Wednesday, August 09, 2023

พกที่อุดหูไปด้วยก็ดี

มื่อวันที่ 5 มกราคม 2554 ผมโพสต์เรื่อง "เมื่อหนอนเข้าหู" ไว้ในบล็อกท่องโลก...

 

เรื่องราวชวนให้ขนลุกซึ่งเกิดในระหว่างที่ผมแบกเป้ไปพักแรมอยู่ที่ Garie Beach Hostel ใน NSW, Australia ประสบการณ์ที่ได้รับทำให้เวลาตั้งเต็นท์นอนกลางดงกลางป่าหรือตามศาลาริมทาง ผมมักจะใช้กระดาษทิซซู่อุดหูเวลานอน (แต่บางครั้งก็ละเลย)...

วันนี้ผมได้รับที่อุดหู (sound insulation earplugs) ที่สั่งซื้อออนไลน์มา (ราคาคู่ละ 5.64 บาท) 

ทดลองใช้แล้ว พบว่ามันไม่สามารถเก็บเสียงได้เกิน 50% ผมคิดว่าคงจะช่วยอะไรได้ไม่มาก หากเกิดภัยพิบัติจากคลื่นเสียงรุนแรง... 

ภาพจาก bbc.com - ขอขอบคุณ

อย่างไรก็ตาม มันสามารถช่วยป้องกันหนอนหรือแมลงเข้าหูได้ครับผม 

ยามาแล้ว!

ช้านี้ผมขี่จักรยานเสือภูเขาไปรับยาให้พี่ชายที่เทศบาลตำบลห้างฉํตร...จอดจักรยานไว้ใกล้กับเพื่อนสีชมพูน่ารัก...
 

ฝนตกทำให้เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลมาล่าช้าเล็กน้อย ระหว่างนั่งรอรับยา ผมซูมเก็บภาพหลังคาวัดห้างฉัตรไว้ ๑ บาน...

 
 

คนแก่ (หญิงมากกว่าชาย) จากทุกหมู่บ้านในตำบลห้างฉัตรมารับยาที่นี่ โดยได้รับการบริการจาก อสม. ช่วยลดภาวะคนไข้ล้นโรงพยาบาล.... คุณยายที่นั่งอยู่ข้างหน้า (คนซ้ายใส่เลื้อลาย ปชป กก พท ) อายุ ๗๗ ปีแล้ว ยังดูท่าทางแข็งแรงอยู่เลย!


เอกสารถูกนำมาวาง (ตามคิว) รอเภสัชกรจากโรงพยาบาลห้างฉัตรมาจ่ายยา...


ได้ยินเสียงผู้ที่นั่งรออยู่ดังว่า "ยามาแล้ว"  จริงด้วย...เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลฯ มาแย้ว!!!


 
จากโรงพยาบาล เจ้าหน้าห้องยาจัดยาเตรียมมาให้ผู้ป่วย.... 


คุณตาคุณยายแต่ละคนรับยาไปมิใช่น้อย....ยาของพี่ชายผมก็ใช่ย่อย!

ได้ยาแล้ว ผมแวะไปร้านขายของชำหน้าตลาด (เจ้าประจำ) ระหว่างเลือกซื้อของเกิดอาการเวียนหัว สูญเสียการทรงตัว (เกือบล้ม) ทำให้สินค้าของเขาล้ม...ตกเกลื่อน โชคดีที่ไม่มีอะไรแตกเสียหาย ผมปั่นจักรยานกลับบ้านด้วยความรู้สึกว่าโลกเอียง!!!  ตาแก่บ้านห้างฉัตรผู้ได้รับสัญญาณเตือนถี่ขึ้น รู้ตัวว่าเวลาที่เหลืออยู่น้อยลงทุกที!

ภาพถ่ายกับเพื่อนบ้านก่อนตกบันได หัวเข่าซ้ายชำรุด...
พรุ่งนี้ต้องไปตรวจ EKG ที่โรงพยาบาลฯ ครับ!

Monday, August 07, 2023

อุทยานแห่งชาติดอยจง จังหวัดลำปาง

มเคยบอกเพื่อน ๆ ว่าอยากปั่นจักรยานไปอุทยานแห่งชาติดอยจง เพื่อทดสอบสหัสเดชอีก...เป็นครั้งที่ 2

 

เว็บ tourismthailand.org ให้ข้อมูลของอุทยานแห่งชาติดอยจงไว้ดังนี้...

อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า

ผืนป่าของดอยจงแห่งนี้เป็นป่าผลัดใบที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย โดยมีลักษณะเป็นที่ราบกว้างซึ่งมีป่าสนเขากระจายอยู่เป็นกลุ่มๆ และมีหน้าผาอันเป็นจุดชมทิวทัศน์หลายแห่ง ที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าและลาลับท้องฟ้าในยามเย็น 

ยอดดอยจง ดอยที่สูงที่สุดและเคยเป็นสถานีโทรคมนาคมของกองทัพอากาศมาก่อนทว่า หลังจากที่กองทัพอากาศสร้างสถานีเรดาร์ที่ยอดดอยอินทนนท์จึงได้ยกเลิกสถานีแห่งนี้ไปเปิดให้ทางอุทยานฯ เข้ามาดูแลต่อและจัดเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ทุกวัน โดยมีระยะทางจากที่ทำการฯ ถึงยอดดอยจงประมาณ 7 กิโลเมตร การเดินทางขึ้นยอดดอยจงนั้นต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางเตรียมเสบียงเต็นท์ถุงนอนและสัมภาระส่วนตัวไปเอง ควรมีเวลา 2 วัน โดยคืนแรกพักที่สันป่าเกี๊ยะซึ่งเป็นป่าสนสองใบและสนสามใบ รุ่งเช้าเดินขึ้นสู่ยอดดอยและคืนที่สองพักบนยอดดอยจงแล้วเตรียมตัวกลับในช่วงสาย 

ผากาน อยู่ห่างจากยอดดอยจงประมาณ 2 กิโลเมตรเป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับดูนกแต่ด้วยสภาพเป็นผาหินปูนแหลมคมการปีนขึ้นต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง เมื่อขึ้นไปถึงแล้วจะมองเห็นผืนป่าและทิวเขาทอดตัวยาว ส่วนทางด้านหลังมองเห็นยอดดอยจงอยู่สูงกว่าระดับสายตา

จุดชมทิวทัศน์ป่าแม่อาบอยู่บริเวณสองข้างถนนสายเถิน-ลี้หลักกิโลเมตรที่ 13-26 - น้ำตกแม่งาช้าง เป็นน้ำตกขนาดเล็กสูงประมาณ 12 เมตร มีน้ำเฉพาะฤดูฝนอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 2 กิโลเมตร ในท้องที่ตำบลนายาง อำเภอสบปราบ

น้ำตกตาดปู่หล้า เป็นน้ำตกขนาดเล็ก 2 ชั้นมีน้ำเฉพาะฤดูฝน ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 1 กิโลเมตร ในท้องที่ตำบลนายาง อำเภอสบปราบ

ผาข้าง อยู่ตรงข้ามที่ทำการอุทยานฯ เป็นภูเขาลูกเล็ก ๆ ริมอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ยอง เมื่อมองจากผาข้างลงมา จะเห็นอ่างเก็บน้ำที่ทำการอุทยานฯ และทิวเขาสลับซับซ้อนเป็นฉากหลัง

อุทยานฯ ยังไม่มีบ้านพักและร้านอาหารบริการ ต้องนำเต็นท์พักแรมมาเอง หรือหากต้องการซื้อของสดไปทำอาหารในตัวอำเภอสบปราบมีร้านอาหารอยู่บ้าง โดยมีตลาดสดตอนเช้ามืดและตอนเย็น ในอุทยานฯ ปั่นไฟฟ้าใช้เองและใช้น้ำจากลำห้วยแม่งาช้าง

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูล)

ช่วงนี้กำลังวางแผนการเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติดอยจงอยู่ครับ จากบ้านร้านเปียโนห้างฉัตรของผมปั่นไปยังจุดหมายได้โดยใช้เส้นทางหมายเลข 1034 ไปจนถึงเกาะคา เลี้ยวออกไปยังถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) 

ระยะทางรวมแล้ว 61 กิโลเมตรถึงจุดที่จะต้องเลี้ยวขวาเข้าไปยังเส้นทางไปอุทยานแห่งชาติฯ  ต้องขี่เข้าไปตามทางหลวงหมายเลข 1014 อีกประมาณ 12 กิโลเมตร..

 

เพื่อน ๆ อาจเป็นห่วงว่าเส้นทางจะต้องขึ้นเขาสูงชัน แต่ผมดูใน google street views แล้ว คิดว่าไม่น่าจะหนักหนาสาหัส นำภาพที่ capture มาให้เพื่อน ๆ ดูด้วยดังนี้...

ภาพ capture จาก google street views - ขอขอบคุณ
ภาพ capture จาก google street views - ขอขอบคุณ
ภาพ capture จาก google street views - ขอขอบคุณ 
ภาพ capture จาก google street views - ขอขอบคุณ
ภาพ capture จาก google street views - ขอขอบคุณ

ปลายทางคือที่ทำการอุทยานฯ ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาเรื่องที่พักกางเต็นท์นอน... 

ภาพ capture จาก google street views - ขอขอบคุณ

เตรียมน้ำดื่มและเสบียงอาหารไปให้เยอะ ๆ หน่อย เพราะอาจต้องค้างหลายคืน เครื่องครัวด้วยนะ 

ภาพ capture จาก google street views - ขอขอบคุณ

 อย่าลืมเสื้อกันฝนกับยากันยุงยี่ห้อที่ดี ๆ ด้วยนะ...

ความจริงที่มากับสายฝน

ช้าวันนี้ฝนตก! ภาษาปะกิตเรียกว่า drizzling คือตกปรอย ๆ
 
 
6 โมงเช้า...ผมยังสามารถปั่นจักรยานไปตลาดได้โดยไม่ต้องสวมเสื้อกันฝน เห็นชายคนนึงกำลังตัดหญ้าใส่รถซาเล้งไปให้วัว  ย่างเข้าวัสสานะ ชาวบ้าน-ชาวสวน-ชาวนา-คนเลี้ยงวัว ฯลฯ (รวมทั้งผม) ต่างรู้สึกยินดี แต่ก็มีบางคนไม่ชอบ...หากต้องเปียกฝน นึกถึงวันที่ผมนั่งรถไฟขบวนท้องถิ่น 407 จากอุตรดิตถ์กลับบ้านห้างฉัตร
 
 
ก่อนถึงสถานีนครลำปาง รถจอดที่สถานีห้วยรากไม้ ผมเห็นเมฆฝนบนท้องฟ้าทำท่าว่าฝนจะตก...
 


ออกจากสถานีห้วยรากไม้ได้นิดเดียว รถก็วิ่งฝ่าสายฝน... ผู้คนต่างพากันปิดหน้าต่าง ตรงไหนที่ปิดไม่ได้ พนักงาน รฟท. ก็มาช่วย...
 
 
 
  
 
มีตาแก่ผีบ้าอยู่คนเดียวที่ไม่ยอมปิดหน้าต่าง เขากลับยื่นหน้าและแขนออกไปรับน้ำฝน รู้สึกชื่นใจ รับรู้คุณค่าของสิ่งที่ธรรมชาติมอบให้...  
 

เพื่อน ๆ ที่รักครับ หากเราไม่หิวจนท้องกิ่ว เราก็จะไม่รู้ค่าของเศษขนมปังกลิ่นตุ ๆ (stale) ที่ผ่านเข้าปาก 

หากไม่ได้ปั่นจักรยานฝ่าความร้อนของแสงแดดนานหลายชั่วโมงในแต่ละวันที่ผ่านมา... ผมก็คงไม่รู้สึกยินดีกับความชุ่มฉ่ำที่สัมผัสกายในวันนี้

ขณะเดินทางกับจักรยานคู่ใจ ไม่ว่าไปไหน ผมไม่เคยกลัวฝน เพราะมีที่ให้หลบอยู่เสมอ...


แม้แต่ป่าช้า...ก็ไม่กลัว!!

Thursday, August 03, 2023

Nomadic Giant

พื่อน ๆ ที่รักครับ "สหัสเดช" จักรยานซึ่งรับหน้าที่พาผมท่องโลกไกล ๆ ได้ผ่านการทดสอบครั้งแรกไปด้วยดี...

ปรับเปลี่ยนนิดหน่อย...ตอนนี้ผมทำการซ่อม rack หน้าและนำ front bag ออกไป ทำความสะอาด หยอดน้ำมัน ปรับตีนผีและห้ามล้อ เรียบร้อยแล้วพร้อมที่จะทำการทดสอบครั้งที่ 2 ในเร็ววัน!

มีแนวโน้มว่าการปั่นไปอุทยานแห่งชาติดอยจง - เสริมซ้าย - บ้านโฮ่ง - ป่าซาง - เชียงใหม่ จะเป็นเส้นทางสำหรับการทดสอบครั้งที่ 2 ของสหัสเดช วันนี้ยังไปไม่ได้เพราะผมต้องไปรับยาให้พี่ชายและพาตัวเองไปทำ EKG อีกครั้งในวันที่ 9 และ 10 ที่จะถึงนี้ ช่วงที่รอผมก็ทำการปรับปรุง HBH (Hangchat Backpacker Hostel) ไปเรื่อย ๆ (เพื่อนผมส่งรูปภาพที่ปรับแต่งเพิ่มเติมมาให้ดูด้วย)

ภาพจากเพื่อนบ้านป่าตัน - ขอขอบคุณ

ติดตั้งระบบกระจายเสียง...เปิดเพลงฟังเป็นครั้งคราว

งานอีกชิ้นนึงของผมคือ maintenance (ซ่อมบำรุง) เจ้า Giant พระเอกในตำนาน ซึ่งต่อนี้ไปผมขอตั้งชื่อใหม่ว่า "Nomadic Giant" แปลเป็นไทยว่า "เจ้ายักษ์พเนจร"

หากวันใดที่ผมสละชาติ ตัดสินใจเดินทางไปข้างหน้าโดยมีจุดหมายและเวลาที่ไม่กำหนด ผมก็จะไปกับ Nomadic Giant เพราะสภาพคนพเนจรเร่ร่อนกับ accordion ตัวเล็กที่ครูเตี๋ยงมอบให้ ต้องอาศัยพาหนะที่มิใช่จักรยานใหม่สีสดใสใช้อุปกรณ์แพง ๆ แต่ยิ่งเก่าและเรียบง่ายจะยิ่งดี เหมือนเมื่อครั้งผมปั่นเจ้าอามุยลงใต้...


เจ้ายักษ์พเนจรของผมมีตะแกรงหลังซึ่งมีน้ำหนักค่อนข้างมากแต่ก็แข็งแรง สามารถรับน้ำหนักได้มาก บรรทุกกล่องหีบเพลงไปได้ตลอดทาง

 

ผมรู้ดีว่าชีวิตเหลืออีกไม่มากแล้ว...ความตายใกล้เข้ามาทุกที
 
 
ถ้าคนแก่คนนึงอยากจะเดินทางไปจนถึงจุด full stop โดยไม่หันกลับไปมองอดีตที่ผ่านมา เขาก็น่าจะทำได้...
 
ภาพดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ต - ขอขอบคุณ
 
เล่นดนตรีได้ ร้องเพลงได้ ก็ให้ความสุขกับผู้คนไปตามเส้นทางทีละน้อย...
 
 
 
เรื่องการกิน...ก็เป็นแบบกินเพื่ออยู่ (มิใช่อยู่เพื่อกิน) จะไปกลัวอะไรล่ะ?
 
 
หากนกตัวน้อยจะต้องตายข้างถนนก็จะไม่เสียใจ... 
 
ภาพนักปั่นจักรยานได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุริมทาง จากอินเทอร์เน็ต - ขอขอบคุณ

ทุกสิ่งอย่างมิใช่ของเรา!  ใครจะทรยศหักหลังเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจก็ทำไปเหอะ (ถ้าแน่ใจว่าจะมีชีวิตนิรันดร)