Saturday, January 07, 2012

มีเรื่องให้ทำไม่เว้นวัน…

อากาศเริ่มร้อนแล้วครับ! ที่บ้านผมไม่มีน้ำประปาใช้ แล้วก็ไม่มีที่อาบน้ำแบบโรงแรมชั้นหนึ่งเหมือนที่บ้านอาจารย์ติ๊ก (ขอแซวหน่อย…อิอิ) เมื่อคืนที่ผ่านมา…ระหว่างที่เปิดน้ำลงถังเสียงดังซู่ ๆ ผมกำลังเพลินอยู่กับการอาบน้ำแบบใช้ขันตักราดตัวโครม ๆ แต่แล้วอยู่ ๆ เสียงซู่ ๆ ก็เงียบลง น้ำหยุดไหล! ว้า…มีเรื่องให้ผมต้องเหนื่อยอีกแล้ว!!

เช้าวันนี้ ผมรีบไต่หลังคาห้องน้ำขึ้นไปดูปั้มน้ำซึ่งทำหน้าที่สูบน้ำจากถังเก็บขึ้นไปยังชั้น ๒ และชั้น ๓ รู้สึกโล่งอกที่ไม่มีร่องรอยเสียหายที่ตัวมอเตอร์ น้ำในถังเก็บก็ไม่แห้ง ระบบไฟฟ้าก็ปกติ เหลืออยู่เพียงจุดเดียวก็คือ “สวิชแรงดัน (pressure switch)” ซึ่งจะเป็นตัวควบคุมการทำงานของมอเตอร์เครื่องสูบน้ำ ผมแกะออกดูก็พบว่าเจ้าสวิชดังกล่าวหมดสภาพแล้วจริง ๆ ต้องเปลี่ยนใหม่


ช่วงบ่าย…ผมขี่จักรยานยนต์เข้าเมืองเพื่อหาซื้ออะไหล่ ผมมุ่งหน้าไปร้าน “เต็กหมง” ตรงถนนพหลโยธินก่อน เพราะเร็ว ๆ นี้เคยไปซื้อ ball valve แบบ PVC ขนาด 1″ ราคาแค่ตัวละ ๔๐ บาท ในขณะที่ร้านเล่าจิ้นกวงขายตัวละ ๕๘ บาท ร้านขายเครื่องประปาใกล้ ๆ บ้านขาย ๖๕ บาท นอกจากนั้นเหล็กฉากเท้าแขนขนาด 6″x8″ เค้าก็ขายตัวละ ๑๓ บาทในขณะที่ห้างไทวัสดุขายตัวละ ๒๐ กว่าบาท ผมคิดว่าที่ร้านเต็กหมงผมจะซื้อ pressure switch ได้ในราคาถูกกว่าที่อื่น่…

เมื่อเห็นตัวอย่างที่ผมนำไปด้วย…คนขายสุภาพสตรีพาผมเดินไปที่ตู้ แล้วหยิบสวิชแรงดันออกมาให้ผมดู มีอยู่รุ่นเดียวซึ่งตัวใหญ่กว่า และป้ายบอกราคา 600 บาททำให้ผมต้องรีบส่งคืน แล้วถามว่า “ราคาถูกกว่านี้ไม่มีเหรอ?”

ไม่มีครับ! โห…ผมเพิ่งซื้อปั้มน้ำพร้อมสวิชแรงดันอัตโนมัตใหม่เอี่ยมแค่ตัวละ ๑,๔๐๐ บาทเอง ถ้าผมจะต้องซื้อสวิชตัวละ ๖๐๐ บาท ผมซื้อปั้มน้ำตัวใหม่เลยไม่ดีกว่าหรือ!

ทำยังไงดี! ผมจะไปหาซื้ออะไหล่ที่ต้องการได้จากร้านไหน? ระหว่างเดินออกจากร้านเต็กหมง สมองผมเรียกข้อมูลซึ่งสะสมไว้แล้วค้นหาชื่อร้านที่ควรไป ร้านใหญ่ ๆ ห้างใหญ่ ๆ ผ่านไปหมด เจ้า cursor สมองไปหยุดอยู่ตรงร้านขายเครื่องประปาซึ่งอยู่ตรงถนนรอบเวียง อืมม์…ผมจำชื่อร้านไม่ได้ แต่รู้ว่าที่นั่นมีวัสดุอุปกรณ์พร้อม ผมเคยไปซื้อท่อน้ำ เช็ควาล์ว และอุปกรณ์บางอย่างก็ไม่เคยผิดหวัง เป็นร้านที่ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ ไม่ต้องมีพนักงานขาย เหมือนกับร้านโซห่วยท้องถิ่นซึ่งยืนหยัดสู้อยู่กับห้างและบริษัทต่างชาติใหญ่ ๆ ที่เปิดตามกันมาติด ๆ

ผมไปที่ร้านนั้นทันที ยื่นตัวอย่าง pressure switch ให้เจ้าของร้านซึ่งคงเพื่อนของอาจารย์ติ๊ก (ถ้าจำไม่ผิด) ดู เถ้าแก่ซึ่งทำหน้าที่ทั้งพนักงานขายและพนักงานเก็บเงินหันไปเปิดตู้ซึ่งอยู่ด้านหลัง แล้วหยิบกล่องสวิชแรงดัน ๒ กล่องออกมาให้ผมดู ตัวหนึ่งราคา ๑๘๐ บาท อีกตัวนึงซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยราคา ๒๕๐ บาท สมองผมต้องทำงานอีกแล้ว…เลือกว่าจะซื้อตัวไหน? ถ้าซื้อตัวใหญ่ก็จะแพงกว่า ๗๐ บาท ชายผมขาว
(เจ้าของร้าน)บอกผมว่า “ถ้าเป็นช่างมาซื้อก็จะเลือกตัวเล็ก เพราะเสียบ่อยก็จะได้ซ่อมบ่อย แต่ถ้าเป็นเจ้าของบ้านที่ซื้อไปซ่อมเองก็จะเลือกตัวใหญ่เพราะทนกว่า…”

ผมตัดสินใจซื้อตัวใหญ่ราคา ๒๕๐ บาท…


ก่อนกลับบ้าน…ผมแวะไปร้านขายอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เคยไปซื้อ printer แล้วซื้อแผ่นเปล่าดีวีดีแบบ printable ๑ หลอด (๕๐ แผ่น) ราคา ๒๙๐ บาทติดมือมาด้วย…


กลับถึงบ้านก็ต้องรีบลงมือซ่อมระบบน้ำ เจ้าเครื่องสูบน้ำเมื่อได้สวิชตัวใหม่มาติดตั้งแทนตัวเก่าที่ชำรุดไป มันทำงานทันทีที่เปิดใช้งาน หุหุ มีตังค์ซื้อของใหม่มาเปลี่ยนมันก็ดีอย่างนี้แหละ!!

ช่วงค่ำ…ผมบันทึกไฟล์ภาพยนต์ ๓ เรื่องลงแผ่นดีวีดี ตั้งใจว่าจะส่งไปให้คุณสาธิตที่พิษณุโลก และมอบให้ครูหนิงกับอาจารย์ต้อม


ประกอบด้วยภาพยนต์เรื่อง Le Concert, Music of The Heart และ Pianist (หนังเกาหลี)


อ่อ…ลืมบอกไปว่าวันนี้ผมได้เปิดดูภาพยนต์ฝรั่งเศสเรื่อง La Tourneuse de pages หรือ The Page Tuner ซึ่งกำกับโดย Denis Dercourt ด้วยล่ะ

เป็นการให้รางวัลตัวเอง สำหรับงานซ่อมเครื่องสูบน้ำในวันนี้ครับผม

No comments: