Friday, September 28, 2018

การแข่งขันรถยนต์รอบโลก พ.ศ. ๒๔๕๑ (ต่อ)

อ่านต่อเรื่องการแข่งขันรถยนต์รอบโลก พ.ศ. ๒๔๕๑ นะครับ...

๙. ทะเลทราย ตอนนี้รถแข่งต้องเผชิญกับอากาศร้อนที่แสนทารุณของทะเลทรายเด๊ค ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง ๒๘๐ ฟุต จากนั้นก็ถึงทะเลทรายโมราฟ พายุทรายทำให้ผู้ขับขี่มองไม่เห็นทาง แถมพัดพาเอาทรายเข้าไปอุดช่องอุดรูของหม้อน้ำเสียด้วย ส่วนล้อรถที่ยังอุตส่าห์หมุนได้ก็ไม่ช่วยให้รถเคลื่อนที่ไปประการใด เพราะพื้นที่แถบนั้นเป็นทรายแห้ง จึงถึงฉากของการเข็นอีกครั้งหนึ่ง...



๑๐. ประเทศญี่ปุ่น  ในที่สุดรถทั้งสี่ก็ฟันฝ่ามาจนถึงเมืองซีแอ๊ตเติ้ล, มลรัฐวอชิงตัน จากนั้นก็ถูกนำลงเรือเพื่อข้ามไปยังประเทศญี่ปุ่น การเดินทางข้ามเกาะญี่ปุ่นนับได้ว่าเป็นฝันร้ายที่สุด ในญี่ปุ่นขณะนั้นยังไม่มีถนน นอกจากทางแคบ ๆ ที่ลัดเลาะไปตามไหล่เขา โดยข้างหนึ่งของทางเป็นทะเล และอีกข้างหนึ่งเป็นหน้าผาอันสูงชัน...


๑๑. แมนจูเรีย เดอ ดีอองยอมแพ้ที่ญี่ปุ่น รถที่เหลือจึงข้ามมายังวลาดิวอสต๊อคในไซเบเรียโดยเรือ ตอนนี้จึงเหลือรถซุสต์ของอิตาลี โปรโตส์ของเยอรมัน และโทมัสของอเมริกัน ต่างก็พยายามคืบหน้าข้ามประเทศแมนจูเรีย ซึ่งในขณะนั้นพื้นดินเฉอะแฉะไปด้วยน้ำที่ท่วมท้นจากแม่น้ำ ชาวบ้านจำนวนมากได้เข้ามาช่วยลากรถที่ต้องตกหลุมโคลนบ่อย ๆ


๑๒. ไซเบเรีย  หลังจากบุกบั่นมาอย่างทุเรศทุรังร่วมห้าเดือน รถและคนซึ่งต่างก็อ่อนเปียกจึงได้มาพบทุ่งหญ้าที่ราบเรียบและกว้างสุดลูกตาของไซเบเรีย แม้จะไม่มีถนนทุ่งหญ้าอันราบเรียบก็ช่วยให้การแข่งดำเนินไปอย่างสะดวก ตอนนี้รถโทมัสนำหน้ามาได้ ๙ วัน แต่แล้วกลับต้องหยุดซ่อมเครื่องยนต์ จึงนำคันอื่นเพียง ๔ วัน รถเยอรมันคงตามมาเป็นอันดับสอง


๑๓. ยุโรป  เมื่อการแข่งขันใกล้จุดปลายทางเข้า บรรดาถนนหนทางในยุโรปที่รถแข่งจะต้องผ่านจึงขนัดไปด้วยผู้คนที่มาต้อนรับ รถโทมัสนำหน้า ตามมาด้วยรถโปรโตส์ ส่วนรถซุสต์ของอิตาลียิ่งตามก็ยิ่งห่าง และห่างมากจนน่าเกลียด จึงจำต้องถอนตัวจากการแข่ง



๑๔. ปารีส  ภายหลังจากที่ออกจากนิวยอร์คมาเป็นเวลา ๕ เดือนกับ ๑๘ วัน คือในวันที่ ๓๐ กรกฎาคม รถโทมัสจึงเข้าสู่กรุงปารีส ส่วนโปรโตส์คงตามมาถึง หลังจากนั้น ๑๐ วันโทมัสจึงเป็นรถที่ชนะการแข่งรอบโลก ส่วนยอร์จ ซุสเตอร์คงเป็นคนขับคนเดียวที่ติดตามรถมาตลอดทาง



๑๕. สรุป  การแข่งรถรอบโลกครั้งนั้นได้นำความก้าวหน้ามาให้แก่รถรุ่นหลัง ๆ มาก โดยชี้ให้นักสร้างรถรุ่นหลัง ๆ เห็นจุดอ่อนและอุปกรณ์บางอย่างที่ควรเพิ่มเติม ทั้งยังชี้ให้เห็นสมรรถภาพของรถยนต์หากได้วิ่งบนถนนดี ๆ ด้วย



ผมอ่านเจอในวิกิพีเดียกล่าวว่า...
The longest automobile race in history, with Paris as the finish line, was the 1908 New York to Paris Race. Six teams from France, Italy, Germany, and the United States competed with three teams actually reaching Paris. The American Thomas Flyer driven by George Schuster was declared the winner of the epic 22,000 mile race in 169 days
มีภาพรถ Mors ซึ่งขับโดย Fernand Gabriel ในการแข่งขัน Paris - Madrid (พ.ศ. ๒๔๔๖) ด้วย...


จบการแข่งขันรถยนต์รอบโลก พ.ศ. ๒๔๕๑ แล้วจ้า!

2 comments:

Unknown said...

พี่ครับ บทความของพี่เป็นประโยชน์มากครับ
ผมกำลังซ่อมเมโลเดียน เผอิญเจอบทความที่พี่เขียนเมื่อ หกเจ็ดปีก่อน ผมมีสิ่งที่ต้องการให้พี่ช่วยครับ คือ คีย์สูงๆ เสียงมันไม่ค่อยออก มีแต่เสียงลม ต้องใช้แรงมากเป่าถึงจะออก รบกวนติดต่ออีเมลนี้หน่อยครับ

Unknown said...

Minhyukshii24@gmail.com
หรือเฟสบุ๊ค Toptap