Wednesday, November 21, 2018

นกหวีดล่อนก

ผมมีจุลสาร "ข่าวสารสโมสรเดินทาง" เก็บไว้จำนวนนึง วันนี้หยิบฉบับที่ ๕๗ (เดือน พ.ค.- มิ.ย. ๒๕๓๘) ออกมาดู... 


คนกางเต็นท์ได้เขียน "เรื่องไม่เก่าของคนเดินป่า" ไว้น่าสนใจมาก โดยแนะนำกฎ ๒ ข้อของการดำรงชีวิตอยู่ในป่าหรือการเดินป่าไว้ ซึ่งข้อแรกได้แก่ "การตื่นตัวอยู่เสมอ" และข้อที่สองได้แก่ "การรักษาความเงียบในการเดินทาง"  เสียดายจังหนังสือขนาด ๑๖ หน้า โดนอะไรไม่รู้ทำให้กระดาษด้านหลัง ๆ แหว่งออกไป


บนหน้า ๔ มีบทความเทคนิคแค้มป์เรื่อง "นกหวีดล่อนก" เขียนโดย "หนุ่มสุพรรณ" ผมเห็นว่าน่าสนใจดี จึงขอนำมาเก็บไว้ในบล็อกช่างเหอะด้วยความขอบคุณ ก่อนที่ข้อมูลจะสูญหายไปพร้อมกับจุลสารฉบับนี้ 
คุณหนุ่มสุพรรณได้เขียนไว้ว่า...
บางคนที่ชอบไปดูนกตามป่าเขาลำเนาไพรหรือตามชายหาดเกาะแก่งท้องทะเล สามารถลองทำตกหวีดเพื่อล่อนกให้ออกมาดูกันได้อย่างเต็มตา โดยใช้อุปกรณ์ดังนี้
๑) ไม้ซางขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๒.๕ ซม. ยาว ๑๐ ซม.
๒) เศษไม้ทรงกระบอกที่ผ่าครึ่งเพื่อใช้ทำเป็นลิ้นเสียง
๓) ขวดแก้ว ขวดพลาสติก หรือกระป๋อง
๔) มีด
เริ่มแรกก็นำไม้ซางตามขนาดดังกล่าวมา แล้วเอามีดบากตามรูปที่ 1 โดยให้รอยบากห่างจากปลายด้านใดด้านหนึ่งราว ๒.๕ - ๓ ซม. พอบากเสร็จก็ให้นำเศษไม้ทรงกระบอกมาผ่าครึ่งตามรูป 2 แล้วจึงนำเศษไม้ที่ผ่าครึ่งมายัดเข้าไปตรงปลายไม้ซางด้านที่มีรอยบากตามรูป 3 เพียงแค่นี้เราก็จะได้นกหวีดล่อนกมาเป่าเลียนแบบเสียงนกกันแล้ว...


ต่อไปก็เป็นการทดลองใช้ โดยนำไปลองตามท้องทุ่งนา ทุ่งหญ้า หรือตามราวป่าพงไพร โดยให้ปลายด้านตรงข้ามกับที่มีลิ้นเสียงนั้นจุ่มลงไปในน้ำตามหนอง บึง หรือลำธาร (อย่าให้ปลายติดพื้น) หากแถวนั้นไม่มีหนองบึง ก็ต้องหาภาชนะใส่น้ำไป อาจจะเป็นขวดแก้วหรือขวดพลาสติกหรือกระป๋องก็ได้ แล้วเจาะรูด้านข้างเอาไว้เพื่อสอดปลายนกหวีดลงไป ควรจะหาดินน้ำมัน หรือดินเหนียว เทียนไขหรือครั่ง มาเชื่อมตัวนกหวีดกับภาชนะดังกล่าวเอาไว้ไม่ให้คลาดเคลื่อน ที่สำคัญคืออย่าปิดฝาภาชนะดังกล่าว...
เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ใช้ปากเป่าตรงปลายด้านที่มีลิ้นเสียง เสียงที่ออกมาจะหวีดหวิวตามจังหวะของการเป่า ลักษณะของเสียงที่เกิดขึ้นนั้นจะสูง ๆ ต่ำ ๆ ขึ้นอยู่กับว่าเราจุ่มปลายลงในน้ำนั้นลึกหรือตื้น ประกอบแรงลมที่เราเป่าออกไปด้วย ผู้ที่จะใช้เป่าเลียนเสียงนก ควรต้องฝึกหัดให้มีความชำนาญในการปรับเสียงเสียก่อนที่จะไปใช้งานในภาคสนามจริง ๆ
ผมคิดว่าบางครั้งของเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนี้ก็สามารถนำไปใช้ได้กับนักเดินป่าผู้อยากใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติให้ได้มากที่สุด ว่าง ๆ ไม่รู้จะทำอะไรก็ลองทำ "นกหวีดล่อนก" ดูได้ 

เพื่อเรียกนกมาดูนะครับ มิใช่เรียกมายิง!

Friday, November 16, 2018

backpack ราคาถูก

เพื่อน ๆ ที่รักครับ.... ในชีวิตนี้ผมไม่เคยใช้เป้สะพายหลัง (backpack) ของยุโรปหรืออเมริกาที่มีราคาแพงคิดเป็นเงินไทยหลายพันบาท จำได้ว่าเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรก ผมใช้กระเป๋าหิ้วแบบที่นักกีฬาเค้าใช้กัน...


มาใช้เป้สะพายหลัง (backpack) ครั้งแรกก็ตอนไปยุโรป เป็นเป้สีส้มโครงอลูมิเนียมซื้อมาจากร้านในย่านหลังกระทรวง  (ราคาที่แท้จริงจำไม่ได้ คิดว่าคงประมาณ ๗๐๐-๘๐๐ บาท) เจ้าเป้ใบนี้นอกจากจะลุยไปถึงลอนดอนแล้ว ผมยังพามันไปเดินป่าที่ NSW ประเทศออสเตรเลียอีกด้วย...

backpack ใบแรก - ถ่ายที่ Garie Beach Youth Hostel
หันมาใช้ "เจ้าแรด" ใบนี้ในช่วงหลัง ผมซื้อมาจากร้าน "สื่อเดินทาง" แถวมักกะสัน เดินไปซื้อมาด้วยมือเลยล่ะ จำได้ว่าราคาตอนนั้นก็ยังไม่ถึงพัน... 



ผมใช้เจ้าแรดจนพัง (ทริปสุดท้ายน่าจะแบกไปลาว...ถ้าจำไม่ผิด) การเดินทางที่ต้องบรรจุเสบียงและข้าวของอย่างเต็มที่จำเป็นต้องใช้เป้ขนาดใหญ่ อย่างน้อยก็ต้อง ๖๐ ลิตรขึ้นไป ผมจึงต้องหาซื้อเป้ใบใหม่ ที่ได้เล็งไว้แต่แรกก็เป็นรุ่น Marshal ของบริษัทสื่อเดินทาง ซึ่งราคาลดแล้วก็เหยียบ ๒ พันบาท...


ภาพจากเว็บสื่อเดินทาง
คนที่ไม่มีรายได้อะไรอย่างผม จะซื้ออะไรแม้อยากได้สุด ๆ ก็ต้องคิดให้ดี ในที่สุดผมก็เปลี่ยนใจหันไปหาเป้จีนราคาถูกที่มีขายในลาซาด้า...


สั่งซื้อมาในราคา ๖๑๔ บาท ได้มาแล้วก็ยังไม่ได้ใช้แบกไปไหน ผมเอาแขวนไว้ข้างฝา แค่ได้มองเห็นก็มีความสุขแล้ว...


เพียงแค่อยากแนะนำเพื่อน ๆ ที่อยากเริ่มออกท่องโลกว่า เป้ราคาไม่แพงอย่างนี้ก็พอใช้ได้แล้วครับ การเดินทางจะสนุกสนานและราบรื่นปลอดภัย มิได้อยู่ที่การใช้เป้ราคาหลายพันบาท แต่เป็นเรื่องของการบริหารจัดการและใช้งานของถูกให้ได้คุ้มค่าที่สุดเท่าที่ทำได้มากกว่า...  







ตรงสายรัดเอวก็ยังมีกระเป๋าซ่อนไว้ด้วย เอาไว้ใส่ยาดม ยาอม ยาหม่องก็ได้! 


ที่ก้นก็ยังมีช่อง... เอาไว้ใส่พวกรองเท้าแตะหรือ pocket book ! เวลาหยิบออกมาใช้มันง่ายดี


มิได้นำมาเพื่อโฆษณาขายนะครับ ผมแค่อยากให้ดูว่า backpack ราคาถูก (Born to Freedom) นั้นมีรายละเอียดสินค้าเช่นไร?



FREEKNIGHT FK0395 60L Water Resistant Climbing Hiking Backpack with Rain Cover.  Made of nylon fabric material, water resistant, tear resistant, lightweight and durable
60L climbing backpack, spacious main compartment and numerous pouches with large capacity
Ultralight, only 0.95kg, reducing the backpack loading weight so that you can carry more other items
Rain cover pouch on the bottom, prevent the water and dust into the backpack, useful tool on the rainy day.  Shoes separated storing pouch, preventing the items inside backpack to be dirty, convenient and practical.  Special main pocket closing drawstring design, tight closure to prevent the items falling from the backpack
Description:
This 60L climbing backpack is specially designed for traveling enthusiasts. With the ergonomic design, this backpack gives you more comfortable feeling. Made of high-quality and safe material, it is durable for long-time use. It will surely contribute to your fantastic outdoor experience.
Features:
- Made of nylon fabric material, water resistant, tear resistant, lightweight and durable
- 60L climbing backpack, spacious main compartment and numerous pouches with large capacity
- Ultralight, only 0.95kg, reducing the backpack loading weight so that you can carry more other items
- Rain cover pouch on the bottom, prevent the water and dust into the backpack, useful tool on the rainy day
- Shoes separated storing pouch, preventing the items inside backpack to be dirty, convenient and practical
- Special main pocket closing drawstring design, tight closure to prevent the items falling from the backpack
- Two side pockets to carry more water bottles, convenient for the hiking, climbing, camping enthusiasts
- Ergonomic padded shoulder straps and back support for best ventilation and comfortable burden
- Adjustable shoulder strap, chest strap and waist strap to fit your needs
- Suitable for outdoor activities like traveling, climbing, camping and hiking, etc.
Parameters:
- Material: durable and tear resistant nylon
- Capacity: 60L
- Straps length: 43 - 85cm / 16.93 - 33.46 inches
- The maximum load: 30kg

ไม่ว่าจะใช้ของแพงหรือของถูก ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น...คนแบกเป้ก็เดินทางถึงจุดหมายปลายทางได้เหมือนกันครับ!

Thursday, November 15, 2018

FB Trip ไปแปดริ้ว - เลือกใช้เป้

FB Trip ไปแค่ฉะเชิงเทรา...  ส่วนใหญ่จักรยานก็อยู่บนรถไฟ จะไปวิ่งก็ตอนไปบ้านคุณธเนศ และตอนเที่ยวชมเมืองแปดริ้วแค่ครึ่งวัน!


ผมมีเป้สะพายหลัง (backpack) ขนาดกลางอยู่หลายใบ รวมทั้งชุด ๓ ใบที่ใช้กับตะแกรงท้ายรถตอนไปมะละกา ส่วนเจ้าใบเล็กสุดที่เห็นวางอยู่ตรงกลางในภาพ ผมซื้อมา ๒๕๐ บาทเ เคยใช้มาหลายทริป แต่ก็ยังไม่พังซักกะที! อ่อ...ยังไม่นับเจ้าตัวที่ใช้กับทริป travellin' light ไปต่างประเทศ (แขวนอยู่ข้างบน...ไม่ได้เอาลงมาถ่ายรูปด้วย)


เจ้า Free Knight ขนาด ๖๐ ลิตรสีแดงสด ผมซื้อมาตั้งนานแล้วแต่ยังไม่เคยได้ใช้....


ชอบตรงที่มันมีกระเป๋าเยอะดี แต่รู้สึกว่าจะใหญ่ไป ไม่เหมาะกับใช้สะพายปั่นจักรยาน...


มีอีกใบนึงเล็กลงหน่อย น้องที่อุตรดิตถ์ให้มา ใบนี้มีกระเป๋าแอบซ่อนไว้เยอะเหมือนกัน เห็นเขียนไว้ข้าง ๆ ว่า Adventure 1947 ดูแล้วคิดว่าน่าจะลองเอามาใช้สำหรับทริปนี้...


ไม่ผิดหวังครับ ใช้ได้เลยหละ!

FB Trip ไปแปดริ้ว - เตรียมจักรยาน

ก่อนเริ่ม "FB Trip ไปแปดริ้ว" (hit the road) ผมก็ต้องเตรียมจักรยานให้พร้อมโดยนำมันออกมาตรวจเช็คสุขภาพ ทั้งเติมลมและหยอดน้ำมันโซ่...


ต้องถอดเอาเจ้าตะแกรงท้ายออก เพราะมันไม่จำเป็นอีกแล้ว ขืนติดไว้มีแต่จะเกะกะและเพิ่มน้ำหนักให้อย่างไร้ประโยชน์ อานจักรยานที่ติดมากับตัวรถ หลังจากใช้งานมาหลายปีตอนนี้สภาพดูถลอกปอกเปลือกอย่างที่เห็น...


เมื่อเร็ว ๆ นี้น้องสาโรจน์ได้ส่งอานใหม่มาให้จากเชียงใหม่  ด้วยความขอบคุณยิ่ง...ผมคิดว่าจะนำมันมาใช้แทนตัวเก่า แต่พอเทียบขนาดแล้วมันใหญ่และหนักกว่า (อย่างที่เห็นในภาพ) ก็เลยเก็บไว้ก่อน... 


ที่สูบลมพกพาตัวนี้ น้องสาโรจน์ก็ให้มาตั้งนานแล้ว มันเดินทางไปกับผมทุกทริป (ล่าสุดนี้ไปถึงมะละกา แต่ไม่มีโอกาสได้ปฏิบัติหน้าที่)...


ยางเจ้าเพื่อนยากอ่อนทั้งล้อหน้าล้อหลัง ผมต้องเติมลมก่อน...


ลองใช้งานดูแล้วปรากฏว่าผิดปกติ คือแรงดันลมน้อย... ไม่สามารถเติมลมล้อรถจักรยานให้แข็งได้ ช่างเหอะบอกว่า "ซ่อมได้...ไม่ยาก"  ขันสกรูตัวเล็กที่เห็นนั่นออกทันที! 


ลูกสูบแห้งไปทำให้แรงอัดน้อย ซ่อมก็ไม่ยาก...แต่มันลำบากตรงที่ผมไม่รู้ว่ากระป๋องจารบีอยู่ที่ไหน? (เป็นเช่นนี้ประจำ) กว่าจะหาเจอก็เล่นซะมึนตึ้บ! เมื่อได้มาแล้วก็ลงมือซ่อมเลยครับ





ประกอบเข้าที่แล้วลองใช้งาน... สูบได้ตามปกติแล้วคร้าบบ 


ผมเติมลมจนเต็มสองล้อ ทำความสะอาดแล้วเก็บที่เติมลมใส่ถุงพร้อมกับชุดปะยางและเครื่องมืออีก ๒-๓ ชิ้น...


จากนั้นก็เป็นขั้นตอนของการทำความสะอาดและหยอดน้ำมันโซ่...


ตรวจเช็คให้แน่ใจว่าทุกอย่างอยู่ในสภาพปกติ พร้อมที่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นห้ามล้อหรือจานสับ...


ท้ายสุดก็ต้องไม่ลืมเตรียมสายล็อคจักรยาน (อย่าลืมลูกกุญแจ) สายยางรัด รวมทั้งหมวกกันน็อค...


ทุกอย่างล้วนจำเป็นต้องใช้! เพื่อน ๆ อย่าลืมเอาไปด้วยน้า

Tuesday, November 13, 2018

สุขุมวิทสายเก่า


วันเสาร์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ประมาณบ่ายสี่โมงเย็น ผมออกเดินทางจาก Shining Center (S) พร้อมกับคุณธเนศและเพื่อนชาวต่างชาติ ๔ คนไปยังเมืองโบราณ (M) ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการเพื่อชมคอนเสิร์ต Kenny G 



ไม่รู้หรอกว่าคนขับพาไปทางไหน ผมได้แต่นั่งมองสองข้างทาง กรุงเทพฯ ทุกวันนี้ไม่ใช่เมืองที่เคยอยู่มาก่อน วันนี้มีแต่อาคารสูงและทางยกระดับ รถราวิ่งกันขวักไขว่ พอวิ่งขึ้นทางด่วน ผมเห็นเจ้าแขนกั้นที่ด่านมันยกขึ้นเองโดยอัตโนมัติก็ได้แต่นึกแปลกใจ!


พอมาดู google maps ทีหลังจึงรู้ว่าระยะทางวิ่งไปเมืองโบราณ (M) ประมาณ ๔๐ กิโลเมตร ผมได้ยินพูดกันว่าวิ่งออกทาง "สุขุมวิทสายเก่า"  มองออกไปเห็นแต่ถนน เสา และแท่งคอนกรีต...ได้แต่นั่งคิดย้อนหลังไปถึงเมื่อ ๓๐ กว่าปีก่อน ตอนนั้นยังเป็นแค่เพียงถนนลาดยาง ๔ เลน มีร่องน้ำตรงกลาง ข้าง ๆ ทางเต็มไปด้วยต้นหมากต้นไม้


นั่งรถไปแค่เมืองโบราณ แต่ใจผมเตลิดไปถึงสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง (3)โน่นเลยทีเดียว!


ค้นเจอรูปเก่าอีกบาน ผมยิ้มได้อย่างมีความสุขกับภาพ "เจ้าอามุย" จักรยานที่ปั่นจากบ้านป้าที่สุขุมวิท 79 (1) ไปชลบุรี (2) ระยะทางประมาณ ๘๕ กิโลเมตรโดยใช้เส้นทางซึ่งปัจจุบันเรียกกันว่า "สุขุมวิทสายเก่า" 



วันนั้นข้ามสะพานแล้ว ผมหยุดพักเอาแรงโดยนำจักรยานลงไปตั้งชมวิวอยู่ริมน้ำบางปะกง (3)


อยากให้เห็นความแตกต่าง ขออนุญาตนำภาพสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงจาก google street views ซึ่งมีทางพิเศษบูรพาวิถีคร่อมขนานอยู่มาลงประกอบ...


ภาพจาก google street view - thanks!
จะมีสักกี่คนที่ยังพอจำถนนสายนี้เมื่อ ๓ ทศวรรษที่แล้วได้?

Monday, November 12, 2018

ทัศนศึกษาที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ปี ๒๕๑๑

ปี ๒๕๑๑ ปลายหนาว... ผมและเพื่อน ๆ กำลังจะจบการศึกษาจากแผนกวิชาช่างไฟฟ้า วิทยาลัยเทคนิคภาคพายัพ หรือที่เรียกว่า "เทคนิคตี๋นดอย"


โชคดีที่ค้นเจอภาพขาวดำเก่า ๆ ผมจำได้ว่าเป็นภาพการเดินทางไปทัศนศึกษาที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ จังหวัดลำปางเมื่อปี ๒๕๑๑


โรงไฟฟ้าแม่เมาะจังหวัดลำปางใช้พลังงานถ่านหินในการผลิต บางทีเค้าก็เรียกว่า "โรงไฟฟ้าลิกไนต์" เริ่มต้นจากการผลิตถ่านลิกไนต์จากเหมืองเพื่อส่งไปจำหน่ายเมื่อปี ๒๔๙๘  ต่อมาได้สร้างโรงไฟฟ้าแม่เมาะขนาดกำลังผลิต ๑๒,๐๐๐ กิโลวัตต์ เปิดเมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๐๓  เนื่องจากอยู่ปีสุดท้าย นักศึกษาวิชาช่างไฟฟ้ากำลังจะออกไปหางานทำ หรือไม่ก็เรียนต่อ ทางแผนกจึงจัดให้ไปทัศนศึกษาที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ดังที่ผมยังมีรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน ภาพเหล่านี้มีอายุครบ ๕๐ ปีพอดีในปีนี้ ที่เห็นคือ...ท่านผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าแม่เมาะกำลังบรรยายถึงวิธีการทำปุ๋ย


พนักงานโรงไฟฟ้าแม่เมาะรุ่นแรก ๆ ซึ่งเป็นรุ่นพี่พวกเรา เป็นผู้นำเดินชมทั่วบริเวณทั้งในและนอกอาคาร



ก่อนจากกัน บรรดาพี่ ๆ พนักงานโรงไฟฟ้าแม่เมาะได้ถ่ายภาพร่วมกันให้ไว้เป็นที่ระลึก อยู่มาถึงปัจจุบันนี้ ผมคิดว่าพี่ ๆ ทุกคนคงไม่มีใครอายุต่ำกว่า ๗๕ (หลายท่านอาจจากโลกนี้ไปแล้วก็ได้) ขอทุกท่านได้โปรดรับการคารวะจากผม ไม่ว่าจะอยู่ ณ แห่งไหนก็ตาม......


หากมีท่านหนึ่งท่านใดได้เข้ามาเห็น แล้วยังพอจำภาพที่ท่านได้เป็นหนึ่งในบรรดานายช่างผู้บุกเบิกโรงไฟฟ้าแม่เมาะยุคแรก ๆ ผมขอกราบขอบพระคุณท่านด้วยความเคารพครับ!