Thursday, July 29, 2021

What's sparking on my mind?

หยุดเสพข่าวเกือบทั้งหมด... ผมขอหลีกเลี่ยงการได้เห็นภาพสะเทือนใจ ใช่ว่าจะไม่ใส่ใจหรือมิเห็นใจกับการสูญเสียนะครับ  แต่ตอนนี้มันสุดทนแล้ว 

ตัวเองยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ผมขอสละสิทธิ์ ไม่เคยคิดที่จะไปยื้อแย่งแข่งขันเพื่อได้มาซึ่งวัคซีนที่เค้าบอกว่ากันตาย ผมไม่กลัวแล้วซึ่งความตายเพราะอยู่มานานมากพอ แม้ตอนนี้ตัวเองจะไร้ค่า ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์อย่างที่บอกไว้ สิ่งหนึ่งที่พอทำได้คือพยายามเก็บตัวแ่ละไม่เพิ่มภาระให้กับสังคม ในขณะที่ผู้มีชื่อเสียงหลายคนก็จากโลกนี้ไปแล้ว เพื่อนผมก็ค่อย ๆ ตัดช่องน้อยแต่พอตัวทิ้งพวกเราไป

ไม่มีลูกหลานให้ต้องเป็นห่วง สมบัติก็เหลือเพียงน้อยนิด ไม่เคยคิดห่วงหวงแหน ทุกวันนี้รอเงินประกันก้อนสุดท้ายที่จะเอาไปท่องโลกชนิด unlimited ตั้งแต่ปลายปี ๖๖ หรือ่ต้นปี ๖๗ ท่องโลกตามเนื้อเพลง Green Green ที่บรรยายว่า...

    Green green it's green they say  

    On the far side of the hill

    Green green I'm goin' away

    To where the grass is greener still


 
เศรษฐีหลายคนคงไม่เดือดร้อนกับ pandemic บางคนอาจได้เงินทองมากขึ้นจากสถานการณ์เลวร้ายด้วยซ้ำ คนอย่างผมขอปล่อยวาง อยู่บ้านอ่านหนังสือ เขียนบล็อก สุขใจในชีวิตและประสบการณ์ที่ผ่านมา ทิ้งความอยากได้ใคร่มี แล้วแสวงหาความเรียบง่ายของชีวิตก็พอ...

 
 
ดีใจที่ยังมีร่างกายที่เคลื่อนไหวได้ ปั่นจักรยานออกไปชื่นชมธรรมชาติได้ ที่สำคัญคือการได้แสวงหาความสุขซึ่งอาจแตกต่างจากคนทั่วไป อาทิ การมองเห็นสีสันที่แอบซ่อนอยู่ ความงามที่ต้องอาศัยสายตาและมุมมองที่แตกต่างออกไป...
 
 
ที่ไหนก็ได้ครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นความสุขสบายในโรงแรมหรูอย่างเดียว ความประทับใจที่ผมได้นอนร่วมกับผู้เดินทางมากหลายคนบนพื้นปูนหน้าสถานีรถไฟหัวลำโพงยังคงติดตามผมมาจนถึงทุกวันนี้ นึกถึงทีไรสุขใจเมื่อนั้น...
 
 
พักนี้ผมเห็นภาพเพื่อนมงฟอร์ตออกสื่อบ่อยขึ้น รู้สึกทึ่งในสุขภาพที่ดียิ่งของมหาเศรษฐีระดับโลก... 


หนังสือของท่านแต่ละเล่มคงแพงน่าดู พอหันกลับมาดูตัวเอง หุหุ ต้องสั่งซื้อหนังสือเก่าจากร้านค้าออนไลน์มาอ่าน (ราคาเหรียญกว่า ๆ)  แต่ผมก็ดีใจที่ได้อ่าน สามารถเพิ่มความสุนทรีได้อีกหลายเท่าด้วยการดาวน์โหลดหนัง Great Expectations มาเปิดดูทั้ง ๓ เวอร์ชั่น (1946  1998  2021) ความบันเทิงแลความรู้ถูกอัดเข้าตัวผมด้วยต้นทุนแค่ ๔๐ บาท
 
 
 
เวลาไปถ่ายรูปวัด สายตาผมก็สอดส่ายหา subject ที่ทำให้มีความสุขเมื่อกดชัตเตอร์...
 

โปรดอย่ามองข้ามในสิ่งที่หลายคนตีค่าว่าเป็นแค่ขยะ...

 
เศรษฐีบางคนร้องเพลงก็ยังเพี้ยน แต่โชคดี...ผมเล่นและร้องเพลงให้ตัวเองได้ในลักษณะที่ไม่น่าอาย
 
 
 
แม้ปราศจากเครื่องเสียงประเภทไฮเอ็นด์ก็ไม่เป็นไร ผมฟังเพลงออกว่าท่วงทำนองไพเราะนั้น chord progression กำลังดำเนินไปเช่นไร ไป super tonic, sub dominant, หรือกลับมา tonic? นั่นมัน major นี่นา  อ่อ...นั่น minor!  ฮู้ย...นั่นคอร์ด dim ท่านมัจจุราชมาแย้ว!!!  ความสุขมีได้เพียงแค่จินตนาการเห็นภาพนิ้วมือตัวเองร่ายรำอยู่บนคีย์บอร์ด หรือเห็นเด็กน้อยอนุบาลกลายเป็นนักศึกษาสาวที่ ม.ช.
 
 
ขอบคุณครับแม่ ที่สร้างผมให้เป็นคนฟังเพลงแล้วชื่นชมได้มากกว่าเสียงที่ดังออกลำโพง...
 

แม่เคยบอกว่า "เอ็งจะอายุยืน เพราะไม่กินเนื้อสัตว์" ผมพอใจเท่าที่เป็น พร้อมเสมอกับเหตุการณ์รุนแรงยิ่งกว่าทุกวันนี้! เพื่อน ๆ ดูแลตัวเองให้ดีนะ

No comments: