Friday, November 19, 2010

เข้าเมืองเปลืองตังค์…

ผมตั้งใจตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วว่าเช้านี้ต้องเข้าเมืองให้ได้ หลายวันมาแล้วบุรุษไปรษณีย์นำพัสดุมาส่ง เค้าเขย่าประตูพอเป็นพิธีแล้วจากไป ผมไม่โทษเค้าหรอก เพราะนั่นถือได้ว่าการปฏิบัติหน้าที่สมบูรณ์แล้ว เมื่อประตูบ้านปิด เรียกแล้วไม่มาเปิด ก็ถือว่า "บ้านปิด ให้ไปรับเอง ณ ที่ทำการ" จบ! ง่ายดี! ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าไปรับเองในเมืองก็ได้ อยากรู้จังว่าใครหนอส่งของมาให้...

อ่อ...บริเวณประตูหลังบ้านมีกลิ่นหนูเน่ากระทบผัสสะอยู่ได้เกือบอาทิตย์นึงแล้ว หลังจากที่ผมพยายามหาแหล่งที่มาของกลิ่นเหม็นมานาน ก็เพิ่งเจอเมื่อเช้านี้เอง ผมมองเข้าไปที่ซอกถังน้ำเห็นหางหนูโผล่ออกมาพร้อมกับกลิ่นฉุนกึ๊ก เน่าจนเละไปเกือบทั้งตัวก็ว่าได้ ผมต้องรีบขุดหลุมแล้วนำซากหนูไปฝัง ดีนะที่แก้ปัญหาเรื่องนี้ไปได้ ก่อนที่เด็ก ๆ จะมาเรียนไวโอลินในวันอาทิตย์

ก่อนออกเดินทาง ผมถ่ายรูปกองหินและทรายที่เตรียมไว้สำหรับการเทปูนในช่วงเย็นวันนี้ ที่เห็นเป็นส่วนผสมของหิน ๑๒ ถังและทราย ๘ ถัง...


มุ่งหน้าไปธนาคารก่อนเป็นจุดแรก ตังค์เหลือติดกระเป๋าแค่ ๒๐ กว่าบาท สภาพท้องถนนในตัวเมืองลำปางในช่วงที่ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วนจะเป็นอย่างที่เห็นในภาพที่เห็นนี่แหละ...


รถราไม่แออัดตลอดทั้งวัน นาน ๆ จะมีรถม้าวิ่งผ่านมาให้เห็น ตึกสูง ๆ ถูกคุมกำเนิดเอาไว้ ผมหลงใหลเมืองรถม้าก็ตรงนี้แหละ ที่เห็นในภาพคือ บริเวณสี่แยกดอนปาน ถ้าเลี้ยวซ้ายก็ไปสถานีรถไฟ เลี้ยวขวาไปบิ๊กซีและสถานีขนส่ง แต่ถ้าตรงไปก็จะเป็นสี่แยกเพ็ญทรัพย์ เทศบาล และห้าแยกหอนาฬิกา...

ผมต้องแวะไปเบิกตังค์ที่ธนาคารกสิกรไทยสาขาถนนฉัตรไชยก่อน ที่นั่นบริการเค้าน่าประทับใจจริง ๆ ครับ เจ้าหน้าที่คนสวยเข้ามาช่วยเขียนใบถอนให้ ผมมีหน้าที่แค่เซ็นชื่อแล้วไปนั่งรอเบิกเงิน พนักงานสาวคนที่เคยยืนรอเปิดประตู กล่าวสวัสดี และคอยให้ความช่วยเหลือลูกค้าอยู่ด้านนอกได้รับเลื่อนตำแหน่งไปเป็น teller นั่งอยู่ในเค้าเตอร์แล้ว


ออกจากธนาคาร ผมตรงไปไปรษณีย์ พอเห็นกล่องพัสดุก็รู้ทันทีว่าป้าโรสฝาก Museli มาให้กินอีกแล้ว ดีใจมากครับ ถ้าป้าโรสได้เข้ามาฟังลุงน้ำชาคุย ก็อยากจะขอบคุณป้าโรส หวังว่าสักวันหนึ่งคงมีโอกาสได้ขอบคุณเพื่อนคนนี้ด้วยคำพูดจากปากตนเอง...


ที่ไปรษณีย์ผมถ่ายภาพไว้หลายบาน ขอนำมาให้เพื่อน ๆ ดูดังนี้...




จากนั้นผมก็ไปจ่ายค่า HiNet ที่ CAT หมดไป ๘๐๓ บาท ยังดีนะที่เค้าลดให้จากแต่ก่อนที่ผมต้องจ่ายเดือนละเป็นพัน หุหุ ตั้งแต่ใช้มาเนี่ยก็เกินสองหมื่นบาทแล้วล่ะ


เยื้อง ๆ กับ CAT มี super market ที่ชื่อว่า NV เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ผมเลือกที่จะอุดหนุน เพราะเป็นห้างของคนลำปาง เช่นเดียวกับห้างเสรีและล้านทอง ไม่ต้องมีเครื่องปรับอากาศ ไม่ต้องมี cashier ที่ยกมือไหว้โดยอัตโนมัติปราศจากความรู้สึกหรือมีพนักงานมายืนยกมือไหว้สวัสดีอยู่ตรงทางลงบันไดเลื่อนก็ได้ ผมชอบห้างแบบนี้มากกว่า...


ซื้อเสบียงกลับบ้านหลายอย่าง ควักกระเป๋าอีก ๓ ร้อยกว่าบาท  จากนั้นก็นำจักรยานยนต์ไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ซ่อมไฟเลี้ยว และเปลี่ยนสปริงขาตั้ง หมดไปอีก ๑๖๐ บาท..


ก่อนกลับเข้าบ้าน ผมไปจ่ายค่าไฟฟ้า ๘๓๘.๖๑ บาท!  กลับเข้าบ้านแล้ว ยังต้องรีบบึ่งรถไปรับน้ำข้าวกล้องงอก ๒๐ ถุง จ่ายไปอีก ๑๐๐ บาท!

สรุปแล้ว เข้าเมืองเปลืองตังค์ ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ขออยู่บ้านดีกว่า...

No comments: