Wednesday, November 06, 2024

เมื่อช่างเหอะปวดหัว

ข่าวร้ายประจำวันนี้คือ คอมพิวเตอร์ตัวเก่งของผมเสียแล้วจ้า!!
 
 
คอมพิวเตอร์ตัวหลักที่ตั้งไว้บนโต๊ะทำงานชั้นสองเป็นเครื่องประกอบเอง ใช้เมนบอร์ด AM4 ซีพียู AMD A10-9700 4 cores ความเร็ว 3.5 GHz ระบายความร้อนด้วยระบบ liquid cooler ใส่แรม DDR4 สองตัว (รวม 16 GB)  เมื่อปีกลาย...มันเดี้ยงมาครั้งนึงแล้ว สาเหตุเพราะCPU เสีย ช่างเหอะต้องซื้อ CPU มือสองมาเปลี่ยน ทำให้สามารถใช้งานต่อได้อีกหนึ่งปีเต็ม! มาถึงวันนี้มันก็หยุดทำงานอย่างถาวร ตรวจสอบแล้วพบว่าเมนบอร์ดเสีย ไม่สามารถชุบชึวิตได้อีกแล้ว!! RIP A320M-HDV
 
 

รื้อมันออกมาจากเคส ผมรู้สึกเสียดายเมื่อเห็นว่าอุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งยังคงใช้ได้ล้วนเป็นของดี ๆ ทั้งนั้น อย่างเช่น RAM 2 ตัว liquid cooler SSD M.2 265 GB   

เข้าไปดูในเว็บ advice.co.th พบว่าเมนบอร์ดใหม่ที่พอจะนำมาใช้ได้ ถูกที่สุดคือ AFOX A320D4-MA5-V2 ราคา 1,550 บาท และซีพียูเอาแบบเบา ๆ ก็น่าจะเป็น AMD RYZEN 3 3200G (NEXT) ราคา 2,172 รวมแล้วสองอย่างก็ 3,722 บาท เห็นตัวเลขแล้วต้องเอามือกุมขมับ!! จะทำอย่างไรดีกับชีวีที่เหลืออยู่??หมายถึงเจ้าอุปกรณ์ที่ยังดีอยู่อ่ะนะ! ช่างเหอะได้แต่คิด ๆๆๆๆ นึกถึงชีวิตตัวเองด้วยแหละ

คิดถึง computer มือสองที่สั่งซื้อไปให้ Hermit Deja ใช้ก่อนที่เขาจะจากไป พี่สาวบอกผมว่าคอมพ์ฯ ของเดชก็โดนน้ำท่วมเสียไปด้วย อืมมม...ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืนจริง ๆ ด้วย ในเมื่อพระเจ้ามอบความรู้ให้ผมสามารถซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ด้วยตนเอง (ไม่ต้องยกไปให้ช่าง) ไยจึงไม่หาเมนบอร์ดมือสองมาเปลี่ยน แล้วทำให้มันกลับมาใช้งานได้อีกล่ะ?

หายปวดหมองแล้ว! ช่างเหอะนำ power supply ลงไปเป่าฝุ่น... เตรียมไว้สำหรับงานซ่อมที่จะตามมา!

Tuesday, November 05, 2024

เหตุเกิดหน้าศาลเจ้าพ่อขุนตาล

ดินทางจากลำปางไปลำพูนโดยใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 เราต้องผ่านดอยขุนตานซึ่งมีจุดสูงสุดอยู่ที่ศาลเจ้าพ่อขุนตาล...

เคยปั่นจักรยานผ่านจุดนี้มา 2 ครั้งแล้ว ผมรู้สึกว่ามิใช่เรื่องยากเย็นอะไร แค่ค่อย ๆ ปั่นขึ้นไป เหนื่อยก็พัก ไม่นานนักก็ถึงหน่วยบริการประชาชนซึ่งตั้งอยู่ตรงจุดสูงสุด (summit)

 

บนศาลาประดิษฐานพระศรีสามเมือง

วันนี้ผมขับรถคันเล็กเดินทางมาจากบ้านห้างฉัตร แวะรับความสับสนของคนหันมาใช้รถยนต์ที่ศูนย์บริการทางหลวงขุนตาล (2) ซึ่งร้างไปแล้ว... 

แค่อยากจอดพัก ถ่ายรูป และให้น้ำเจ้าอู่หลง...

 

อู่หลงเป็นหมาพันธุ์ผสมซึ่งมี DNA ของสุนัขจิ้งจอก ในสถานที่แปลกใหม่มันวิ่งดมกลิ่นไปทั่ว ก่อนเดินทางต่อผมต้องตามไล่จับขึ้นรถด้วยความยากลำบาก!  โชคดีที่ตรงนี้อยู่ไกลจากถนนใหญ่ ในที่สุดก็จับได้ ผมขับเจ้าเอ็ดดี้ตะกายขึ้นดอยระยะทาง 4 กิโลเมตรจนถึงจุดสูงสุด (2) ซึ่งมีหน่วยบริการประชาชน (2) ตั้งอยู่

ด้านซ้ายมือคือศาลเจ้าพ่อขุนตาล ผมเห็นป้ายหินบอกว่าเป็นอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน


 เว็บ tarsobchai.go.th กล่าวว่า...

ศาลเจ้าพ่อขุนตาล ตั้งอยู่บนดอยขุนตาล บริเวณเขตติดต่อระหว่าง จังหวัดลำพูนและลำปาง ระยะห่างจากจังหวัดลำพูนไปตาม ถนนซุป-เปอร์ไฮเวย์ลำพูน - ลำปาง ประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นสถานที่สักการะบูชาเจ้าพ่อขุนตาล ซึ่งในอดีตเป็นนักรบที่กล้าหาญชื่อ พญาเบิก เป็นบุตรของพญายีบา เจ้าเมืองหริภุญไชย พญาเบิกได้ทำยุทธหัตถีกับขุนสงครามโอรสพญาเม็งราย บ้านขัวมุงขุนช้างใกล้เวียงกุมกาม (สารภี) ถูกหอกแทงบาดเจ็บได้ตีฝ่าออกมาตั้งทัพที่บ้านตาล ขุนสงครามตามมาและสู้รบกันต่อจนสามารถจับตัวและประหารชีวิตพญาเบิกได้ในที่สุด
ศาลเจ้าพ่อขุนตาลสร้างขึ้นเป็นที่สักการะแด่ดวงวิญญาณการสร้างวีรกรรม และความกตัญญูกตเวทิตาของพระยาเบิก โอรสของพระยายีบา แต่เดิมสร้างเป็นศาลเล็ก ๆ ต่อมามีการสร้างรูปหล่อเจ้าพ่อขุนตาลและศาลขึ้นควบคู่กับศาลเดิม เพื่อให้ประชาชนได้สักการะบูชากราบไหว้ มีความเชื่อกันว่าหากผู้ใดได้อธิษฐานบนบานกับเจ้าพ่อแล้วประสบผลสำเร็จก็จะนำสิ่งของเครื่องสักการะหรือศาลพระภูมิ ดังที่เห็นเรียงรายกันอยู่มากมายมาถวายเป็นการแก้บน

ตาแก่บ้านห้างฉัตรจอดรถไว้ริมทางแล้วเดินเก็บภาพมาฝากเพื่อน ๆ


 
 


 



สักการะเจ้าพ่อขุนตาลแล้วกำลังจะออกเดินทางต่อ ปัญหาใหญ่ก็เกิดขึ้น เจ้าอู่หลงหลุดออกไปได้ ผมเรียกอย่างไรก็ไม่ฟัง จับตัวไม่ได้เลย ลองนำกล่องขนมปังออกจากรถแล้วแกล้งนั่งกินล่ออยู่หน้าศาล แต่คราวนี้เจ้าหลงไม่สนใจ มันวิ่งออกไปที่ถนน รถยนต์คันใหญ่วิ่งผ่านมา...ผมเห็นแล้วความดันฯ ทะยานสูง หมดหนทางหลอกล่อจับเจ้าหมาบ้า วิธีสุดท้ายคือตัดสินใจล้มตัวลงนอน แกล้งร้องแล้วทำเหมือนตาย เจ้าอู่หลงวิ่งมาหา ส่งเสียงร้องแล้วยื่นหัวดม เป็นโอกาสที่ผมจับมันได้ก่อนนำตัวขึ้นรถ...


ออกรถไปไกลถึงตลาดบ้านทา ผมถึงได้รู้ว่าลืมกล่องขนมปังไว้ที่นั่น!

A revisit after 5 years

จากวัดดอยติ (1) ผมตัดสินใจไปหาเพื่อนที่ป่าซาง (2) ก่อน แล้วค่อยไปอุทยานแห่งชาติแม่วาง

กับเจ้า Banian ผมเคยไปนอนค้างคืนที่บ้านเพื่อนเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2562

ผ่านมาเกือบ 5 ปี วันนี้ผมขับเจ้า Eddy มาหาอีกครั้ง...


เพื่อนเลี้ยงข้าวกลางวันผมด้วยก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ้วกับชาเย็นแก้วใหญ่...

โห...อาหารตามสั่งที่ป่าซางเนี่ยใส่หมูเยอะมาก ผมเก็บเอาไว้ให้อู่หลง

อู่หลงลงมาจากรถแล้วไม่อยู่เฉย มันวิ่งพล่านออกไปทั่วทั้งบนท้องถนน...


เหนื่อยครับกว่าจะจับตัวได้แล้วนำกลับเข้าไปอยู่ในรถ มันส่งเสียงร้องเรียกเป็นที่น่ารำคาญ คิดดูแล้ว...ถ้าไปอุทยานแห่งชาติหรือวัดวาอื่น ๆ ความสงบแบบที่ผมเคยมีกับเจ้า Banian พึงมิอาจบังเกิดเป็นแน่แท้ ผมตัดสินใจงดการไปเยือนอุทยานแห่งชาติแม่วางและผ่าช่อรวมทั้งการกลับไปเยือนบ้านทุ่งหัวช้างตามที่วางแผนไว้ บอกเพื่อนว่าได้มากินข้าวกับเพื่อนที่ป่าซางเมืองคนงามก็พอแล้ว ขอใช้เส้นทางเดิมขับรถกลับบ้านดีกว่า ตาแก่บ้านห้างฉัตรอิ่มน้ำอิ่มข้าวแล้วลากลับ เพื่อนใจดีให้ผลไม้ ขนม และน้ำดื่มติดรถกลับมาด้วย...

 
อย่างไรเสียเพื่อนก็ยังคงเป็นเพื่อน ได้มาเยือนครั้งนี้แล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้พบเจอกันอีกเมื่อไหร่?

ความสับสนของคนหันมาใช้รถยนต์

ริป Travels with Oolong - อุทยานแห่งชาติแม่วาง (เดินทางค่ำไหนนอนนั่น 3 คืน++) ได้สิ้นสุดลงแล้วด้วยความผิดหวัง!

 

หลังจากเดินทางไปกลับจากห้างฉัตรถึงป่าซางระยะทาง 140 กิโเมตร ผมกลับมานอนบ้าน มิได้นอนขดตัวอยู่ในรถตามที่ได้ตั้งใจไว้

ได้บทเรียนและคำตอบจากการเดินทางครั้งนี้มาตามสมควร ข้อแรกคือปัญหาของเจ้าอู่หลง ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะทำให้ทริป Travels with Oolong ทำไม่ได้อีกต่อไป (แล้วจะเล่าให้ฟังอีกที)  อีกข้อนึงคือการเปลี่ยนแปลงของถนนหนทางและสถานที่ ซึ่งมิอาจทำให้ตาแก่วัย 70+ อย่างผมปรับตัวได้ทัน

สำหรับเจ้า Eddy รถยนต์ 3 ประตูขนาด 850 ซีซีที่ผมอยากใช้เป็นยานพาหนะพาผมกับเจ้าอู่หลงท่องเที่ยวทั่วไปนั้น จากทริปนี้พอจะกล่าวได้ว่ามันทำงานได้ดี ไม่มีปัญหาให้ต้องหนักใจ การวิ่ง 140 กิโลเมตรในวันนี้แสดงว่าเอ็ดดี้ทำได้...

แต่ทว่าบ้านเมืองเจริญขึ้นมาก ถนนหนทางเปลี่ยนแปลง สองข้างทางก็เปลี่ยนไป ทำให้ตาแก่เมืองรถม้าผู้ใช้รถจักรยานในการเดินทางมาเป็นเวลากว่า 10 ปีเมื่อหันมาเดินทางไกลด้วยรถยนต์อีกครั้งไม่สามารถปรับตัวได้ เริ่มตั้งแต่ที่หน้าบ้านตัวเองเลย การก่อสร้างปรับปรุงถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ทำให้ต้องขับรถเลยยูเทิร์นไปอีกไกลกว่าจะได้ย้อนกลับมามุ่งหน้าสู่ลำพูน ก่อนขึ้นดอยขุนตานก็แวะเข้าไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว รู้สึกงุนงงเมื่อได้เห็นศูนย์บริการที่เคยคึกคักเมื่อสิบกว่าปีก่อนกลายเป็นอาคารร้าง ที่จอดรถว่างเปล่า...

 

 

 

ตั้งใจแวะบ้านสวนจัตุรัส (4) ซึ่งเคยปั่นจักรยานไปเยือนครั้งนึง...วันนี้ผมใช้รถยนต์ซึ่งวิ่งเร็วเกิน รู้อีกทีก็ผ่านเลยไปซะแล้ว!

นอกจากนั้นก็ยังอยากไปดูที่ดินเนื้อที่งานกว่าที่บ้านจำบอน ต.ศรีบัวบาน (5) ซึ่งเคยซื้อไว้และวิ่งเต้นทำโฉนดก่อนที่จะขายไป มันอยู่ด้านซ้ายมือริมทางหลวงซึ่งแต่ก่อนมีป้อมตำรวจตั้งอยู่เป็นจุดสังเกตให้ผมได้เลี้ยวลงไปตามถนนจนถึงประตูสวน พบว่าวันนี้มันเปลี่ยนไปหมด ไม่มีป้อมผมหาทางลงไม่เจอ รู้อีกทีก็เลยไปไกล (อีกแย้ว!) สามครั้งแล้วที่ตาแก่สับสนขับรถผ่านเลย เอาหละ! ยังไง ๆ ก็ขอจอดแวะที่ดอยติ (6) หน่อยละกัน

 

เคยมาถ่ายรูปวัดดอยติ (6) แล้วครั้งนึง ผ่านไปหนึ่งทศวรรษ วันนี้ผมเห็นการเปลี่ยนแปลงซึ่งเรียกว่า unbelievable มีสกายวอล์คซึ่งมีผู้คนไปเยือนนับวันละพันคน 

 

ร้านกาแฟก็มาตั้งอยู่ริมทาง...

 

 

เห็นรถจักรยาน...ตาแก่เมืองรถม้าคิดว่าถ้าได้มากับสหัสเดช น่าจะดีกว่าขับเจ้าเอ็ดดี้

 

ผมตัดสินใจขับรถไปหาเพื่อน (8) ที่ป่าซาง... แล้วค่อยไปอุทยานแห่งชาติแม่วาง

Sunday, November 03, 2024

Before we hit the road

"ไม่ให้ไปด้วยแล้ว...อยากดื้อดีนัก!" ตาแก่บ้านห้างฉัตรบอกเจ้าอู่หลง หลังจากกลับมาจากการอุ่นเครื่องเจ้าเอ็ดดี้  หมายถึงทริปไปอุุทยานแห่งชาติแม่วาง ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างเตรียมการนั่นแหละ

คล้ายดั่งว่าจะรู้... ดูเค้าทำตาซิ หุหุ หงอยไปเลย! ไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้เราจะ hit the road ได้หรือเปล่า? นอกจากมีขนมปังโฮลวีทที่ทำไว้ วันนี้ไปซื้อไข่ไก่มาหนึ่งแผงแล้วทำแตกไป 2 ฟอง ผมเลยลงมือทำขนมปังสูตรตามใจฉัน ซึ่งไม่สามารถแจงได้ว่าใช้ ingredient ปริมาณขนาดไหน รู้แต่ว่ามีแป้ง-ไข่ที่แตก 2 ฟอง-นมสด-น้ำอุ่น-ยิสต์-ผงฟู-น้ำตาล-เกลือ-เนย ผมตักใส่ลงไปแบบกะ ๆ เอา อย่างเช่นถ้าเหลวเกินก็เติมแป้งเข้าไปอีก ซึ่งในที่สุดแล้วก็ได้ขนมปังหวานออกมารูปร่างดังนี้...

ลองชั่งดู หนัก 835 กรัม นับว่าหนักที่สุดตั้งแต่เคยทำมา หอมกลิ่นเนยแต่ผมยังไม่ได้ลองชิม เพราะอยู่ในระหว่างการทำ IF (intermittent fasting) จึงบอกไม่ได้ว่ารสชาติเป็นเช่นไร 

เราต้องเตรียมเสบียงไว้ให้พอเพียง เพราะต้องจอดรถนอนในที่ห่างไกลร้านค้า อย่างเช่นริมอ่างเก็บน้ำ วัดบนม่อนดอย หรือแม้แต่ในอุทยานแห่งชาติ (ถ้าเค้าอนุญาตให้หมาเข้าได้) นอกจากขนมปังที่ทำไว้ ก็ยังมีปลากระป๋องสำหรับเจ้าอู่หลงพร้อมกับอาหารเม็ด ส่วนผมก็มีเพิ่มคือ muesli นมผง โกโก้ และที่สำคัญคือกาแฟสดสำหรับดื่มในช่วงอ่านหนังสืออยู่ริมอ่างเก็บน้ำหรือในป่า...

ออกจากบ้านก็ไม่มีไวไฟให้ใช้ ผมไม่สามารถออนไลน์ส่งข่าวให้เพื่อน ๆ ทราบ คงต้องหายเงียบไปก่อน หากเพื่อน ๆ เห็นเงียบไปก็แสดงว่าตาแก่บ้านห้างฉัตร hit the road ไปแล้วเด้อ...