Monday, January 30, 2012

ครูต้น...

เช้านี้ลำปางมีฝนตก ช่วงบ่ายร้อน ค่ำลงอากาศเย็น วันนึงมี ๓ ฤดู….มันเป็นสัญญาณเตือนว่าในอนาคต เราคงไม่พ้นที่จะพบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติซึ่งจะมีเพิ่มขึ้นและหนักขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อวานนี้ ครูต้นแวะมาเยี่ยมเยียน ผมได้ยินเสียงตะโกนเรียกอยู่หน้าบ้าน ในขณะที่กำลังเตรียมตัวจะออกไปซ้อมดนตรีกับคุณปิว มือแบนโจวง “ดิเอ็นสะแม้ง” ครูต้นนำแอปเปิ้ล ชมพู่ และส้มเขียวหวานมามอบให้ พร้อมกับแจ้งข่าวดีว่าได้รับการบรรจุเรียบร้อยแล้ว ผมก็พลอยดีใจไปกับลูกศิษย์คนนี้…


ผมอยากให้ความมั่นใจนักศึกษาที่ไม่ได้เรียนที่มหิดล จุฬา หรือพายัพ ว่า “เรียนที่ไหนก็ได้ ทุกคนสามารถจบออกไปทำงานในตำแหน่งซึ่งมีความก้าวหน้าและมั่นคงได้เสมอ”  แม้จะเรียนที่ราชภัฏลำปางหรือที่ไหนก็ตาม ขอเพียงให้ตั้งใจศึกษาอย่างจริงจัง หาความรู้ตั้งแต่นาทีแรกที่ก้าวเท้าเข้าไป หมั่นฝึกฝน และเปิดใจกว้าง ความสำเร็จนั้นรอคอยอยู่เบื้องหน้าแล้ว! เผลอ ๆ อาจจะได้ดีกว่าคนที่จบสถาบันดัง ๆ ด้วยซ้ำ ขนาดบางคนเรียนบ้างเล่นบ้าง (อย่างที่ผมเคยเห็นในช่วงที่ไปช่วยสอน) เขาเหล่านั้นก็ยังจบออกไปบรรจุเป็นครูดนตรีอยู่ตามโรงเรียนต่าง ๆ ได้ในที่สุด ทุกคนล้วนแล้วแต่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน จนเป็นที่น่ายินดีสำหรับคนไร้ตำแหน่งเช่นลุงน้ำชา…

นาน ๆ จะมีโอกาสได้พบลูกศิษย์…ผมจึงถือโอกาสพาครูต้นและน้องแหม่ม(เพื่อนคู่หู)ไปดื่มกาแฟที่ Cowboy Corner จากนั้นก็พาไปดูงานที่โรงเรียนดนตรี Cherney Music ทำให้ได้พูดคุยกับครูหนิงครูไวโอลินของที่นั่น….


ไปเห็นกิจการของโรงเรียนดนตรี Cherney….ทำให้ได้รู้ว่าภายในนั้นหรูหราเกินคาด ไม่น่าเชื่อว่าอาคารหลังเล็ก ๆ ข้างในจะมีห้องเรียนอยู่หลายห้อง มีทั้งแกรนด์เปียโนยี่ห้อ Yamaha ในตู้โชว์มีไวโอลินราคาแพง บนฝาผนังแขวนจอภาพขนาดใหญ่เปิดฉายคอนเสิร์ทภาพคมชัดอยู่ตลอดเวลา อืมม์…สมแล้วครับที่เป็นโรงเรียนดนตรีมีชื่อ เจ้าของเป็นนักเปียโนหนุ่มไฟแรง ซึ่งจบทางด้านนี้โดยตรงมาจากเมืองนอก!!

ประมาณสี่โมงเย็น ครูต้นเดินทางกลับไปวังชิ้น ส่วนผมก็ปั่นจักรยานกลับบ้าน มีความรู้สึกเบาหวิว ความคิดลอยล่อง ทั้งที่ยังไม่เข้าบ้าน…ก็มองเห็นเข้าไปในห้องที่ใช้สอนเด็ก ๆ ซึ่งเคยถูกน้องดาต้าชี้ให้เห็นถึงความสกปรก ผมคิดถึงน้องบาร์บี้ซึ่งแสดงความหวาดกลัวเจ้ากิ้งกือที่แกว่งขาจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่บนพื้นห้อง คิดถึงยุงปากแหลมที่คอยจ้องดูดเลือดเด็ก ๆ รวมทั้งรูปภาพคีตกวีขนาดเล็กที่พิมพ์เองแล้วใส่ลงในกรอบรูปเล็ก ๆ นำขึ้นแขวนไว้บนผนัง

เมื่อเปรียบเทียบกับสถานที่ ๆ เพิ่งไปเห็น ผมแทบจะต้องซุกหน้าหนี…

คิดถูกแล้วที่ผมปลดป้ายรับสอนดนตรีออก…


ก่อนถึงสะพานดำ ผมรู้สึกเหนื่อยจนต้องหยุดพัก!!

เปรียบชีวิต…ผมก็คงไม่ต่างจากตะวันซึ่งกำลังตกดิน อีกไม่นานฟ้าก็จะมืด ถึงเวลาต้องกลับบ้านแล้ว!

No comments: