Sunday, November 02, 2014

นิทรรศการในมอสควา

ผมมีนิตยสาร "สหภาพโซเวียต" ซึ่งจัดพิมพ์โดยสำนักแถลงข่าวโซเวียต ซอยหุตายน ถนนสวนพลู กรุงเทพฯ  จำไม่ได้แล้วว่าตั้งแต่ฉบับแรกจนถึงฉบับสุดท้ายมีอยู่ทั้งหมดกี่ฉบับ แต่ฉบับนี้คือฉบับที่ ๘ ประจำเดือนสิงหาคม ๒๕๓๓...

 
หน้า ๒๓-๒๖ มีบทความเรื่อง "นิทรรศการในมอสตวา" ผมอยากจะนำมาโพสต์ต่อดังนี้...

ที่พิพิธภัณฑืศิลปะตะวันออกในมอสควา ได้มีการจัดงานนิทรรศการในหัวข้อ "ตำนานของประชาชาติในเอเซียอาคเนย์" สิ่งของที่ตั้งแสดงมีจำนวนประมาณ ๑,๐๐๐ ชิ้น จากประเทศไทย เมียนม่า อินโดนีเซีย ลาว และเวียดนาม นิทรรศการนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากชาวมอสควาและผู้มาเยือนมอสควา ซึ่งบอกความประทับใจในงานนี้ลงในสมุดเยี่ยมเป็นต้นว่า...

อ. โรกาชอฟ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศแห่ง ส.ส.ซ.ส. "นิทรรศการนี้เป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาความสัมพันธ์ด้านวัฒนธรรมระหว่าง ส.ส.ซ.ส. กับประเทศที่อยู่ในเอเซียอาคเนย์ครั้งนี้นับเป็นนิทรรศการที่ใหญ่ที่สุดที่จัดขึ้นในมอสควาในระยะหลายปีที่ผ่านมา สิ่งของที่ตั้งแสดงได้รับความสนใจมากทั้งจากผู้เชี่ยวชาญและประชาชนทั่วไป"

ซ. โอเซกอฟ รองประธานสมาคมมิตรภาพ ส.ส.ซ.ส.เมียนม่า "การขุดค้นได้แสดงให้เห็นว่า อารยธรรมของภูมิภาคนี้เก่าแก่กว่าของจีนและอินเดีย เนื่องจากตำนานของประชาชนในท้องถิ่นนี้มักจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับชาติต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้าเป็นส่วนใหญ่ นิทรรศการนี้จึงประเดิมด้วยพระพุทธรูปปางปรินิพาน แต่มองโดยส่วนรวมแล้ว งานนี้ประมวลพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ไว้มากมาย รวมทั้งพระพุทธรูปปางเสด็จลงจากสวรรค์ซึ่งหาได้ยากด้วย ที่น่าสนใจมากคือสิ่งของที่ตั้งแสดงในห้องเมียนม่า และโดยเฉพาะอย่างยิ่งโกศสมัยคริสต์วรรษที่ ๒ ซึ่งพวกศตโรสทินค้นพบระหว่างการเดินทาง"






นินา เมชโค นักวิจารณ์ศิลปะ "ภาพเขียนฉาบมัน งานฝังมุก งานสลักไม้และรูปหล่อด้วยบรอนซ์ เป็นผลงานที่แปลกเด่นจริง ๆ ฉันเพิ่งได้เห็นรูปพระอินทร์ทรงช้างหลายเศียร องค์ที่สร้าง "สุวรรณภูมิ" ของคนไทยที่มีลักษณะต้นแบบจริง ๆ เป็นครั้งแรกที่นี่ และก็สามารถย้อนรอยประวัติศาสตร์ชาติไทยจากผลงานที่ตั้งแสดงอยู่ที่นี่ได้หมด นับตั้งแต่สมัยอโยธยาจนถึงยุคปัจจุบัน"

อนาโตลี มูซารอฟ ประธานสหกรณ์ผลิตสินค้าอุปโภคในครัวเรือนแห่งหนึ่ง " ผมประทับใจกับทักษะยอดเยี่ยมในการทำภาชนะในครัวเรือน ทั้งชาม จาน ถ้วย และกล้องยาสูบ ขณะนี้เรากำลังลองใช้สไตล์พื้นบ้านในการผลิตถ้วยและจานพอร์ชเลนกันอยู่ แต่เรายังไม่รู้เรื่องสูตรของทางตะวันออก ในเรื่องการผสมสีกับการทำกระเบื้องเนื้อละเอียด ที่น่าสนใจมากคือเหยือกเงินรูปเพรียว เราจะลองใช้บางอย่างที่ได้เห็นที่นี่กับงานของเรา"

สารศาสตร์ ขาวบาง เจ้าหน้าที่สถานทูนไทยประจำ ส.ส.ซ.ส. "ผมยินดีมากที่ได้ร่วมจัดห้องไทยในงานนิทรรศการนี้ด้วยการจัดหาสิ่งของฝีมือช่างไทย ผมยินดีที่ได้ทราบว่างานนี้ได้รับความสนใจมาก ผมเองก็ชื่นชมกับผลงานของเวียดนามซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาพดอกไม้และนก กับของเมียนม่าที่เป็นสิ่งของแสดงลักษณะของภูติ "นาทมี" รวมทั้งอาวุธสมัยโบราณของอินโดนีเซีย เจ้าหน้าที่ของทางพิพิธภัณฑ์ได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความเข้าใจถึงลักษณะจำเพาะของศิลปะของไทยและประเทศอื่น ๆ ที่ตั้งแสดงในงานนี้เป็นอย่างดี ผมใคร่ขอขอบคุณฝ่ายจัดการของพิพิธภัณฑ์ที่จัดงานนิทรรศการนี้"

วลาดิมีร์ นาบัตซิคอฟ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์กล่าวว่า เขาตั้งใจที่่จะสืบเนื่องการร่วมมืออย่างเกิดดอกออกผล กับนักสะสมเอกชนและพิพิธภํณฑ์ต่าง ๆ ของ ส.ส.ซ.ส. และประเทศอื่น ๆ ทั้งตั้งใจที่จะจัดการแสดงนิทรรศการคล้าย ๆ กันนี้โดยเน้นเรื่องวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศไทยในเอเซียในอนาคตด้วยเช่นกัน การแลกเปลี่ยนนิทรรศการและผู้เชี่ยวชาญก็เปนเรื่องที่เรายินดีเช่นกัน เขากล่าวว่าพิพิธภัณฑ์นี้มีกองทุนสำหรับใช้ในการวิจัยมาก ทั้งยังมีสิ่งของที่เก็บงำไว้อย่างดีที่ยังไม่ได้นำออกแสดงอีกมาก ส่วนใหญ่เป็นงานศิลปะชิ้นเอก ๆ ของยุคโบราณและยุคใหม่ของประเทศทางตะวันออก เป็นศิลปะวัตถุที่บรรยายถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทางตะวันออกกับเอเซียกลางของโซเวียต ถ้านำออกมาตั้งแสดง ก็คงจะสนองความสนใจของประชาชาติทั้งหลายที่มีต่อประวัติศาสตร์ของกันและกัน

สัตว์ในนิทานพื้นบ้าน (พันศุภะ) เมียนม่า 1950
ผมยังไม่เคยไปรัสเซีย รู้เพียงว่าคนไทยไม่ต้องใช้วีซ่า...

No comments: