Saturday, August 02, 2025

The unhealable wound

Some people say that time heals all wounds.  อยากถามว่า "จริงหรือ?" 

 
อู่หลงจากผมไปได้กว่าครึ่งปีแล้ว เมื่อวานนี้ผมขึ้นไปทาสีไม้ระแนงรั้วบนดาดฟ้า 
 
 
เป็นเหมือนคนบ้า ทาสีไปได้แต่คิดถึงสายตาอู่หลงที่จ้องมองดูผมทำงานอย่างไม่เบื่อไม่หน่าย เมื่ออยู่ลับตาก็ส่งเสียงเรียกวิ่งหา... 
 
 
โต๊ะเก้าอี้ที่อู่หลงเคยโดดขี้นไปยืนมองผม ทุกวันนี้ว่างเปล่า... 
 
 
 
ขึ้นลงตรงประตูออกไปยังดาดฟ้า แต่ก่อนเคยมีเจ้าหมาน้อยตามติด...
 

เมื่อวานผมค้นเจอปลอกคอที่รีบไปหาซื้อในวันแรก ๆ ที่ได้อู่หลงมา ตอนนั้นยังตัวเล็ก คอไม่ใหญ่...

 
หยิบขึ้นมาลูกคลำ แล้วน้ำตาก็เอ่อล้นทำนบ ผมร้องไห้อยู่ได้ครึ่งวันโดยไม่ได้ทำอะไรเลย!!... 
 
 
The wound of losing you has never been healed, Oolong. Perhaps, until the day I take my last breath. 
 
ภาพจาก Facebook Grandma Recipes & Home Cooked Meals - thanks!

ขอโทษครับ...ผมอ่อนแอเกินไป!

Thursday, July 31, 2025

Get lost...Food Poisoning

ามที่ได้โพสต์เรื่อง "ไม่ต้องนึ่งข้าวกิน!" วันนี้ตาแก่บ้านห้างฉัตรอยากบอกอีกครั้งว่า ได้หุงข้าวกินแบบสดใหม่วันต่อวัน...ด้วยความยินดียิ่ง! 
 
 
ด้วยหม้อหุงข้าวขนาดเล็กที่มีผู้เมตตาให้มา ผมหุงข้าวได้ง่ายมากกกก ซาวข้าว 1 ถ้วยตวงใส่หม้อแล้วเติมน้ำในปริมาณที่เท่ากัน นำไปหุงโดยใช้ไฟจากระบบโซล่าเซลล์...
 
 
ใช้ไฟฟ้าไม่มากเกินกำลังของ inverter ราคาถูก...
 
 
ผมเห็นกระแสไหลผ่าน solar charger 12.6 แอมป์...


ข้าวน้อย...น้ำน้อย ไม่นานก็สุกครับ ปล่อยไว้ให้ระอุแล้วตักใส่จานกินได้มื้อนึงพอดี
 
 
กินเสร็จ...ล้างหม้อคว่ำไว้หุงวันต่อไป

 
ปราศจากการปนเปื้อน ดีต่อสุขภาพ "Food Poisoning" ไปอยู่ไกล ๆ เลย!

Tuesday, July 29, 2025

ไม่ต้องนึ่งข้าวกินแล้ว!

สััปดาห์ที่แล้ว... ผมเขียนเรื่อง "นึ่งข้าวกินดีฝ่า"
  
 
เพื่อหลีกเลี่ยงการหุงข้าวจำนวนมากเกินสำหรับคน ๆ เดียวและกินข้าววันละหนึ่งมื้อ ไม่อยากเก็บแช่ข้าวที่เหลือกินไว้ในตู้เย็นอีก 4-5 วัน โดยรอให้มันบูดและเกิดเชื้อที่ทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ (food poisoning) เป็นเพียงความคิดที่จะแก้ไขปัญหาด้วยการเปลี่ยนมานึ่งข้าวด้วยซึ้งครั้งละ 8 ขัน ใช้กินได้ 4 วัน....
 
 
 
นึ่งข้าวกินมาได้ครั้งนึงแล้ว ปัญหาคือมันยังต้องแช่ตู้เย็นไว้หลายวัน (บางครั้งนึกอยากต้มบะหมี่กิน ข้าวก็ต้องเก็บไว้ก่อน) เวลาจะกินต้องเอาออกจากถุงแล้วอุ่นในไมโครเวฟ แต่ก็ใช้ได้ครับ กินได้...แม้จะไม่ได้หุงใหม่ ๆ คิดอยู่เหมือนกันว่าจะหุงข้าวใหม่ ๆ กินได้ทุกวันได้อย่างไร เมื่อกินแค่เพียงวันละ 1 ถ้วยตวง ??? 
 
 
2 วันก่อนลงไปที่หน้าประตูร้านเปียโน...เห็นกล่องพัสดุใบหนึ่งถูกนำมาวางไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้!! ยกดูก็เบาๆ ผมนำขึ้นมาทีชั้น 4 เพื่อแกะดู
 
 
ส่งมาทาง J&T Express มีชื่อและที่อยู่ผู้รับชัดเจน พร้อมระบุว่าผู้ซื้อไม่ต้องชำระเงินกับพนักงานขนส่ง ผมมองหาชื่อผู้ส่งไม่พบ มีแต่บอกว่ามาจาก TikTok Shop 

แกะออกดู...พบว่าของที่บรรจุอยู่ข้างในมี 3 อย่างด้วยกันคือ

  • หม้อหุงข้าว 1.2 ลิตร มัลติฟังก์ชั่น เนื้อชั้นในแบบไม่ติดกระทะ
  • ที่เปิดขวดพวงกุญแจโคมไฟ
  • หมวกเดินป่า 

ข้าวที่นึ่งไว้หมดตั้งแต่วันวานแล้ว วันนี้ผมลองหุงข้าวด้วยหม้อใบจิ๋ว...
 

ใช้ข้าวสาร 1 ถ้วยตวง ตามปริมาณที่บริโภคแต่ละวัน...

 
ซาวข้าวก่อนให้สะอาด นำมาใส่หม้อพร้อมน้ำปริมาณเท่า ๆ กัน... 


เสียบใช้ไฟจากระบบโซล่าเซลล์...


ใช้เวลาไม่นานข้าวก็สุก...


ตักใส่จานได้พอดีสำหรับหนึ่งมื้อ ต่อไปผมหุงข้าวกินได้สดใหม่ทุกวัน ไม่ต้องเหลือเก็บแช่ตู้เย็นอีก


ขอบพระคุณผู้มอบให้ด้วยความซาบซึ้งใจครับ!

ซื้อ CF Card ให้เจ้า D100

ลังจากเก็บเจ้า Nikon D50 เข้ากรุ ผมยังเหลือกล้องดิจิตอลแบบ single-lens reflex (DSLR) อีกตัวนึง คือ Nikon D100 ซึ่งประมูลเอาไว้ในสมัยที่ยังพอมีกะตังค์อยู่บ้างในราคา 2,100 บาท 



ผมไม่ค่อยได้เอาเจ้า D100 ออกมาใช้ เพราะต่อเชื่อมกับ PC แล้วไม่สามารถมองเห็นไฟล์ที่อยู่ใน SD card ได้  จากนี้ไปต้องนำขึ้นมาใช้...ผมต้องแก้ไขปัญหายุ่งยากนี้ก่อน



memory card ของกล้องตัวนี้เป็นแบบ CF (Compact Flash)  ตัวที่ติดกล้องมาเป็น adapter SD card to CF card ผมใส่ SD card ขนาด 2 GB เข้าไป...มันก็ใช้เก็บภาพได้อยู่ แต่เวลาเชื่อมต่อไปยังคอมพิวเตอร์ทางสาย Usb กลับมองไม่เห็น ???? 
 
 
 
การดึง adapter ออกแล้วแกะ sd card ไปใส่ card reader นั้นไม่สนุกเลย ถ้าผมต้องนำกล้องตัวนี้มาใช้ จักต้องแก้ไขปัญหานี้ก่อน พอดีมี CF card เก่าแก่สมัยยุคบุกเบิกที่ยังใช้การ์ดเก็บข้อมูลได้เป็น MB (ถ่ายได้ไม่ถึง 10 รูปก็เต็มแล้ว) อยู่ตัวนึง...ตาแก่บ้านห้างฉัตรทดลองเอาไปใส่ให้กับเจ้า D100 โดยไม่รีรอ 
 
 
 
ผ่านสาย Usb คอมพิวเตอร์มองเห็นได้ in a flash ตกลงกล้องไม่เสีย port ก็ไม่เสีย เรื่องของเรื่องคือต้องเสียตังค์อีกแย้ว หุหุ ไม่ซื้อก็ไม่ได้ ผมต้องสั่ง CF card ขนาด 2 GB มา 1 ใบ ราคา 218 บาท...  
 

เมื่อได้การ์ดมา...ผมก็จับใส่กล้อง แล้วนำขึ้นไปทดลองเก็บภาพบนดาดฟ้า





 
สังเกตเห็นได้ว่ามีจุดดำให้เห็น (น่าจะเป็นบนเซนเซอร์อีกเหมือนกัน แต่มันไม่มากเหมือนน้อง D50)

 
  

คิดว่าใช้ได้ ไม่น่าเกลียดอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนมักง่ายอย่างผม!! เมื่อมีแสงแดดสาดส่อง ก็รีบนำกระเป๋ากล้องเก่าแก่ออกตากเพื่อไล่ความชื้นทันที...
 
 
เหลือกล้อง DSLR อยู่ตัวเดียว ก็ต้องใช้จนตายไปกันข้างนึงล่ะ

Tuesday, July 22, 2025

Farewell to Nikon D50

ดร. ปิง มอบกล้อง  Nikon D50 ให้ผมไว้ใช้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 ตอนนั้นผมกำลังเดินทางไปพม่าเป็นครั้งที่ 2   
 
 
 
เป็นกล้องดิจิตอล DSLR ตัวแรกในชีวิตที่ผมไม่คาดคิดว่าจะมีโอกาสได้ใช้ (ฟรี ๆ) ผมนำไปถ่ายภาพในการท่องโลกของผมอย่างมีความสุข
 
 
 
กล้องดีจริง ๆ ครับ ผมนำเจ้า D 50 ออกงาน อยู่บ่อย ๆ เก็บภาพได้เป็นที่น่าพอใจ
 
 
 
ปีที่แล้วผมโพสต์เรื่อง Nikon D50 - กล้อง DSLR ตัวแรก พร้อมลงภาพที่ถ่ายบนดาดฟ้าบ้านห้างฉัตร ดร.ปิง นำภาพไปพิจารณาโดยละเอียด แล้วบอกว่าเซนเซอร์กล้องเสียแล้ว ภาพที่ออกมามีจุดดำ ๆ หลายตำแหน่งและขอบด้านขวามีแต่รอยเหมือนเชื่อราทำลาย...
 
 
2-3 วันที่ผ่านมา...ผมนำ เจ้า D50 มาทดสอบอีกครั้ง เห็นจุดดำและตำหนิอย่างชัดเจน... 
 
 
ลองสั่งชุดทําความสะอาดเซ็นเซอร์มาใช้ หมดไป 47 บาท... 

ก็ไม่สามารถช่วยได้แม้แต่น้อย ภาพที่ได้ก็ยังคงมีตำหนิ 
 

เพิ่งเขียนเรื่อง "Farewell to Tokina 60-300 mm"  ก่อนเก็บเจ้าเลนส์ซูมเข้าตู้ 
 
 
มาวันนี้ต้องจำใจอำลา D50 ผมรู้สึกเสียดายไม่น้อยเมื่อต้องเลิกใช้กล้องแสนรักที่ใช้งานมานานกว่า 10 ปี

Farewell to Tonika 60-300 mm

ลาก่อน D50 ที่รัก...