แม่เคยบอกผมว่า "หนูไม่มีดี"
หนูกัดสายไฟหม้อหุงข้าวขาด ต่อมาก็กัดสายไฟเครื่องบดกาแฟขาด ผมนึกถึงตอนซื้อเครื่องถ่ายเอกสารจากเชียงใหม่มาไว้ที่บ้านปงแสนทอง ลำปาง หนูเข้ากัดสายไฟทำให้เครื่องราคา ๕ พันบาทหมดค่าลงไปภายในพริบตา!! ผมเคยเขียนเรื่องของหนู และเรื่อง "สารภาพบาป" ไว้นานแล้ว เป็นเรื่องของการใช้กรงดักหนู...
ดักได้แล้ว...ผมก็นำไปปล่อยที่ลานกว้างข้างวัดดอนมูล
กรงดักหนูที่จับหนูได้ เมื่อนำกลับมาใช้อีกครั้งหนูก็มักจะไม่มาเข้าอีก มันคงได้กลิ่นเพื่อนหนูของมันที่เคยหลงกลเข้ามาติดกับ ผมต้องเปลี่ยนไปใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าเก่าที่เสียแล้ว เปิดฝาขึ้นมาแล้วเอาตะเกียบค้ำฝาไว้ ตรงโคนเสาตะเกียบทำเชือกคล้องไปยังขนมปัง ตกกลางคืนหนูเข้าไปกินเหยือ เสาตะเกียบก็ล้ม ฝาปิดลงขังหนูไว้ในหม้อ ได้ยินเสียงฝาปิดแล้วล่ะ...ผมออกไปดูก็รู้ว่าเจ้าหนูฟันคมถูกขังอยู่ข้างใน บอกมันว่าจะย้ายสำมะโนครัวให้มันไปอยู่รีสอร์ทข้างวัดโน่น
เช้าวันรุ่งขึ้น ผมคว้าหม้อลงมาให้เจ้าแชมป์พาไปส่งที่ลานปล่อยหนู....
เอากล้องถ่ายรูปคล้องคอไปด้วย...ผมหาทำเลเหมาะ ๆ เตรียมปล่อยหนู ตั้งใจว่าจะถ่ายรูปมันไว้ตอนหนูวิ่งออกไป...
ผมเอาถุงพลาสติกออก ก็ยังไม่ได้สังเกตเห็นรูที่ฝาหม้อ...
พอยกฝาหม้อขึ้น ผมก็ต้องรอถ่ายรูปเก้อ เพราะไม่มีหนูอยู่ข้างใน... เจ้าหนูหนีไปตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว มันใช้ฟันอันแหลมคมกัดพลาสติกจนรูใหญ่พอจะเล็ดลอดออกไปได้! มันคงกลับไปอยู่ใต้ตู้เก็บของข้างตู้เย็นอย่างเดิมแล้ว
เห็นมันหายเงียบไปวันสองวัน เมื่อคืนนี้ผมเข้าไปในห้องน้ำ เห็นเจ้าหนูน้อยกำลังว่ายน้ำป๋อมแป๋มอยู่ในถังน้ำ กำลังจะจมน้ำตาย ดูใกล้ ๆ มันก็น่ารักดีนะ ตากลมโต ขนสีทองเป็นมัน ผมใช้โหลแก้วตักมันขึ้นมา เทน้ำออก เอากล่องขนมกลม ๆ ปิดปากโหลไว้ ตั้งใจว่าพรุ่งนี้เช้าจะรีบนำไปปล่อย...
๗ โมงเช้าวันนี้จะนำหนูไปปล่อย...ผมก็ต้องเสียใจ เมื่อก้มลงมองดูในโหลแล้วพบว่ามันตายเสียแล้ว
RIP ขอโทษด้วยนะเจ้าหนูน้อย ไม่ได้ตั้งใจจะให้เจ้าตายจริง ๆ