Sunday, April 02, 2017

ถั่วดาวอินคา

มีผู้กล่าวว่าถั่วเปลือกแข็งทั้งหลายอุดมไปด้วยวิตามินบีคอมเพล็กซ์ วิตามินอี โพแทสเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง เมื่อวันก่อนเพื่อนบ้านร้านลำแต้ได้มอบถั่วชนิดหนึ่งให้ผมมา น้องยาบอกว่ามันคือ "ถั่วดาวอินคา"



เว็บสุขภาพดี มีผู้เขียนไว้ว่า...
นับว่าเป็นโชคดีของดิฉันที่พบกับพืชมหัศจรรย์ ต้นถั่วดาวอินคา ดิฉันป่วยเป็น “โรคหลอดเลือดในสมองแตก (Stroke)” จนเป็นสาเหตุทำให้เกิดอัมพฤกษ์ ทำให้อวัยวะซีกขวาทั้งซีก แขนและขาใช้การไม่ได้ ตอนนี้ดิฉันป่วยเข้าปีที่ ๓ แล้ว...มีเพื่อนของคุณพ่อแนะนำให้ปลูกต้นดาวอินคา พ่อของดิฉันก็เลยนำมาปลูกไว้ข้างบ้าน ซึ่งหลังจาก ๖ เดือนที่ได้รับประทานถั่วดาวอินคา แล้วอาการของดิฉันก็ดีขึ้น ทำให้อาการชาแขนและขา ลดน้อยลง เดินได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ไปตรวจร่างกายพบว่าไขมันในเลือดกลับมาปกติ ความดันก็ปกติ ทำให้ฉันรู้สึกดีใจมาก...
ต้องขอขอบคุณสำหรับถั่วดาวอินคาและข้อมูลที่มีประโยชน์...

หลังจากไปรักษาฟันเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ผมต้องไม่ขบเคี้ยวของแข็งเพราะเกรงว่าครอบฟันชั่วคราวที่ใส่ไว้จะหลุด ก็ได้แต่นั่งมอง คิดหาวิธีที่จะกินเจ้าถั่วมหัศจรรย์ที่วางอยู่เบื้องหน้า

ก่อนเที่ยงผมไปซื้อผักที่ตลาดเทศบาลห้างฉัตรผักมา ๒๐ บาท มีถั่วฝักยาว ๒ มัด ๆ ละ ๕ บาท มะเขือเทศ ๕ บาท แตงกวา ๕ บาท แม่ค้าเกษตรกรบ้านเหนือเก็บสด ๆ มาวางขาย...


กลับมาบ้าน ต้องทำอาหารมื้อกลางวัน ผมคิดหาวิธีกินถั่วดาวอินคาโดยเริ่มจากการปอกแตงกวา ๒ ลูก นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ


เทถั่วดาวอินคาทั้งหมดลงในครก...แล้วตำ ๆๆๆๆ


ตำไป...นับไป ได้ ๑๑๑ ครั้ง แล้วเทถั่วปั่นลงในถ้วยแตงกวา...


ล้างพริกขี้หนูสวน ๑๐ กว่าเม็ด แล้วนำมาหั่นใส่...


มองหาหอมแดงแต่ไม่พบ ก็ไม่เป็นไรครับแค่นี้ก็ใช้ได้แล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือ เทน้ำส้มสายชูลงไป (ไม่ใช้มะนาว) ตามด้วยน้ำตาลทรายและเกลืออีกนิด ใช้ช้อนคนผสมให้เข้ากัน ชิมดูให้มีรสคล้ายอาจาด แต่อร่อยกว่า เพราะมีความมันและกลิ่นหอมของถั่วดาวอินคา นี่ไง! เรียบร้อยพร้อมให้ตักกินแย้ว...


"ถั่วดาวอินคา" ยำ ๆ ครับมื้อนี้ มีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย! 

No comments: