เช้านี้อากาศหนาวและชื้น คล้ายกับฤดูหนาวและฤดูฝนปะปนกัน ท้องฟ้าหม่นด้วยหมอกควัน ช่วงบ่าย ๆ ก็จะเปลี่ยนเป็นฤดูร้อน
ดึกแล้ว…ผมยังไม่ได้เขียนต่อเรื่องกล่องพัสดุยาว ๆ จากเพชรบุรี วันนี้ทำได้ก็แค่เพียงเขียนตอบน้องต้นและครูหนิงใน “คุยกะลุงน้ำชา” ด้วยความรู้สึกอิจฉาในความหนุ่มและโอกาสที่จะเดินทางท่องเที่ยวของเพื่อน สมาชิก จริง ๆ แล้ว ถ้าพี่ชายผมสามารถจะช่วยตัวเองได้บ้าง ผมก็อยากจะร่วมเดินทางไปกับคณะของครูหนิงด้วยเหมือนกัน…
ผมพูดได้ว่าพี่ชายของผมหายป่วยแล้ว บุหรี่ก็เลิกสูบได้ร้อยเปอร์เซนต์ กินได้ หลับดี ความดันก็เป็นปกติด้วยการกินยาควบคุมวันละ ๕ มิลิกรัม (จากที่เคยกิน ๒๐ มิลิกรัม) เพียงฝึกเดินทุก ๆ วันอย่างสม่ำเสมอและเพิ่มเวลาขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดก็จะกลับมาชีวิตได้เหมือนเดิม ผมเชื่อมั่นเช่นนั้นจริง ๆ
ดูสิครับ…แขนขาก็อ้วนท้วนสมบูรณ์อย่างที่เห็นในภาพ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ชายของผมจึงเลือกที่จะมีชีวิตนอนอยู่บนเตียงวันละ ๒๒-๒๓ ชั่วโมง โดยไม่รู้สึกเบื่อหน่าย
อยากรู้จริง ๆ ว่าพี่สิทธิ์จะคิดบ้างไหมว่าการที่พอใจทำเช่นนั้นกำลังทำร้ายจิตใจของผมให้แย่ลงทุกที ๆ
สองวันก่อน ผมพูดกับพี่ชายอีกครั้ง และย้ำว่าจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายว่าถ้าพี่นอนรอให้เดินได้เองอย่างเช่นทุกวันนี้ จะไม่มีวันเป็นไปได้เลย ใคร ๆ มาเห็นก็บอกว่าเดินได้แน่ถ้าฝึกเดิน หมอที่คลีนิกก็บอก พยาบาลที่มาเยี่ยมก็บอกเช่นนั้น โอกาสที่จะกลับกลายเป็นคนปกตินั้นอยู่แค่เอื้อมเอง จะไขว่คว้ามาไว้หรือไม่ก็ตามใจ พี่ชายผมนั่งฟังแล้วลุกขึ้นเดินไปนั่งโต๊ะตัวที่อยู่ใกล้กับเปียโน
หลังจากนั้นก็กลับเป็นเช่นเดิม คือจะลุกขึ้นเดินก็เมื่อไปห้องน้ำเท่านั้น ขนาดลุกขึ้นนั่งกินอาหารและขนม พอดื่มน้ำเสร็จก็ล้มตัวลงนอนซะแล้ว!!! กินดี น้ำหนักก็จะเพิ่มขึ้น ๆ อีกไม่นานคงเคลื่อนตัวลำบาก
ผมไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว…
บ่ายวันนี้ มีนักเล่นเปียโนรุ่นจิ๋วมาเคาะเจ้าแกรนด์คลาสสิกครับ น่ารักเชียว…
ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก...
No comments:
Post a Comment