Sunday, January 22, 2012
เลือดอาก๋ง
คงจะดีไม่น้อย ถ้าคุณแม่สอนให้ผมพูดแต้จิ๋ว เพราะผมจะได้เป็น bilinqual เหมือนแม่ แล้วถ้ามีโอกาสไปเที่ยวเมืองจีนเหมือนกับคุณเมธี ผมก็จะได้ไม่มีปัญหาในการสื่อสาร แม่เขียนภาษาจีนสวยมากครับ เวลาแม่ร้องงิ๋วก็เพราะด้วย ท่านเคยบอกผมว่าเสียใจที่ไม่ได้สอนให้ผมพูดและเขียนภาษาจีน
ตั้งแต่ผมจำความได้ เมื่อถึงเทศกาลตรุษจีน ที่บ้านไม่เคยไหว้เจ้า ไม่เคยมีเสียงประทัด ไม่มีขนมเข่ง หรืออั่งเปา เพราะคุณพ่อเป็นไทยแท้ ถึงกระนั้น…แม่ก็มักจะเล่าให้ฟังอยู่บ่อย ๆ ว่าตอนเป็นเด็กแม่ได้ทำอะไรบ้างในช่วงตรุษจีน
น่าเสียดายจริง ๆ ที่ผมสืบทอดสิ่งดี ๆ จากบรรพบุรุษชาวจีนไว้ได้น้อยเหลือเกิน แม้กระทั่งการใช้ตะเกียบผมก็ยังจับไม่ถูกวิธี! ถ้าจะมี…ก็น่าจะเป็นสายเลือดของการเป็นนักเดินทางมากกว่า แม่เล่าว่าอาก๋งนั่งเรือมาจากเมืองจีน ความอดทนและกล้าเผชิญกับภัยที่อยู่เบื้องหน้าถูกถ่ายทอดสู่แม่อย่างเห็นได้ชัด เพราะผมไม่เคยเห็นแม่แสดงออกถึงความอ่อนแอแม้แต่น้อย เวลาเจ็บไข้ได้ป่วย…แม่ก็ไม่เคยร้องโอดครวญให้ได้ยินแม้แต่คำเดียว
ผมบอกแม่ว่าจะขี่จักรยานไปออสเตรเลีย แม่ก็ไม่ห้าม ไม่เคยพูดสักคำเดียวให้ผมท้อแท้หรือหมดกำลังใจ พอผมบอกว่าจะไปเล่นซึงข้างถนน แม่ก็ไปบ้านบ่อสร้างกับผมเพื่อหาซื้อซึง…
และวันที่ผมจะไม่ลืมเลยตลอดชั่วชีวิต คือวันที่ผมจูงจักรยานออกจากบ้านที่ถนนทุ่งโฮเต็ล ซอย ๓ เพื่อปั่นไปยังสถานีรถไฟ วันนั้นฝนตกปรอย ๆ แม่ออกมายืนส่งผมที่ประตูรั้ว คงจะเป็นห่วงผมมาก ๆ แต่แม่ไม่เคยปริปาก ไม่เคยห้ามและพยายามหยุดยั้งการเดินทางของผม! คงเป็นเพราะเราได้รับสายเลือดของนักผจญภัยมาจากบรรพบุรุษ…
ประตูรั้วบ้านทุ่งโฮเต็ล…แต่ก่อนนี้สีส้ม (ภาพนี้ถ่ายเมื่อเดือนที่แล้ว)
อ่านที่ผมเขียนถึงแม่สิครับ….
ก่อนจบก็อยากบอกดัง ๆ ว่า สุขสันต์วันตรุษจีน นะครับ
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment