ลมหนาวพัดเข้ามาจากทั้งทางหน้าบ้านและหลังบ้าน อะไรกันเนี่ย…อยู่ที่นี่มาสิบกว่าปีแล้วยังไม่เคยเจอเช่นนี้มาก่อน! แล้วปีนี้ผมจะมีโอกาสได้ร้องเพลงของสุเทพ วงศ์กำแหงที่ว่า “ลมฤดูร้อนแห่งเดือนเมษา พ่นพัดมาพาให้ร้อนรน…” อยู่หรือเปล่า? ยิ่งได้ยินข่าวดินถล่มที่เขาพนม เมืองกระบี่ ผมก็ยิ่งคิดถึงภัยพิบัติที่จะตามมาเป็นระลอก ๆ อยากตะโกนดัง ๆ ว่า “มันมาแน่ แต่ช้าหน่อย!!”
น้ำมันเบนซินก็ลิตรละ ๔๐ กว่าบาท…ไม่ยอมลง (ทำกำไรมหาศาลให้ ปตท.) ถ้าเจ้าโตยังวิ่งอยู่…เหรียญสิบก็จะกระเด็นออกจากกระเป๋าของผมในทุก ๆ ๒ กิโลเมตรที่มันวิ่งไป สมควรแล้วที่ผมปล่อยให้มันจอดแน่นิ่งดับสนิิทอยู่อย่างนั้น! นี่ก็ว่าจะุหันไปใช้เจ้ายักษ์(จักรยานยี่ห้อ Giant ที่รอให้ผมพาไปผจญภัยด้วย) แทนแมงกะไซค์ที่สิ้นเปลืองค่าน้ำัมันสามวันร้อย…
วันก่อนไปซื้ออาหารให้พี่ชาย แม่ค้าบอกผมอย่างไม่แยแสว่า “ไม่มีแล้ว… ปลาตัวละ ๑๕ บาท อะไร ๆ ก็แพง” ก็ ต้องยอมรับครับ ผมจะไม่บ่นอะไรหรอกนะ คิดอยู่อย่างเดียวว่าจะทำอย่างไรให้ลากยาวอยู่ได้จนถึงวันที่คนมีเงินล้านกับคนมีเงินร้อยต้องไปยืนเข้าแถวด้วยกันบนท้องถนน ถึงวันนั้นผมก็คงจะตายตาหลับ ไม่เสียใจเมื่อชีวิตที่ผ่านมาได้พยายามเป็นผู้เบียดเบียนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้…
ตั้งแต่เมื่อวานแ้ล้วที่ครูหน่อยโทรแจ้งว่าน้องบาร์บี้จะมาเรียนเชลโลเวลา ๑๑ โมง เช้านี้ผมนั่งเล่นปิอาโนรอ รู้สึกว่านิ้วดีขึ้นบ้าง ผมเปิดโน้ตเล่นเพลงคลาสสิกง่าย ๆ ไปเรื่อย ๆ จนน้องบาร์บี้มาถึง อืมม์…สอนน้องบาร์บี้ ๑ ชั่วโมง ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก ต่างกับที่ได้สอนน้องเมเปิลชนิดเทียบกันไม่ได้
เคยไปสอนนักเรียนไวโอลินคนหนึ่งที่บ้าน (ได้ค่าสอนเดือนละ ๘๐๐ บาท) แต่นักเรียนไม่ยอมพูดและไม่ตอบคำถาม (ทำให้การเรียนการสอนดำเนินไปด้วยความลำบาก) แค่นั้นผมก็เลิกสอน แต่สำหรับน้องบาร์บี้ซึ่งต้องใช้ความอดทนสูงกว่า…จะมาเรียนเมื่อไหร่ก็ได้ ผมยินดีเสมอ ไม่เคยคิดเลิกสอนจนกว่านักเรียนจะยอมแพ้ นี่ถ้าเป็นการสอนที่ได้ตังค์…ผมคงจะหยุดสอนไปแล้วล่ะ!
วันนี้อยากขอเล่าต่อเรื่อง “กล่องพัสดุยาว ๆ จากเพชรบุรี” ผมเข้าใจว่าเพื่อน ๆ หลายท่านคงอยากรู้ว่าอะไรอยู่ข้างในนั้น!!
เช้าวันเสาร์ที่ ๒๒ มีนาคม ผมไปรับพัสดุจากที่ทำการไปรษณีย์แล้วนำไปขอให้ครูป้อมช่วยแกะกล่อง พอดึงกระดาษที่หุ้มห่อออก ก็เห็นลายมือเขียนว่า “ขอให้มีความสุขนะครับ” และ “มีอะไรน้า อยากรู้จัง?”
ครูป้อมลงมือแกะต่อ หลังจากชี้ให้ดูข้อความที่ผู้ส่งเขียนไว้…
เจอข้อความว่า "ทายถูกมีรางวัลน้า ติ๊ก ต่อก ๆๆ” โอ้ย…อยากรู้จัง!"
เอาแผ่นกระดาษแข็งออก เจอกล่องไม้อัดคล้ายลังลูกกระสุนปืนแบบในหนังเลย…
กำลังจะเปิดกล่อง ต้องลุ้นกันระทึกเลยล่ะ….
ว้าว… เป็นไวโอลินจริง ๆ ด้วย แต่ไม่ใช่ไวโอลินเด็กตามที่ผมทายไว้!
ให้ดูกันชัด ๆ….
ครูป้อมกำลังปลดเชือก… น้องอินดี้ซึ่งสนใจที่จะเรียนไวโอลินก็มีโอกาสได้เห็นกิจกรรมครั้งนี้ด้วย
นี่ไง… สวยมั้ย?
ดูด้านหลังสิ….
เป็นไวโอลิน handmade จากคุณไพสิทธิ์ ที่ได้บรรจงสร้างขึ้นแล้วส่งให้ลุงน้ำชา โดยที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน ชื่อก็เพิ่งมารู้กันตอนนี้!!!
น้องมะเหมี่ยวและ้น้องอินดี้ก็พลอยตื่นเต้นไปกับผมด้วย นำผลงานของคุณไพสิทธิ์วางคู่กับไวโอลินของน้องมะเหมี่ยวเพื่อประชันโฉม…
ผมรู้สึกดีใจมาก ๆ ขอขอบพระคุณคุณไพสิทธิ์ด้วยความซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งครับ…
No comments:
Post a Comment