Saturday, July 26, 2014

เจ้านกน้อย


ลูกนกตัวแดง ๆ ตัวหนึ่งหล่นจากรังซึ่งแม่ของมันไปทำไว้บนแร็คเดินสายไฟในระดับความสูงประมาณ ๓ เมตร ด้วยความเร็วในอัตราส่วนเท่า ๆ กับเด็กทารกพลัดตกลงจากคอนโดสูง ๑๐ ชั้น กระทบพื้นปูนเบื้องล่าง... 


มันนอนขาสั่นพะงาบอยู่ที่นั่นนานเท่าใดไม่อาจทราบได้ ก่อนที่เจ้าของบ้านผู้ใจดีจะไปพบ แล้วนำมาให้ช่างเหอะดูแลรักษา  เป็นนกอะไรไม่รู้  ตายังไม่ลืม ขาคงหักไปข้างนึง...


ผมมีงานให้ทำอีกแล้ว จะทำอย่างไรถึงจะช่วยให้เจ้านกน้อยมีชีวิตรอดอยู่ได้ จนถึงวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส วันที่มันมีปีกแข็งแรงพอที่จะโบยบินออกไปหาแม่ของมัน  บล็อกช่างเหอะคงต้องขอเวลาสัก ๑ อาทิตย์รายงานเรื่องการช่วยชีวิตนกน้อยตัวนี้...

เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ!

4 comments:

Unknown said...

ความสูงขนาดนี้ นึกถึงแล้วเจ็บแทนมันเลยนะครับ ถ้ากระดูกไม่หัก ก็หวังว่าน้ำหนักตัวที่เบาของมันที่ตกลงมากระทบกับพื้นนั้นจะช่วยพยุงไม่ให้รุนแรงมากจนกระทั่งภายในบอบช้ำจนเกินไป แต่ที่น่าเป็นห่วงคือตัวมันยังไม่มีขนที่จะรองรับแรงกระแทกเลย ก็ขอให้ธรรมชาติที่สร้างร่างกายของมันจะช่วยในการรองรับอุบัติเหตุจากการตกจากที่สูงด้วย ยังไงผมก็ขอเอาใจช่วยให้ลูกนกตัวนี้รอดตายนะครับ

Wichai said...

ขอบคุณคุณนิ้งเป็นอย่างยิ่งครับ...
เรื่องเจ้านกน้อยอาจจะดูเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับบางคน แต่ผมคิดว่าน่าสนใจมาก ๆ เลยล่ะ ต้องรอดูความผูกพันระหว่างนกตัวเล็ก ๆ กับคนที่พยายามช่วยมัน ในวันที่มันแข็งแรงพอที่จะบินออกไปจากที่นี่ เป็นเรื่องที่น่าสนใจยิ่งกว่าละครน้ำเน่าทางฟรีทีวีทั้งหลายซะอีก...
ขอบคุณที่คุณนิ้งให้ความสนใจครับ...

Unknown said...

คุณลุงเรียกผมว่านิ้งก็ได้ครับ ไม่ต้องมีคำว่า "คุณ"หรอกครับ คิดเสียว่าเป็นลูกเป็นหลาน ผมรู้สึกกระดากนะครับเวลาที่คุณลุงเรียกผมว่า"คุณ"....ผมอายุน้อยกว่าคุณลุงตั้งเยอะนา ....อิอิ....

Unknown said...

สัตว์ทุกชนิดมันก็รักชีวิตและมีสัญชาติญาณของมันครับ ผมมีญาติเคยเลี้ยงนกพิราบ ในตอนเช้าเขาจะปล่อยมันออกไปหากิน แต่ตอนเย็นมันก็บินกลับมาที่กรง ผมแค่คิดเล่นๆว่าถ้าผมเป็นนกตัวนี้ พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของมันเอาไว้ ผมก็คิดว่าเมื่อมันเติบโตและแข็งแรงขึ้นมันคงมีความผูกพันและสำนึกในพระคุณของคนที่ช่วยเหลือมัน....