Friday, November 29, 2024

How to survive

ด้เวลาทำขนมปังอีกครั้ง!  เมื่อวานนี้ผมใช้แป้งสาลีธรรมดา 2 ถ้วยตวงกับแป้งโฮลวีทแบบหยายอีก 1 ถ้วยตวง ทำขนมปังออกมาได้ขนาดอย่างที่เห็น...

อ่อ...คราวนี้ผมโรยงาขาวด้วยนะ หนมปังที่ได้มีน้ำหนัก (แบบว่าปาหัวหมาร้องเอ๋ง) เนื้อดูน่ากิน มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าขนมปังเนื้อขาว ๆ นิ่ม ๆ อย่างที่วางจำหน่ายในห้างฯ

ตัดแบ่งได้ 9 ชิ้น ผมเก็บไว้กิน (แบ่งกับอู่หลง) ได้ 1 สัปดาห์ 

ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่อุตส่าห์เข้ามาคลิกดูเรื่องราวไร้สาระของตาแก่บ้านห้างฉัตร ผมอยากแนะนำว่า...คนไทยน่าจะหันมาทำขนมปังกินเองบ้าง ดีกว่ากินแต่ข้าวขาวซึ่งมีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบร้อยละ 70-80 และมีน้ำตาลซูโครส (sucrose) และน้ำตาลเดกซ์ทริน (dextrin)  ทำขนมปังกินเองโดยใช้แป้งโฮลวีทใส่ธัญพืชที่มีประโยชน์ลงไปด้วย ก็จะได้เสบียงอาหารซึ่งให้พลังงานมากกว่า ทำง่าย เก็บไว้กินได้นาน (ไม่ต้องกินเยอะก็ได้พลังงานเท่า ๆ กับข้าวสวยหอมนุ่มเป็นจาน ๆ) เหมาะอย่างยิ่งสำหรับกรณีเกิดภัยพิบัติเมื่อต้องเก็บตัวให้อยู่รอด (How to survive)

เมื่อวานนี้ความดันโลหิตผมลดต่ำผิดปกติ ต้องนอนพัก เช้านี้ตื่นขึ้นมาวัด BP ได้ 110/72 ชีพจร 76 หลังจากกินอาหารเช้าวัดได้ 121/75 P82 นับว่าโอแล้ว! เปิดกล้องตัวที่ติดตั้งไว้เมื่อวานนี้ดู...เห็นสภาพการจราจรบริเวณสี่แยกห้างฉัตร...

ความวุ่นวายมีมากขึ้นทุกที ชีวีผมจะเป็นอย่างไรเมื่ออยู่ใกล้ไฮเวย์???

Thursday, November 28, 2024

ความดันฯ ลดเกิน!

วันนี้ช่างเหอะติดตั้งกล้องวงจรปิดตัวที่อยู่หน้าบ้าน โดยเดินสาย AC จากชั้นสองทะลุพื้นไปออกหน้าประตูเหล็ก ต่อเข้ากับ adapter เพื่อจ่ายไฟให้กล้องฯ ทดสอบแล้วพบว่าใช้งานได้คุ้มค่าตามราคาสินค้าถูก... 

 
ชั้นล่างติดตั้งกล้อง 2 ตัว ตัวหนึ่งอยู่นอกบ้าน อีกตัวอยู่ในบ้าน สามารถมองเห็นได้ค่อนข้างกว้าง... 

ตัวที่สามติดไว้ที่ชั้นสอง พอมองเห็น hostel room และโต๊ะทำงาน...


ทำงานขึ้น ๆ ลง ๆ บันได แทนที่ BP จะสูง ผมวัดดูแล้วพบว่าบ่ายวันนี้ความดันเหลือแค่ 100/60 ชีพจร 85 ดูเหมือนว่าอาจจะมีอะไรผิดพิสดารเกิดขึ้นกับตาแก่ผู้ต้องกินยาลดความดันมาโดยตลอดแล้วกระมัง? เพิ่งสแกนรูปแม่...เห็นแล้วคิดถึงจังเลย ลูกต้องขอนอนเอนหลังก่อนนะครับ แล้วค่อยวัดความดันอีกทีตอนค่ำ ๆ...


ด้วยความหวังว่า BP จะกลับมาเป็นปกติ...ก่อนที่อาทิตย์จะลาลับ

Wednesday, November 27, 2024

พาสหัสเดชไปจ่ายค่าเก็บขยะ

บ่ายวันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศไม่ร้อนนัก ตาแก่บ้านห้างฉัตรขี่จักรยาน DIY (สหัสเดช) ไปจ่ายค่าเก็บขยะที่เทศบาลตำบลห้างฉัตรแม่ตาล ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 3.5 กิโลเมตร...

ก่อนปิดประตูเห็นอู่หลงมองมาด้วยสายตาวิงวอนขอไปด้วย!! บอกว่าไปด้วยไม่ได้เพราะขี่จักรยานไป...ให้อยู่บ้าน จากร้านเปียโน...ผมขี่จักรยานผ่านสี่แยกไฟแดงสายใน (2) ไปยังเทศบาลตำบลห้างฉัตรแม่ตาล (3)

จ่ายค่าเก็บขยะ 1 ปี 240 บาท...

เจ้าหน้าที่ยื่นสำเนาใบเสร็จรับเงินซึ่งพิมพ์ลงบนกระดาษ A4 80g 2 แผ่นให้ ผมรับมาแล้วถามว่า "น้อง ทำไมไม่ลดใช้ทรัพยากร?" ผมหมายถึงกระดาษเนื้อดีซึ่งใช้พื้นที่แค่เพียงครึ่งแผ่น หน้าหลังว่างเปล่า! แถมยังพิมพ์ด้วยหมึกพิมพ์ทั้งสีและขาวดำด้วยเครื่อง printer

 

เนื่องจากผมเป็นคนรักหนังสือและกระดาษมาก ๆ รู้สึกเสียดายกับอีแค่สำเนาใบเสร็จรับเงินค่าเก็บขยะเดือนละ 20 บาท ไม่อยากให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ รับมาแล้วก็ทิ้ง มิได้ก่อประโยชน์อันใด เจ้าหน้าที่บอกว่าทางเทศบาลจัดให้ก็ต้องใช้ ผมนึกไปถึงใบเสร็จรับเงินเล่มเล็กรองกระดาษก๊อปปี้ในยุคเก่า เขียนด้วยมือแล้วฉีกสำเนาให้ผู้จ่ายเงิน คิดว่าน่าจะประหยัดงบวัสดุครุภัณฑ์ของหน่วยงานรัฐได้มากอยู่ เพราะทั้งหมึกพิมพ์ กระดาษ A4 ค่าไฟฟ้า ค่าสึกหรอ โฮ้ย...มันสิ้นเปลืองทั้งนั้น!!

ออกจากเทศบาลตำบลห้างฉัตรแม่ตาล (3) ผมปั่นจักรยานผ่านคริสตจักรร่มพระคุณห้างฉัตร หยุดแวะเก็บภาพไว้หน่อย...



จากโบสถ์คริสต์ ผมเลี้ยวซ้ายไปยังวัดดอนสัก วัดไทยพุทธซึ่งเคยแวะมาเมื่อ 2 ปีก่อน...วันนี้ขอแวะเก็บภาพอีกหน่อย
 
 
 
 
ให้สหัสเดชยืนรอ...แล้วตัวเองเดินไปถ่ายรูปพระเจดีย์และอุโบสถ
 
 
จากนั้นก็มุ่งหน้ายังวัดสถานีรถไฟ (5) ผ่านลำเหมืองและศาลาชุมชนบ้านแพะดอนสัก...

 
นึกถึงที่นี่เมื่อครั้งที่ต้องมารับยาให้พี่ชายตอนที่ยังมีชีวิตอยู่...



 
 
ปั่นจักรยานออกไกลไปถึงเส้นทางหลังวัดสถานีรถไฟ...



ไปดูที่ดินซึ่งมีคนบอกขาย... แล้วขี่จักรยานข้ามทางรถไฟกลับบ้านร้านเปียโน


 

เป็นทริปสั้น ๆ กับสหัสเดช ระยะทางไม่ถึงสิบกิโลเมตรครับ!

เราหยุดแล้ว!

พื่อน ๆ ที่รักครับ พักนี้ผมค่อนข้างนิ่ง สงบ และคิดถึงสัจธรรมของชีวิตมากขึ้น!
 

คิดถึงผู้คนในประเทศอย่างเช่นบังกลาเทศ แล้วหันมาดูบ้านเรา ได้เห็นสังคมของคนรุ่นใหม่และวัยกลางคนในไทยแลนด์ มันก้าวไกลเกินกว่าที่ตาแก่อย่างผมจะตามทันและยอมรับได้แล้ว ขอหยุด...และคิดถึงวาระสุดท้ายในชีวิตที่ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกกี่ปี?
 
ทักษิณ
ภาพจาก BBC News - ขอขอบคุณ
 
คิดถึงทักษิณ เพื่อนมงฟอร์ตที่ได้เรียนร่วมชั้นกันมาถึง 8 ปี (ถ้านับไม่ผิด) ตาแก่บ้านห้างฉัตรใคร่ส่งใจถึง...และถามว่าทำไมท่านถึงไม่หยุด? ใยจึงไม่ละทิ้งอำนาจและความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวงให้หมดแล้วหันกลับสู่ความสุขอันแท้จริงที่พึงได้ในบั้นปลายของชีวิตแทน? ฤาว่าท่านคิดว่าชีวิตอาจยืนยาวได้ใกล้ถึงหนึ่งร้อยปีด้วยวิทยาการทางแพทย์ยุคใหม่? ท่านอาจจะมีเลือดนักสู้และไม่เคยยอมแพ้ แต่สำหรับผมแล้วคิดว่าการหยุดมิใช่การยอมแพ้ แต่เป็นการเลือกที่ชาญฉลาดมากกว่า เหมือนกับชายชราชาวประมง "ซานติอาโก" ที่เดินกลับบ้านหลังจากกลับจากการออกทะเลไปหาปลา ด้วยความไม่ทุกข์หรือเสียใจกับปลาตัวใหญ่ซึ่งจับได้มาด้วยความลำบากยากเย็นแล้วถูกทึ้งกินจนสิ้นหมด (จากเรื่อง The Old Man and the Sea ของ Ernest Hemingway)


เช้านี้ลงไปที่หน้าบ้าน HBH (Hangchat Backpacker Hostel) ผมแหงนหน้าขึ้นถ่ายภาพโซ่ที่แขวนไว้ (ใช้ยึดแผงไม้ระแนงและเป็นเครื่องประดับแนวศิลปะร่วมสมัย อิอิ)


 
นำกล้องส่องดูผู้มาเยือนขึ้นติดไว้...
 
 
 
เก็บภาพการจราจรบริเวณสี่แยกห้างฉัตร (Hang Chat Intersection) ที่เปิดไฟสัญญาณมาได้ 3-4 วันแล้ว 
 

ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่เพื่อนบ้านร้านลำแต้บอกว่าส่งมอบงานแล้ว.... จริงหรือ?

 
 

ก่อนกลับขึ้นบ้าน Flash เอาสินค้ามาส่ง เป็นมะนาวแป้นที่ได้สั่งซื้อออนไลน์น้ำหนัก 1 กิโลกรัม (40 บาท - ฟรีค่าส่ง) นับดูแล้วมีเกือบ 30 ลูก (ตกลูกละ 150 สตางค์) เอาไว้กินทุก ๆ เช้ากับเกลือดำหิมาลัย วันละ 2 ลูกก็ได้ครึ่งเดือนพอดี!



มีเรื่องอยากเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังหลายเรื่อง...แต่ยังหาเวลาไม่ได้ครับ!

Saturday, November 23, 2024

Travels with Oolong - อ่างเก็บน้ำแม่ป๋อน

ยังคงไม่เลิกล้มการเดินทางด้วยรถยนต์คันเล็กพร้อมเจ้าอู่หลงตามที่ได้ตั้งชื่อทริปแบบนี้ว่า "Travels with Oolong"... วันนี้ผมขอลองอีกสักครั้งด้วยการไปอ่างเก็บน้ำแม่ป๋อน

อ่างเก็บน้ำแม่ป๋อนอยู่ในตำบลแม่สัน อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ผมล้มเหลวอีกแล้ว เพราะไปไม่ถึงตัวอ่างฯ และผิดเป็นอย่างยิ่งที่พาเจ้าเอ็ดดี้ไปลุยในเส้นทางที่โหดเกิน!!

แค่คิดแล้วออกเดินทางทันที จากร้านเปียโนห้างฉัตร (1) ผมมุ่งหน้าไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 แวะที่จุดพักรถหมวดทางหลวงห้างฉัตร (2) ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือ เพื่อทดสอบเจ้าอู่หลงจะดื้อแค่ไหน? 

 

 จอดรถบนลานจอด...ผมเปิดประตูให้อู่หลงลงเดิน

ยังคงวิ่งพล่านอีกเหมือนเดิม เที่ยวดมไปทั่ว หาอะไรไม่รู้เข้าปาก ทำราวกับว่าตายอดตายอยาก

แต่ก็ยังดีหน่อยที่ไม่วิ่งออกนอกถนนใหญ่ อู่หลงเดินตามผมลงไปถ่ายรูปบริเวณลานกางเต็นท์...

กลับไปขึ้นรถได้เอง...

เดินทางต่อไปยังวัดสวนป่าทุ่งเกวียน (3)...

จอดรถไว้ใกล้หอระฆัง แล้วเดินเก็บภาพโดยรอบ...

เจ้าอู่หลงเจอเพื่อนสาวแสนสวย...

ออกจากวัดทางถนนลูกรังตัดผ่านหลังอุโบสถและสระน้ำ... 

 
 
สอบถามชาวบ้านถึงทางไปอ่างแม่ป๋อน เจอทางขึ้นเป็นถนนลูกรัง ทางชันและเป็นหลุมเป็นบ่อ น่ากลัวมากครับ มันเหมาะสำหรับรถขับเคลื่อนสี่ล้อยกสูงเท่านั้น นับเป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าอภัย แต่เมื่อมุ่งหน้าไปแล้ว ผมก็ต้องขับต่อไปด้วยใจระทึก ได้แต่ภาวนาขอรถอย่าได้ติดหล่มหรือลูกหมากหลุด!! ในที่สุดผมก็ถึงจุดที่จะไปยังตัวอ่างเก็บน้ำ (4)
 
 
 
ถึงทางแยก ต้องเข้าไปอีกหน่อย แต่ถนนลำบากเหลือแสน ผมตัดสินใจออกด้านซ้ายมือ นั่นหมายความว่าผมไปไม่ถึงตัวอ่างฯ ล้มเหลวเหมือนคราวที่ไปอ่างเก็บน้ำแม่ไพร
 
 
 
จะย้อนกลับก็ไม่ได้...ผมต้องลุยต่อ หยุดสอบถามเส้นทางกับชายขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมา (กำลังจะไปตกปลาที่อ่างฯ) เพื่อความแน่ใจว่าเส้นทางเบื้องหน้าจะพาให้กลับสู่ถนนใหญ่ได้ ตาแก่บ้านห้างฉัตรขับต่อไปด้วยหัวใจเต้นแรง ไม่รู้ว่าไกลแค่ไหนหรือนานเพียงใด...ในที่สุดก็เจอทางเรียบ
 
 
ภาพสองข้างทางแปรเปลี่ยนเป็นท้องทุ่งประดับด้วยทิวเขาอยู่เบื้องหลัง...



 
กว่าจะหลุดรอดพ้นมาได้ และวิ่งจนถึงถนนใหญ่ (5) ดีใจเมื่อขับผ่านวัดบ้านส้มป่อย (6) ผมเหยียบคันเร่งมุ่งหน้าไปซุปเปอร์ไฮเวย์ (7) จนกลับถึงบ้านห้างฉัตร (1) ได้ในที่สุด!


เข็ดแล้วจ้า...ถ้าไม่ใช่จักรยาน ผมไม่ไปอ่างเก็บน้ำเด็ดขาด!!!