ์ให้เพื่อน ๆ ฟังได้ไม่รู้จบแย้ว! เสียดายที่การเขียน Diary ของผมเลิกลาไปหลายปี แม้จะพยายามกลับมาเขียน ก็ไปได้แค่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ
ไม่งั้นคงมีอะไรมาเล่าได้มากกว่านี้!
No comments:
Post a Comment