Tuesday, June 27, 2017

Somewhere in Time

บรรเลงเปียโนอยู่ในล็อบบี้โรงแรม... มีเพลงจากภาพยนต์อยู่เพลงหนึ่งซึ่งผมมักจะเล่นอยู่เป็นประจำ เพลงนั้นคือ "Somewhere in Time" 


ผมเคยบอกตัวเองว่าจะต้องหาหนังเรื่อง Somewhere in Time มาดูให้ได้สักครั้ง วันนี้ผมได้ดูสมใจนึกแล้วครับ...  


Somewhere in Time (1980) ภาพยนต์โรแมนติกยาว ๑๐๓ นาทีกำกับโดย Jeannot Szwarc สร้างจากนิยายเรื่อง Bid Time Return เขียนโดย Richard Matheson  ซึ่งผู้ประพันธ์ก็ได้มาเขียนบทภาพยนต์เรื่องนี้ด้วยตนเอง ดังเพื่อน ๆ จะสามารถดูตัวอย่าง final draft ของเขาได้ที่นี่

สำหรับดนตรีประกอบ ผมชอบบทเพลง Somewhere in Time แต่งโดย John Barry ซึ่งปรากฏอยู่เป็นช่วง ๆ ในภาพยนต์ และยังมีท่วงทำนอง Rhapsody on a Theme of Paganini ของ Rachmaninoff แทรกออกมาเป็นครั้งคราว

ภาพยนต์ถ่ายทำที่โรงแรมแกรนด์ และ Mission Point Resort บนเกาะ Mackinac, Michigan


ดาราแสดงนำประกอบด้วย Christopher Reeve (ซุปเปอร์แมนรูปหล่อของเรา) รับบทเป็น Richard Collier


Jane Seymour รับบทเป็น Elise McKenna   


และ Christopher Plummer รับบทเป็น William Fawcett Robinson


สำหรับเนื้อเรื่องคงไม่ต้องกล่าวถึง อยากให้เพื่อน ๆ หาหนังมาดูเอง...



ฉากสุดท้ายก่อนการพลัดพราก....



 ก่อนได้กลับไปพบกันอีกชั่วนิรันดร...


เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้แล....

Monday, June 26, 2017

YIFY movies

ไม่รู้ว่าคนอื่นจะเป็นเช่นไร แต่สำหรับผมแล้ว ชีวิตบั้นปลายของผมขอได้อยู่กับเสียงดนตรี ดูหนังดี ๆ มีหนังสือเก่า ๆ ได้ท่องเที่ยวถ่ายรูปและเขียนบล็อก ก็ไม่อยากได้ใคร่มีอะไรอีกแล้ว 

วันนี้ผมอยากแนะนำ (อีกครั้ง) สำหรับแหล่งที่เพื่อน ๆ จะดาวน์โหลดหนังมาดูได้ชนิดไม่อั้น คือที่ YTS YIFY movies: HD smallest size


ตั้งแต่เปลี่ยนเน็ตจาก ADSL เป็น FTTx ผมสามารถดาวน์โหลดได้เร็วขึ้น...



บางครั้งเร็วถึง 1.6 Mbs


เช้านี้ภายใน ๑ ชั่วโมงผมดาวน์โหลดหนังมาได้ ๖ เรื่อง 
  • Dragonwyck 1946
  • Kong: Skull Island 2017
  • House of Strangers 1949
  • Barabbas 1961
  • Somewhere in Time 1980





ดูจนตาแฉะก็ไม่หมด!

Sunday, June 25, 2017

เพิ่มความเร็วให้เน็ตที่บ้าน


วันนี้ช่างจาก 3BB สามคนมาเดินสายสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้ใหม่ หลังจากที่ผมไปทำเรื่องขอเปลี่ยนจาก ADSL เป็น FTTx


เค้าบอกว่าต้องเดินสายใหม่มาประมาณ ๓ ร้อยเมตร ผมบอกว่าเคยขอ VDSL แล้วไม่ได้เพราะ node อยู่ไกล ช่างบอกว่าถ้าเป็น fiber เชื่อมต่อได้ไกลเป็นกิโลเมตร... 


เห็นสายที่เดินขึ้นมาแล้ว ผมพูดว่ามันก็ดูคล้ายกันนะ ช่างจาก 3BB ย้อนว่าไม่รู้อะไร...ข้างในไม่เหมือนกัน 


ผมบอกว่าหมายถึงรูปลักษณ์ภายนอกอ่ะ มิใช่เส้นใยแก้วนำแสงขนาดเล็กที่อยู่ข้างใน คิดในใจว่าแม้ตัวเองจะดูเป็นแค่เพียงตาแก่ซึ่งบางคนอาจปลดระวางไปนั่งเก้าอี้โยกรอวันตายแล้ว แต่ก็พอรู้เรื่องเทคโนโลยีสมัยใหม่อยู่บ้างนะ เรียนช่างอีเล็คทรอนิคส์ที่เทคนิคกรุงเทพเมื่อปี ๒๕๑๒ ปีเดียวกับที่นิล อาร์มสตรองขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ คิดว่าได้รู้ได้เห็นอะไรมามากกว่าบรรดาช่างหนุ่ม ๆ อย่างแน่นอน... 




 

 ต่อเร้าเตอร์เสร็จ ไฟแดงออก ช่าง ๒ คนขับรถไปต่อสัญญาณให้ที่ node ไม่นานไฟแดงก็ดับไป...


พี่ใหญ่กลับขึ้นมา setup ให้โดยใช้มือถือติดต่อกับทางศูนย์ ไม่นานก็เรียบร้อย ผมเปิดคอมพิวเอตร์เพื่อทดลองทันที ครั้งแรกก็ตาลุกเพราะมันขึ้นถึง 54 Mbs...



แต่ต่อมาลดลงเหลือ 33 Mbs ซึ่งก็ใช้ได้ครับ...




ไม่แน่นะ อีกหน่อยร้านเปียโนเปิด ผมอาจจะอัพเกรดให้เพื่อน ๆ ได้ใช้ free wifi ที่ทะยานถึง 200 Mbs เลยก็ได้ 555...

Friday, June 23, 2017

3 BB มีน้ำใจช่วยชาวสวน

วันนี้ผมขี่จักรยานยนต์เข้าเมืองเพื่อไปหาคุณหมอพรเทพ เสร็จแล้วก็ถือโอกาสแวะไปที่สำนักงานของ 3BB ที่ถนนสุเรนทร์เพื่อชำระค่าบริการ และติดต่อขอเปลี่ยนจาก adsl เป็น fiber 


ค่าบริการ ๕๙๐ บาทเท่าเดิมแต่ความเร็วแรงขึ้นเป็น 50/10 Mb เจ้าหน้าที่แจ้งว่าวันอาทิตย์ช่างจะมาเดินสายให้ ผมอยากรู้จังเลยว่ามันจะเร็วแค่ไหน?

พอเดินกลับออกมาก็เจอสาว 3BB กำลังแจกสับปะรดให้ลูกค้า เธอเรียกให้ผมเลือกหยิบไปได้เลย ๒ ลูก พร้อมกับบอกว่า "ช่วยชาวสวน" 



ผมจึงรู้ว่าทาง 3BB มีน้ำใจช่วยชาวสวน เนื่องจากปีนี้สับปะรดล้นตลาด (ราคาถูกมากกกก...)  บริษัทได้ช่วยรับซื้อสับปะรดจากชาวสวนแล้วนำมาแจก ก่อนรับมาก็เลยขออนุญาตถ่ายรูปไว้ซะหน่อย...


รู้สึกชื่นชมนะ... ใครทำดีผมก็ว่าดี!

Thursday, June 22, 2017

หนังสือเดินทางฉบับสุดท้าย

ผมไปทำหนังสือเดินทางที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลกเมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๐ เห็นป้ายเขียนบอกไว้ว่าจะได้รับหนังสือเดินทางภายในเวลาไม่เกิน ๗ วัน...


เชื่อถือได้ครับ เพราะวันนี้ที่ ๒๒ ผมก็ได้รับหนังสือเดินทางฉบับใหม่เรียบร้อยแล้ว นำมาเปรียบเทียบกับฉบับที่แล้ว เห็นความแตกต่าง ๒ อย่างคือ สีปกเข้มขึ้น และมีจำนวนหน้าเพิ่มจากเดิมอีก ๑๖ หน้า 


พาสปอร์ตเล่มใหม่ของผมหมดอายุวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๕  ถึงตอนนั้นคนถือก็แก่หง่อมเดินไม่ไหวแล้ว ผมจึงกล่าวได้ว่านี่คือ "หนังสือเดินทางฉบับสุดท้าย" ของผมอย่างแน่นอน...

การถ่ายภาพทำหนังสือเดินทางไม่มีการใช้โปรแกรมหน้าสวย เป็นเช่นไรก็ออกมาเช่นนั้น ผมขอนำภาพจากทั้งฉบับเก่าและใหม่มาเทียบกัน เพื่อได้เห็นความจริงของชีวิต 


ผ่านมาอีก ๕ ปี แก่ลงขนาดไหน...


จากนี้ไปอีก ๕ ปี ผมจะมีโอกาสถือหนังสือเดินทางฉบับสุดท้ายไปเที่ยวต่างประเทศได้อีกซักแค่ไหนก็ไม่รู้?

Tuesday, June 20, 2017

เบอร์โทรศัพท์สถานทูต/สถานกงศุลไทยทั่วโลก

ไปทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ผมเผลอซื้อซองพลาสติกมาด้วยในราคา ๒๕ บาท...


เห็นว่ามีเบอร์โทรศัพท์สถานทูต/สถานกงศุลไทยทั่วโลกพิมพ์อยู่ อาจมีประโยชน์สำหรับผู้ที่เดินทางไปทั่วโลก จึงได้สแกนมาลงไว้ให้ดังนี้...




สำหรับผมคงไปได้อีกไม่ไกลแล้วล่ะ!

Monday, June 19, 2017

ทำหนังสือเดินทางที่พิษณุโลก

อยู่ลำปาง...จะทำพาสปอร์ตหรือหนังสือเดินทาง ง่ายที่สุดก็คือเดินทางขึ้นเชียงใหม่แล้วไปทำที่ศูนย์ราชการจังหวัด ถนนโชตนา แต่ผมเลือกที่จะนั่งรถไฟไปทำที่จังหวัดพิษณุโลก เพราะอยากกลับไปเยือนเมืองสองแควอีกสักครั้งในชีวิต...



นั่งรถไฟฟรีขบวน 408 ผมเอาจักรยานพับไปด้วย ออกจากสถานีห้างฉัตรก่อนเที่ยง ถึงสถานีพิษณุโลกเกือบ ๖ โมงเย็น ปั่นจักรยานเข้าที่พักก่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยออกไปทำหนังสือเดินทาง... 


สำหรับที่พิษณุโลกต้องไปที่ศาลากลางจังหวัดครับ บนทางหลวงหมายเลข 12 ผมปั่นจักรยานข้ามสะพาน...


พอลงสะพานไปก็เห็นป้ายชี้ทางไป "สำนักงานหนังสือเดินทาง" อยู่ซ้ายมือ บอกให้เลี้ยวไปทางขวา...


ศาลากลางจังหวัดหาไม่ยากเลย อาคารที่เห็นอยู่ด้านหลังนั่นไง...


เอาจักรยานจอดหลบไว้แล้วเดินขึ้นบันไดไป เจ้าหน้าที่เห็นตาแก่เดินขากระเผลกก็ยิ่งชี้ทางให้เป็นอย่างดี ผมไปถึงเมื่อเวลาประมาณ ๐๘.๑๕ น.


ขนาดผมไปเช้าแล้วนะ ยังมีคนนั่งรอรับบัตรคิวอยู่แล้วตั้งหลายคน...


เค้าทำงานตรงเวลาครับ พอ ๘.๓๐ น. เจ้าหน้าสาวก็มาเปิดช่องให้ยื่นบัตรประชาชนเพื่อรับบัตรคิว...


ผมได้คิวที่ ๗ ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก สาวอีกคนนึงบอกให้ไปยืนวัดความสูง (หุหุ ความสูงผมลดลงไป ๑ เซ็นต์ติเมตร... เหลือแค่ ๑๗๘) จากนั้นก็แจกใบให้กรอกข้อมูลผู้ขอหนังสือเดินทาง กรอกนิดเดียวครับ...


เสร็จแล้วก็ถือเอกสารแค่ที่เห็นเข้าไปนั่งรอที่เก้าอี้ในห้องแอร์ รอให้เค้าเรียก....


ไม่นานครับ พอชุดแรกลุกไป ผมก็ถูกเรียกให้เข้าไปสแกนลายนิ้วมือ ๔ นิ้ว (ซ้าย-ขวา) และนิ้วโป้ง ๒ ข้างพร้อมกัน จากนั้นก็ถอยหลังออกห่างนิดนึงให้เค้าถ่ายรูป... 


ไม่ต้องกรอกรายละเอียดอะไรอีก นอกจากเซ็นและเขียนชื่อด้วยปากกาหมึกดำ เจ้าหน้าที่จะถามถึงหนังสือเดินทางเล่มเก่า ผมนำไปด้วยก็หยิบยื่นให้ เค้าเอาไปบันทึกอะไรนิดหน่อยแล้วคืนให้ ก็เป็นอันว่าเสร็จ เหลือขั้นตอนสุดท้ายคือไปจ่ายเงินที่ห้องกระจกด้านซ้ายมือ...

ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง ๑,๐๐๐ บาท ค่าส่งไปรษณีย์ EMS ๔๐ บาท เจ้าหน้าที่ถามว่าเอาซองใส่ด้วยหรือเปล่า? ผมปากหนักไปหน่อยไม่ได้ถามราคา รีบบอกว่าเอา เลยต้องเสียอีก ๒๕ บาทสำหรับซองพลาสติกที่เห็น แพงไปหน่อยแต่ก็ดี เพราะมีเบอร์โทรศัพท์ hotline สถานทูต/สถานกงศุลไทยทั่วโลกพิมพ์ไว้  ชำระเงินเรียบร้อยแล้วก็ไม่มีอะไรอีก กลับไปนอนรอรับหนังสือเดินทางที่บ้านได้เลย 


ทำหนังสือเดินทางที่พิษณุโลกง่ายและรวดเร็วมากครับ  แค่ ๙ โมงเช้าก็เสร็จแล้ว!