Saturday, January 02, 2016

Louis Green

ลุงหลุยส์ กรีน ชาวอังกฤษวัย 60 คนนี้ก็ไม่ยอมแพ้หนุ่ม ๆ เหมือนกัน แกปั่นจักรยานคนเดียวท่องโลกอย่างที่เห็นในภาพนี่แหละครับ...


น่าเสียดายที่เป็นภาพขาวดำเก่า ๆ ทำให้ไม่สามารถเห็นในรายละเอียด แต่ก็พอจะเห็นว่าเป็นตาแก่หนวดขาว สวมเสื้อยืดบอกว่า “ I’M CYCLING ROUND THE WORLD” กำลังปั่นจักรยานอย่างใจเย็น ดูท่าทางแกก็ง่าย ๆ ดีนะครับ ไม่รีบร้อนทำเวลา เหมือนที่แกบอกว่า “ปั่นจักรยานท่องโลกไม่ใช่เรื่องของการแข่งขัน หรือการทดสอบความแข็งแกร่ง ถ้าผมเจออะไรที่มันน่าสนใจ ผมก็จะหยุดดู บ่อยไป..ที่ผมแวะขี่ลงข้างทาง เพื่อจะดูว่ามันไปถึงไหนกัน”


จากจุดเริ่มต้นที่อัมสเตอร์ดัม  ลุงหลุยส์ปั่นจักรยานลงทางใต้ แวะฟังดนตรีคลาสสิก เที่ยวหอศิลป์ ชมธรรมชาติ นอนดูดาว เดินทางไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รีบร้อน   (แหม…ช่างน่าอิจฉาจัง...)

แต่พอถึงบาซีโลน่า ก็เจอดีเข้าจนได้  แกโดนกลุ่มคนร้ายใช้มีดจี้เอาข้าวของไปเกือบหมด (ดีนะที่มันไม่ได้เอาจักรยานไปด้วย) แกต้อวขี่กลับเข้าฝรั่งเศส นั่งเรือเอาจักรยานไปปั่นเที่ยวบนเกาะคอร์สิก้าและซาดีเนีย (อยู่ระหว่างยุโรปกับอาฟริกา) เที่ยวไปอย่างมีความสุข  จน…ก่อนที่จะออกจากที่นั่นเพียงแค่สองวัน ก็เจอทุกข์เข้าอย่างจัง เมื่อโดนจักรยานยนต์ชนอัดเข้าที่เท้าข้างขวา  ต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรับการผ่าตัดและรักษาตัวอยู่หลายอาทิตย์ เมื่อถามหมอถึงโอกาสที่จะกลับไปปั่นจักรยานได้อีกหรือไม่ หมอต่างก็ไม่แน่ใจและให้ความเห็นว่าลุงแกอาจต้องใช้ไม้เท้าไปตลอดชีวิต (ถ้าเจออย่างลุงแก ผมคงหมดความหวังที่จะปั่นต่อไปแล้วนิ)

ผ่านไป 3 เดือน พอเอาเฝือกออก แกก็ควบจักรยานต่อเลย ทั้ง ๆ ที่เวลาเดินยังต้องอาศัยไม้เท้าช่วยอยู่ แกรู้สึกว่าปั่นจักรยานยังจะง่ายกว่าการเดินเสียอีก   หลังจากที่อยู่โรงพยาบาลเสียนาน ลุงหลุยส์ไม่รอช้าที่จะข้ามไปปั่นจักรยานเที่ยวบนหมู่เกาะเอโอเลี่ยนซึ่งอุดมไปด้วยภูเขาไฟและน้ำพุร้อน
จากนั้นก็โบกมืออำลายุโรป นั่งเรือไปทูนีซ ปั่นต่อไปจนถึงอัลจีเออส์ เพื่อเริ่มต้นการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือ การปั่นข้ามทะเลทรายซาฮาร่า

คนแก่อายุ 60 ปั่นจักรยานคนเดียวข้ามทะเลทรายซึ่งเราเคยเรียนรู้กันว่าโหดที่สุด ด้วยระยะทางเป็นพัน ๆ กิโลเมตร บนถนนที่มีแต่หินและทราย ต้องปั่นเป็นร้อยกิโลเมตรกว่าจะเจอเมืองแต่ละเมือง บางครั้งถนนก็หายไป กลายเป็นแค่รอยทางรถบนผืนทราย พบแต่ซากของรถยนต์ และเรื่องราวของนักเดินทางหลายสิบคนที่เอาชีวิตไปทิ้งทะเลทรายในแต่ละปี  

อย่างไรก็ตาม ลุงหลุยส์ก็ไม่ยอมแพ้ แกสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ในที่สุด พร้อมด้วยประสบการณ์ที่ต้องจดจำไปชั่วชีวิต

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา - บทความในหน้าหนังสือพิมพ์ที่เจอในออสเตรเลีย

No comments: