Thursday, August 11, 2016

I Saw The Light (2015)

ไม่ได้เขียนเรื่องหนังมานาน!  วันนี้ผมขอกลับมาแย๊บต่ออีก ๑ หมัด หลังจากที่ได้ดาวน์โหลด "I Saw The Light" มาดู....


"I Saw The Light" เป็นภาพยนต์ประวัติของ Hank Williams ราชาเพลงลูกทุ่งตะวันตกผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล ผมเชื่อว่าตัวเองเป็นคนหนึ่งที่ดูหนังเรื่องนี้แล้วได้อรรถรสมากที่สุด ด้วยเหตุผลที่ว่าเคยคลุกคลีอยู่กับวงการเพลงครันทรีมากว่า ๓ ทศวรรษ ได้สั่งสมประสบการณ์บนเวทีร่วมกับเพื่อนนักดนตรีวงครัทรีทั้งที่เชียงใหม่และลำปางมาก็ใช่น้อย...

  
ชื่นชอบ Hank Williams เอามาก ๆ...ผมร้องเพลงของแฮ้งค์ได้หลายเพลง!  "I Saw The Light" ก็ร้องครับ หรือเพลงช้า ๆ อย่างเช่น  "I'm So Lonesome I Could Cry" ก็ชอบ... 
Hear that lonesome whippoorwill,
He sounds too blue to fly.
The midnight train is whining low,
I'm so lonesome I could cry.
I've never seen a night so long
When time goes crawling by.
The moon just went behind the clouds
To hide its face and cry.
Did you ever see a robin weep,
When leaves begin to die
That means he's lost the will to live,
I'm so lonesome I could cry.
The silence of a falling star
Lights up a purple sky.
And as I wonder where you are
I'm so lonesome I could cry.
ก่อนหน้านั้นก็เคยดูภาพยนต์เกี่ยวกับ Hank Williams อย่างเช่น Your Cheatin' Heart 1964 (จำได้ว่าดูที่โรงภาพยนต์สุริวงศ์) และ The Last Ride 2012 (ดาวน์โหลดมาดู)  ผมรู้สึกดีใจที่ได้ดู "I Saw the Light 2015" ซึ่งมีความยาว ๒ ชั่วโมง ผลงานของผู้กำกับ Marc Abraham และมี Tom Hiddleston เป็นผู้รับบท Hank Williams 


ผมขอไม่พูดมากในรายละเอียดของภาพยนต์เรื่องนี้ เพราะมีให้อ่านในเว็บทั่วไปอยู่แล้ว เพียงแค่อยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้หามาดูเท่านั้นครับ  ตอนแรกนึกว่าจะได้ดูภาพยนต์ขาวดำซะอีก...


แต่แล้วก็ตามมาด้วยสีสันที่ต้องยกนิ้วให้...



มีฉากการซ้อมของวงดนตรีประเภทที่ผมเล่นอยู่ด้วย ต่างกันตรงที่ผมใช้ accordion แทน steel guitar


เห็นการแสดงของนักดนตรีเหล่านี้แล้ว....I got a thrill เพราะคนมันเคย...





ฉากที่แฮ้งค์แต่งเพลง Your Cheatin' Heart...


เค้านำบทสัมภาษณ์ของผู้เกี่ยวข้องแท้จริงมาแทรกไว้ในภาพยนต์ด้วย...



รวมทั้งรูปจริงที่เป็นขาวดำ...

  

ภาพยนต์ถ่ายทำด้วยสีสันสดสวย พิถีพิถันในการเลือกสถานที่และใช้ของโบราณให้เข้ากับยุคสมัย...


แฮ้งค์แต่งงานกับ Billie Jean Horton ที่เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา....


สูติแพทย์บอกแฮงค์ว่าได้เป็นคุณพ่อแล้ว...


วันพุธที่ ๓๑ ธันวาคม ๑๙๕๒ แฮงค์ต้องไปแสดงที่หอประชุมเมือง Charleston ใน West Virginia เขาต้องจ้างนักศึกษาชื่อ Charles Carr ขับรถไปให้ (โปรดดูเรื่อง The Last Ride 2012) พอดีเกิดพายุหิมะ...ไปไม่ทันจึงต้องยกเลิกแล้วเบนเข็มไป Canton , Ohio เพื่อแสดงในคอนเสิร์ทวันขึ้นปีใหม่

หลังจากแวะเติมน้ำมัน...คนขับรถก็พบว่าแฮ้งค์เสียชีวิตอยู่ในรถแล้ว วิกิพีเดียให้ข้อมูลไว้ว่า...
Dr. Ivan Malinin performed the autopsy at the Tyree Funeral House. Malinin found hemorrhages in the heart and neck and pronounced the cause of death as "insufficiency of the right ventricle of the heart".  
ผู้ประกาศที่ Canton ขึ้นบนเวทีแล้วแจ้งให้ผู้ชมว่าแฮ้งค์เสียชีวิตแล้ว..."Hank Williams died in his car..." มีบางคนหัวเราะเพราะคิดว่าเป็นข้อแก้ตัวอีกแล้ว 


จนกระทั่ง Hawkshaw Hawkins และนักดนตรีคนอื่น ๆ เริ่มร้องเพลง "I Saw the Light" ทุกคนจึงได้ตระหนัก... 
I wandered so aimless life filled with sin
I wouldn't let my dear saviour in
Then Jesus came like a stranger in the night
Praise the Lord I saw the light.
I saw the light I saw the light
No more darkness no more night
Now I'm so happy no sorrow in sight
Praise the Lord I saw the light.
Just like a blind man I wandered along
Worries and fears I claimed for my own
Then like the blind man that God gave back his sight
Praise the Lord I saw the light.
I saw the light I saw the light
No more darkness no more night
Now I'm so happy no sorrow in sight
Praise the Lord I saw the light.
I was a fool to wander and a-stray
Straight is the gate and narrow the way
Now I have traded the wrong for the right
Praise the Lord I saw the light.
I saw the light I saw the light
No more darkness no more night
Now I'm so happy no sorrow in sight
Praise the Lord I saw the light.

ร่างไร้วิญญาณของแฮ้งค์ถูกบรรจุในโลงเงินนำไปไว้ที่บ้านของคุณแม่ที่ Montgomery, Alabama  (ภาพนี้น่าจะเป็นภาพเหตุการณ์จริงเมื่อวันศุกร์ที่ ๒ มกราคม ๑๙๕๓)


มีคนตั้งชื่อหนังเรื่องนี้เป็นไทยว่า "เมื่อดาวดับแสง" จริง ๆ แล้วดาวดวงนี้ไม่เคยดับ แต่สว่างไสวอยู่ในหัวใจนักเพลงอย่างผมชั่วนิรันดร์!

No comments: