ทำขนมปังกินเอง...คุ้มป่ะ?

 

แป้งโฮลวีท Atta ราคากิโลกรัมละ 45 บาท คิดรวมค่าส่งแล้ว...ตีเสียว่าต้นทุนตกกิโลกรัมละ 50 บาท! 

 

วันนี้ลองคำนวณต้นทุนให้ละเอียดหน่อยนะ ผมทำขนมปังโดยใช้แป้ง 3 ถ้วยตวง ชั่งดูแล้ว 1 ถ้วยตวงได้แป้งหนัก 150 กรัม ดังนั้นค่าแป้ง 450 กรัมต้นทุนคือ 22.50 บาท ingredient ที่ใช้มีเพียงแป้ง 3 ถ้วยตวง เกลือ 1 ช้อนชา ยิสไม่รู้ว่ากี่กรัม (ไม่ได้ชั่ง) น้ำ 1 ถ้วยตวงครึ่ง น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ ผมนวดด้วยมือในชามกะละมังเซรามิกจนได้ที่แล้วนำใส่ลงในภาชนะที่เห็น... 

 

 

ใช้ผ้าและฝาปิดคลุมไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อให้ยิสต์ทำหน้าที่ของมัน แป้งขยายตัวออกมาแล้ว! พร้อมที่จะนำเข้าเตาอบ!

 

 

 

ผมใช้เตาแก๊สธรรมดาราคาถูกแบบที่มีเตาอบ ไม่รู้เหมือนกันว่าใช้แก๊สไปกี่บาท? เรียบโร้ยแล้ว รอให้เย็นลงหน่อยแล้วค่อยเอาออกมาใส่จาน...

 

   

 

เฉือนแบ่งครึ่งเพื่อดูเนื้อขนมปัง... 

 

 

อ่อ...ลืมบอกไปว่าเจ้าหนมปังก้อนนี้หนัก 700 กรัมเต็ม ผมเช็คดูราคาของขนมปังโฮลวีท 500 กรัมของฟาร์มเฮ้าส์ พบว่าปัจจุบันนี้ราคา 70 บาท ส่วนขนมปังที่ผมทำ 700 กรัม ต้นทุนเต็มที่รวมทุกอย่างแล้วน่าจะไม่เกิน 40 บาท...

700 กร้ม 40 บาท...ผมว่าคุ้มนะครับ!

แก๋งบ่าฟักแก้วยายยอน

ภาพจาก Facebook ลุงหยางแม่ฮ่องสอน - ขอขอบคุณ

เมื่อไม่กี่วันมานี้ ครูปึ้ง หรือ ลุงหยางแม่ฮ่องสอน เขียนไว้ใน Facebook สอนวิธีทำ “แก๋งบ่าฟักแก้วยายยอน” ว่า...

แก๋งบ่าฟักแก้วของยายยอน” กิ๋นแล้ว บำรุงรักษาตับ แก้ตับเปลี้ย ตับเพลีย ตับทำงานไม่เต็มที่ แก้ไข้ แก้เมื่อย ฟื้นฟูกำลัง ขับลม สบายท้อง ถ้าตับแลบตัวใครตัวมัน เซาะซื้อใช้ บ่าฟักแก้ว หรือฟักทอง การเลือกซื้อฟักทองถ้าอยากได้ฟักเหนียว ให้เลือกลูกที่สีเสมอกันจากเปลือกถึงใส้ ถ้าสีอ่อนไปหาสีแก่จะไม่เหนียว จ๊ะ ประมาณว่า 30 บาท หั่นเป็นชิ้นพอคำ ขมิ้น 3-4 แง่ง พริกไทยดำ 27 เม็ด เมล็ดผักป้อมหรือผักชี 1 ช้อนกาแฟ จั๊กไคหรือตะไคร้ซอยละเอียดครึ่งแก้วน้ำ พริกแต้หรือพริกขี้หนูแห้งตามชอบ หอมบั่วหรือหอมแดง 4-5 หัว ขมิ้นสดสองสามแง่ง หอมเตียมหรือกระเทียมแกะเป็นกลีบ 5-6 หัว ฮ้ากีหรือกะปิ สองหัวแม่มือคนแกง เอาทุกอย่างเว้น บ่าฟักแก้ว ใส่ครก แล้วต๋ำ ๆ ๆ จ๋นแหลวหรือแหลก เอากระทะตั้งไฟกลาง เติมน้ำมันงา 2-3 ช้อน มีเนยก้อนเล็กเก็บใส่ 2-3 ก้อน ควักน้ำพริกจากครกใส่กระทะ น้ำล้างครกเทลงในกระทะ ผัดจนกลิ่นหอมไป 2-3 บ้าน เติมน้ำในกระทะ 3-4 แก้ว พอเดือด ย้ายน้ำแกงจากกระทะลงหม้อใบเขื่อง เติมน้ำที่กะแล้วว่าท่วมฟักทอง รอจนน้ำเดือดเติมฟักทองที่หั่นชิ้นพอดีคำ พอสุกดีแล้ว เติมน้ำตาลและเกลือ ชิมดูให้ได้รสตามชอบ แล้วใส่ป๋าแห้งหรือปลาย่างที่แกะก้างออกแล้ว คน ๆ ๆ ให้เข้ากันพอเดือดอีกครั้ง เด็ดใบก้อมก้อแดงหรือโหระพาใส่ซํกกำมือ และจั๊กใคหรือตะไคร้ที่ซอยไว้ใส่ด้วย คน ๆ ยกลงจากเตา จะได้แก๋งบ่าฟักแก้วหอมฟุ้ง น้ำแกงหวาน เผ็ดนิด ๆ กินเป็นซุป ชูกำลัง บำรุงธาตุ ละอ่อนหรือเด็กกิ๋นได้ คนใหญ่หรือผู้ใหญ่กิ๋นดี....สวัสดีมีแฮง..."

ผมขอยกให้เป็นอาจารย์ เช้านี้ทำตามบทเรียน โดยจัดหา ingredient ให้ครบถ้วนที่สุด ไปตลาดตอนเช้ามืดได้มาชุดนึงแล้ว...

ยังไม่ครบครับ ผมต้องปั่นจักรยานไปตลาดเทศบาลฯ อีกรอบ ซื้อจั๊กไค (ตะไคร้) น้ำมันงา และ หอมเตียม (กระเทียม) ตามที่ครูปึ้งบอก

ลงมือทำการบ้านทันทีที่มีวัตถุดิบครบ...

 

อาจไม่ตรงตามที่ครูปึ้งบอกทุกอย่าง ไม่มีกะปิหรือฮ้า...ต้องใช้ถั่วเน่าแทน ผมไม่ได้ใส่ปลาแห้งหรือปลาย่างเพราะไม่กิน เอ้า...ได้เวลาแล้วลงมือปฏิบัติงานทันที

พริกไทยดำ 27 เม็ดตามที่บอก ผมนับเม็ดเอาเลย เม็ดผักป้อมหรือเม็ดผักชี 1 ช้อนกาแฟไม่ขาดไม่เกิน ครูบอกยังไงก็ทำตาม.. ตำ ๆๆ จนได้น้ำพริกออกมาอย่างที่เห็น (แหลวบ่าแหลว บ่าฮู้เน้อ...ครู)

 

คั่วน้ำพริกกับน้ำมันงา (ครั้งแรกในชีวิตที่ใช้น้ำมันงา) หอม ๆๆๆๆ กลิ่นตลบ!! เติมน้ำ ใส่ฟักทอง ใบก้อมก้อหรือโหระพา ส่วนจั๊กไคหาบ่าปะ (ไม่ได้ทำตามคุณครู ดันเอาไปตำกับน้ำพริก หุยฮา) แต่ไม่เป็นไร ในที่สุดก็ได้แกงแก๋งบ่าฟักแก้วยายยอนออกมาตักใส่ชามดูน่ากินไม่น้อย...

มื้อเที่ยงวันนี้ผมก็เลยจัดหนักหน่อย ด้วยข้าวกล้องผสมจมูกข้าวจานใหญ่ กินกับแก๋งบ่าฟักแก้วยายยอน- คั่วถั่วเน่า

 

เกลี้ยงครับ!

ครูปึ้ง...นักเฮียนเฒ่าส่งการบ้านหื้อแล้วเน้อ!

อยู่ง่าย กินง่าย

เพื่อน ๆ ที่รักครับ เช้านี้ผมปั่นจักรยาน (Brusier) ไปตลาดสดบ้านปันง้าวด้วยความรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่มีผู้คนใจดีมีน้ำใจ ได้เห็นแม่ค้านำผักพื้นบ้านมาวางจำหน่ายในราคาไม่แพง... 

 

 

 

ผมตั้งใจว่าจะทำแกงบ่าน้ำแก้วหรือแกงฟักทองตามตำราลุงหยางแม่ฮ่องสอน

 

ภาพจาก facebook ลุงหยางแม่ฮ่องสอน

 

ได้ขมิ้น ฟักทอง พริก ใบก้อมก้อหรือใบโหระพามาแล้ว...

 

 

เจ็ดโมงกว่า ๆ ขึ้นไปบนดาดฟ้า สัมผัสบรรยากาศบ้านตัวเองที่เรียบง่าย ไม่ต้องการความมั่งคั่งร่ำรวยใด ๆ 

ขอแค่อยู่ง่าย กินง่าย แค่นี้ก็พอใจแล้วครับ...

สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ นครลำปาง

 ผมจำไม่ได้ว่าย้ายจากเชียงใหม่มาอยู่ลำปางได้กี่ปีแล้ว?

 

รู้แต่ว่าตอนเช่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ กับสะพานรัษฎาภิเศก (1) มีบริเวณที่ปัจจุบันนี้เป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติหรือสวนสาธารณะประตูเวียง (3) ตอนนั้นยังเป็นโรงฆ่าสัตว์ บริเวณทางแยกที่มีรูปปั้นม้า (2) (ตะก่อนฮ้องว่าม้าฮั๋มหลวง) คนทั่วไปจึงเรียกกันว่าแยกโรงฆ่าสัตว์

 

 

 

วันที่ 17 ธันวาคม 2566 ขี่จักรยานผ่านมาแยกโรงฆ่าสัตว์...ผมได้เห็นสวนสาธารณะสวยงามยิ่ง อดใจไม่ได้ที่จะแวะถ่ายภาพมาฝากเพื่อน ๆ  

 

 

 

ที่ห้างฉัตรทำไมไม่มีอย่างนี้บ้างน้า...อิจฉา ๆ (หุยฮา)

ฺBanian พร้อมแล้ว!

หลังจากอาบน้ำให้ Banian และเช็ดตัวให้แห้ง ผมก็พาขึ้นมาชั้นสองเพื่อประกอบกับล้อซึ่งได้เปลี่ยนยางใหม่ทั้งในและนอกไว้แล้ว!  

 

 

ใส่ล้อและประกอบโซ่เรียบร้อยแล้วจ้า... 

 

 

 

สวยครับ...ยางหน้าแคบลงคงปั่นได้เร็วขึ้น!

ปรับแต่งห้ามล้ออีกหน่อย แล้วค่อยเอาน้ำมันหยอดโซ่มาฉีด...

 

บ่ายสี่โมงกว่าต้องซื้อยาให้พี่ชาย...ผมพาเจ้า Banian ไป เพราะอยากทดสอบว่าจะมีปัญหาหรือไม่?

เห็นตลาดสดเทศบาลตำบลห้างฉัตร...ผมไม่ได้ขึ้นไปซื้อของนานเป็นปีแล้ว!

 

ขากลับ...แวะซื้อน้ำแข็งให้พี่ชาย แสงเงาบอกว่าเย็นมากแล้ว

Banian พร้อมเดินทางไปแพร่ด้วยกันแล้วครับ!

อาบน้ำ-ใส่เกือก ให้ Banian

ยางในเจ้า Banian มาถึงแล้วตั้งแต่วันวาน...

เป็นยางในยี่ห้อ Chaoyang ขนาด 20" 406 แบบจุ๊บเล็ก ใช้กับยางนอกขนาด 1.25 - 1.50 ราคาเส้นละ 80 บาท สินค้าคุณภาพระดับกลางที่ผมเลือกใช้กับยางนอกขนาด 20" x 1.35 ยี่ห้อเดียวกัน... 

 

เมื่อคืนนี้เปลี่ยนยางให้ล้อหน้าก่อนเลย

 

ยางในกับยางนอกเข้ากันได้ดี เปลี่ยนง่าย ผมใช้เวลาไม่นาน รู้สึกพอใจครับ ส่วนล้อหลังถอดออกมาแล้วต้องทำความสะอาดเฟืองหลังก่อน ผมนำลงไปแช่น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ไว้ข้ามคืน เช้านี้ลงไปทำความสะอาดขัดล้างคราบฝุ่นน้ำมัน...

แช่น้ำมันล้างตีนผีด้วยกั๊บ...ผมไม่อยากถอดออกเพราะจะเสียเวลา!

ในขณะที่สหัสเดชยืนมองอยู่ใกล้ ๆ ดูเหมือนจะอิจฉา Banian ไม่น้อย... 

 

 

ล้างแล้ว...เฟืองหลัง Shimano แบบ 9 สปีด 12-36 ฟัน (ไม่รู้ว่าของเทียมหรือเปล่า?? ) ดูสดใสขึ้นมาก...

นำล้อขึ้นมาใส่ยางข้างบน...

ล้อหลังต้องดูเรื่องทิศทางของล้อด้วยนะครับ จะใส่ยังไงก็ได้เหมือนล้อหน้ามิได้!

 

ใส่ยางเรียบร้อยแล้ว ทดลองล้อที่มียางใหม่โดยไสไปกับพื้นกระเบื้อง ปรากฏว่ามันเกาะพื้นแน่น (ไม่ลื่นไหลเหมือนตอนใส่ยางเก่า) ผมบอกตัวเองว่าคิดถูกแล้วที่เปลี่ยนยางทั้งสองเส้นก่อนออกเดินทางไกล...

 

ตั้งรอไว้ก่อน ผมลงไปอาบน้ำให้เจ้า Banian ที่หน้าบ้าน...

ในระหว่างวางโซ่ซึ่งถูกแช่น้ำมันไว้ค้างคืนไปผึ่งแดดไว้ก่อน เดี๋ยวช่วงบ่าย ๆ ผมจะประกอบให้เรียบร้อย

พรุ่งนี้ก่อนเที่ยง ต้องพา Banian ขึ้นรถไฟเข้าไปในเมืองแล้วครับ!