เมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๘ ผมเขียนเรื่อง "FB Trip ไปดอยฮาง – สวนรุกขชาติห้างฉัตร" แล้วสัญญาว่าจะกลับไปที่นั่นอีกครั้งเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม...
วันนี้ผมขอนำภาพส่วนที่อยู่ลึกเข้าไปมาให้ดูอีก จากประตูทางเข้า ถ้าเพื่อน ๆ ขี่จักรยานหรือขับรถตรงเข้าไป ก็จะไปถึงศูนย์ข้อมูลและทรัพยากรป่าไม้ มีป้ายตั้งอยู่ด้านหน้า
หันไปทางด้านซ้าย ตามที่ป้ายชี้บอกว่าเป็นศูนย์ข้อมูลจัดแสดงนิทรรศการ และบ้านพักนักท่องเที่ยว...
ผมมองเห็นความห่อเหี่ยวแห้งแล้ง ที่นี่คงปราศจากกิจกรรม ไม่มีนักท่องเที่ยวใดมาติดต่อขอพักเป็นแน่ โครงการนั้นสวยหรูและมีประโยชน์ ผมขอยกย่องในดำริของผู้บริหาร แต่คิดว่าปัญหาที่ทำให้ต้องหยุดชะงัก คงเป็นเพราะระบบการศึกษาของบ้านเรามากกว่า....
สวนรุกขชาติห้างฉัตรเป็นปอดธรรมชาติที่กว้างขวาง กอปรด้วยไม้ใหญ่หลากหลาย มีสระน้ำ เรือนเพาะชำ และอาคารสถานที่ อยู่ติดถนนใหญ่ ไม่ไกลจากตัวเมือง บุคลากรก็พร้อมสรรพ เหตุใดถึงไม่มีผู้สนใจเข้าไปพักผ่อนและศึกษาหาความรู้?
เมื่อปราศจากผู้ใช้บริการ สถานที่ก็รกร้าง ปราศจากการพัฒนา ได้แต่ปล่อยให้ผ่านไปวัน ๆ
ผู้ปกครองไม่เคยพาลูกหลานไปดูนิทรรศการที่ให้ความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้ ไม่เคยพาครอบครัวไปพักผ่อนหรือนั่งกินข้าวร่วมกันในศาลาที่เค้าจัดทำไว้ให้ ยิ่งครูบาอาจารย์ก็ยิ่งแล้วใหญ่! ผมเห็น FB ของอาจารย์สุทินนำความแตกต่างของการเรียนรู้ระหว่างเด็กไทยกับเด็กนอกมาให้ดู เห็นได้ว่านักเรียนของเราเน้นแต่ในตำรา โอกาสที่จะได้ออกปฏิบัติ ได้ทดลองและร่วมสนทนาถกเถียงมีน้อยมาก....
ทั้ง ๆ ที่เรามีสถานที่ ๆ จะให้ความรู้และประสบการณ์แก่เยาวชนอยู่ใกล้ตัว...
อย่างอาคารแสดงนิทรรศการในสวนรุกขชาติห้างฉัตรก็ดูเงียบเหงา...
มีโอกาสผมจะเข้าไปขออนุญาตพาเด็ก ๆ ไปเล่นไวโอลิน แล้วศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้ไปด้วย...
No comments:
Post a Comment