Saturday, January 21, 2012

ซื้อของทางเน็ต…

ถูกคุณบิมพาดพิงเรื่อง “ซื้อของทางเน็ต” ผมเกิดอาการหยุกหยิกในหัวใจ มันเป็นความรู้สึกของคนที่ไม่มีเงินพอที่จะซื้อของใหม่ แล้วต้องหาซื้อสินค้ามือสองไว้ใช้ จนมีประสบการณ์กับความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า บางครั้งถึงกับต้องลบ bookmark เว็บสินค้ามือสองทิ้งไปจนหมดก็มี แต่แล้วผมก็ต้องกลับเข้าไปหาซื้อของถูกในเว็บเหล่านั้นอีกจนได้!

ผมอยากบอกว่า “ถ้ามีกำลังพอที่จะซื้อของใหม่ ของมีประกัน กับร้านที่อยู่ใกล้บ้าน ก็ซื้อเหอะ อย่าเลียนแบบพฤติกรรมคนเป็นโรคทรัพย์จางเรื้อรังอย่างลุงน้ำชาเลย…” อิอิ

เมื่อวันก่อนพูดเรื่องเจ้ามิวซาว ซึ่งก่อนหน้านั้นแบตเตอรี่เกิดอาการเก็บไฟไม่อยู่ และเจ้า charger ที่มากับตัวกล้องก็พังไปตั้งนานแล้ว ผมลองสืบราคาในเว็บดูแล้ว พบว่าจะต้องมีงบประมาณ ๑ พันบาทสำหรับการซื้อแบตเตอรี่และที่ชาร์จ(เทียม)มาใช้  พอดีไปเจอในเว็บประมูล มีว่าดังนี้….



กล้อง Digital OLYMPUS Stylus 790SW อุปกรณ์ครบกล่องเลยค่ะ หมดประกันแล้วค่ะ กล้อง 7.1 Megapixel ค่ะ กล้องรุ่นนี้เป็นรุ่นกันน้ำนะค่ะ สินค้าใช้งานไม่ได้แล้วนะค่ะ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการ เราดันแกะตรงที่ใส่แบ็ตมาล้างค่ะ ไม่รู้จะโกดใครดี ขายเป็นอะไหล่ไปละกันค่ะ รึใครลองเอาไปซ่อมดูก็ได้ แถมขาตั้งกล้องยังไม่เคยใช้เลยค่ะ อุปกรณ์ที่ได้จะได้รับประกอบด้วย ตัวกล้อง กล่อง ขาตั้งกล้อง แบตเตอรี่ แท่นชาร์ทแบต สาย datalink สาย AV กล่อง เมมโมรี่ 1 g cd คู่มือไทย อังกฤษ กระเป๋ากล้อง — ครบยกกล่อง **ขอค่าส่ง 50 บาทนะค่ะ
คิดดูแล้ว…ถ้าประมูลได้มา ผมอยากจะเอาที่ชาร์จมาแกะออก นำแผงวงจรไปดัดแปลงใส่ในที่ชาร์จของผมซึ่งเสียแล้ว (ช่างเหอะน่าจะพอทำได้) เจ้า memory card ขนาด 1 GB ก็อยากได้อยู่ เพราะของผมมีแค่ 512 MB เอง ตัวกล้องถึงแม้จะเสียแต่ก็ยังสามารถนำมาให้”ช่างเหอะ” ได้ลองซ้อมมือแก้กลุ้ม ส่วนขาตั้งกล้องผมก็ยังไม่มี เอาน่ะ…ลองประมูลมาใช้ดีกว่า

ปรากฏว่าประมูลไม่ได้ครับ ก็ได้แต่คิดว่า “ไม่เป็นไร” แล้วผมก็ลืมมันไป แต่แล้วอยู่ ๆ ผมก็ได้เมล์จากผู้ขายแจ้งว่า “ท่านที่บิดได้สูงสุดเงียบไปเลยอะค่ะ ถ้ายังต้องการสินค้ายินดีส่งต่อให้นะค่ะ” อืมม…ก็ดีเหมือนกัน จะได้ทำตามที่คิดไว้ ผมโอนเงิน ๗๐๐ บาทไปยังผู้ขายเพื่อเป็นค่าสินค้าและค่าส่ง พร้อมกับแจ้งที่อยู่ไปให้ ปรากฏว่าช่วงนั้นน้ำท่วมกรุงเทพฯ พอดี ผมรอรับสินค้าตั้งแต่น้ำเริ่มท่วมจนน้ำลดก็ยังไม่มีวี่แววของพัสดุที่จะมาถึง!! ในที่สุดก็ทราบว่าของทั้งหมด ผู้ขายได้ส่งให้แล้ว แต่เกิดสูญหาย ไปที่ไหนไม่รู้ ไปรษณีย์บอกว่ามีคนรับสินค้าไปแล้ว แต่ไม่ใช่ผม…

เงินที่โอนไปให้ผู้ขายแล้วก็เหมือนกับอ้อยที่เข้าปากช้าง น้อยรายนักที่มันจะถูกคายออกมา ก็มีครั้งนี้แหละที่ผมยังโชคดี ทำให้เจอคนดี มีความรับผิดชอบ หลังจากผ่านไป ๒ เดือนกว่า ผู้ขายก็ได้โอนเงินจำนวน ๗๐๐ บาทกลับคืนมาให้ผม…

ผมนำเรื่องนี้มาเล่าก็เพื่ออยากบอกว่า “ในตลาดค้าขายทางเน็ตยังมีผู้ขายที่ดี ๆ อีกเยอะ แต่ถ้าไม่จำเป็น ก็อย่าได้ประมูลซื้อสินค้า(มือสอง)เลยครับ…”



อ่อ…เมื่อวานนี้ไปธนาคาร เห็นเค้าจัดบูธขายอสังหาริมทรัพย์ ก็เลยแวะเข้าไปดูเสียหน่อย เห็นได้ว่ามีบ้านหรือที่ดินบางแปลงซึ่งมีราคา ๒-๔ ล้านบาทได้ถูกซื้อไปแล้ว ผมคิดว่าธนาคารเค้าเข้าใจจัดนะ ช่วงหลังน้ำท่วมมีคนกรุงขึ้นมาแสวงหาที่อยู่อาศัยกันมากขึ้น ในขณะที่ลำปางก็กำลังเจริญเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง

ผมเองยังคงเฉื่อย ๆ เหมือนเรือเกลือ ไม่รีบร้อนขับเคลื่อนอะไรทั้งนั้น ผมยังเคยคิดเลยว่า…ถ้าสามารถประคับประคองอยู่ต่อไปได้ ไม่แน่นะว่าสักวันหนึ่งบ้านหลังที่ผมประกาศขายนี้ อาจได้ใช้เป็นที่พึ่งพิงของเพื่อน ๆ บางคนซึ่งประสบปัญหาจากภัยธรรมชาติจนถึงกับต้องย้ายที่อยู่


ถึงวันนั้น ผมอาจจะได้ยื่นมือออกไปหาครับ…   

No comments: