Thursday, March 03, 2016

วารสาร News Readers

ค้นหนังสือออกมาดู เจอวารสารเก่าที่ชื่อว่า "นิวส์ รีดเดอร์ส" (News Readers) ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๒๖  



วารสารหนา ๔๘ หน้า ราคาฉบับละ ๑๐ บาท ผมโชคดีที่ยุคนั้นมีหนังสือดี ๆ วางแผงให้ซื้อมาอ่านศึกษาเพิ่มเติม อย่างเช่น "นิวส์ รีดเดอร์ส" ซึ่งบอกว่าชัดเจนว่า "เป็นวารสารเพื่อการศึกษาส่งเสริมการเรียนภาษาอังกฤษจากหนังสือพิมพ์ เพื่อความรอบรู้ สามารถนำไปใช้งานด้านการอ่าน การแปล การเขียนข่าวสาร..."


จากหนังสือที่มากด้วยเนื้อหาสาระ ผมอยากนำเรื่อง "Grammar" ในหน้า ๓๒ และ ๓๗ มาให้เพื่อน ๆ ดูเป็นตัวอย่างสักหน่อย...


Twisted metal is all that's left of this car and pick-up, which were rammed into by a 10-wheel truck, as they were parked at the foot of the Suthisarn flyover.  The accident claimed one victim - a man standing near the truck.

ประเด็นทางไวยากรณ์ที่น่าสนใจ คือ
1. ประโยคแรกซึ่งเป็น main clause นั้น ขึ้นต้นประโยคด้วย Complement (ประเภท subject complement) ซึ่งสามารถวางสลับที่กับ subject ของประโยคได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง ดังนี้ :
All that's left of this car and pick-up is twisted metal,  แต่เมื่อเขียนอย่างนี้แล้ว ตัว connective ใน adjective clause ถัดไปต้องเปลี่ยนไปด้วย เพราะ which ไม่ได้เชื่อมขยาย "twisted metal" (แต่แทน car and pick-up)
2. which were rammed into by a...  เป็นการใช้ prepositions ถึง 3 ตัวเรียงกัน แต่เชื่อม noun กับ verb คนละลักษณะกัน
(1) = a 10-wheel truck rammed into the car and the pick-up.
(2) = the car and the pick-up were rammed (into) by a 10-wheel truck
3. - a man standing near the truck เป็น phrase ขยายความของคำ victim
4. claimed คำนี้ใช้ได้หลายความหมายนอกเหนือจากแปลว่า "อ้างว่า" หรือ "อ้างสิทธิ"
There are several matters that claim my attention.
(มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ควรจะได้รับความสนใจจากผม)
The accident claimed one victim.
(อุบัติเหตุคราวนี้ ได้ผู้เคราะห์ร้ายไป 1 คน)
อ่านคำแปลดูแล้ว รู้สึกว่าทะแม่ง ๆ ชอบกล ฤาจะเป็นลักษณะการใช้ภาษาในสมัยโน้นก็ไม่รู้! อย่างไรก็ตาม ผมก็อยากให้เพื่อน ๆ ได้เห็นภาพอุบัติเหตุบนท้องถนนในกรุงเทพเมื่อ ๓๓ ปีที่แล้ว และได้อ่านบทความเรื่องไวยากรณ์อังกฤษ... 

เด็ก ๆ ยุคสังคมก้มหน้าจะได้รู้ว่าสมัยก่อนเค้าเรียนรู้ภาษาอังกฤษกันอย่างไร

No comments: