ไปหาหมอที่สถานีอนามัยบ้านแม่กืยเลยวันนัดไปหนึ่งสัปดาห์เพราะผมลืมเสียสนิท ไปถึงสถานีอนามัยประมาณ ๗ โมงกว่า…รู้สึกแปลกใจที่ยังไม่มีคน!
ผมไม่ได้เป็นข้าราชการ พนักงานบริษัทหรือลูกจ้าง ซึ่งทางรัฐหรือหน่วยงานประกันสังคมจะคอยดูแลในเรื่องค่ารักษาพยาบาล เท่าที่มีอยู่ผมก็ได้อาศัยบัตรทอง ๓๐ บาทรักษาทุกโรค เป็นใบเบิกทางในการรักษาตัว ผมต้องกินยาควบคุมความดันโลหิตมิให้สูงเกิน…
ต่อมาเค้าบอกว่าบริจาคเลือดมา ๕๐ กว่าครั้ง สามารถรับการรักษาพยาบาลฟรีโดยการใช้บัตรผู้บริจาคโลหิต นอกจากนั้นยังสามารถตรวจเลือดได้อีกปีละ ๒ ครั้งโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย นับเป็นอานิสงค์ที่ได้รับโดยไม่คาดคิด ซึ่งต้องขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้…
หลายปีที่ผ่านมา ผมไปรับการรักษาจากสถานีอนามัย แรก ๆ ก็ร้องยี้และคิดว่าสถานีอนามัยจะตรวจรักษาได้ดีเหมือนโรงพยาบาลรึ? พอเอาเข้าจริงผมกลับได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เมื่อนัดเจาะเลือด ผมไปเจาะตามนัด เค้าก็จะส่งเลือดไปตรวจให้ฟรี อาทิตย์ต่อมาค่อยไปฟังผลและรับยา คุณหมอที่สถานีอนามัยก็ใจดี ไม่ว่าจะเป็นหมอเล็กหมอใหญ่…
มันทำให้ผมอดคิดถึงเด็ก ๆ ในบังคลาเทศที่เคยได้ไปเห็น ที่นั่นบริการด้านสาธารณสุขของเค้าช่างต่างกับของไทยเราเสียจริง! บ้านเรามีพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องไม้เครื่องมือ หยุกยา และเจ้าหน้าที่แสนดี
ด้วยเครื่องมือวัดระบบดิจิตอลที่อ่านผลได้ละเอียดทั้งค่าความดันโลหิตตัวบนตัวล่าง และอัตราการเต้นของหัวใจ ผมดีใจที่เห็นว่าทุกอย่างยังคงอยู่ในระดับปกติ ถ้าจะมีที่น่าเป็นห่วงก็เห็นจะเป็นน้ำหนักตัว ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ ๔ กิโลกรัมเห็นจะได้
ผมได้ยาตัวเดิมคือ Enalapril Maleate 20 mg และ Amlodipine 10 mg มากินต่ออีก ๓ เดือน
คุณหมอเขียนใบนัดให้แล้วบอกผมว่า “ถ้าลืม (อีก) ก็ไม่เป็นไร”
No comments:
Post a Comment