ผมได้มีโอกาสเจอพี่อุดมเพียงแค่หนึ่งชั่วคืน แต่การได้ร่วมวงเสวนากับพี่อุดมและคุณอิโต้ซังที่บ้านอาจารย์ประสิทธิ์ (เจ้าของไร่หญ้ารีสอร์ท) ในคืนวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๑ นั้นก็ทำให้ผมได้สัมผัสกับความไม่เหมือนใครของพี่อุดม เปรียบกันแล้วพี่อุดมก็เหมือนกับพี่โกปอล พี่ชายชาวสิงคโปร์ของผม ทั้งสองคนเป็นนักสู้ชีวิตที่ไม่เคยยอมแพ้ เขาจะไม่ยอมหยุดนิ่งจนถึงวันที่แผ่นดินกลบหน้า พี่โกปอลอาจจะลำบากกว่าตรงที่เพิ่งผ่านวิกฤตซึ่งเกือบทำให้ดวงตามืดบอด แต่พี่อุดมยังแข็งแรงดี ดูจากภาพข้างบนซึ่งถ่ายในขณะที่พี่อุดมและเพื่อนชาวญี่ปุ่นกำลังจะเดินทางออกจากไร่หญ้ารีสอร์ทเมื่อเช้าวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๑ จะเห็นลำแข้งที่แข็งแรง พร้อมที่จะแบกเป้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่ท้อถอย...
พี่อุดมบอกว่าหลังจากปลดเกษียญจะมุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัยชีวิตอีกครั้ง ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วผมก็เฝ้าติดตามการผจญภัยของพี่ชายที่แสนดีของผมด้วยใจจดใจจ่อ ด้วยความหวังว่าพี่อุดมจะสามารถก้าวเดินไปตามเส้นทางที่ตนเองใฝ่ฝัน จนกระทั่งวันวานนี้เอง..ผมก็ได้รับอีเมลจากพี่อุดมแจ้งให้ทราบว่าขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางข้ามชายแดนจีนไปยังเวียดนาม หลังจากที่ได้ออกเดินทางจากอุบลราชธานีไปยังปากเซในวันแห่งความรักที่ ๑๔ กุมภาพันธ์เพื่อเริ่มต้นการผจญภัยในประเทศลาวและจีน
จำปาสัก เวียงจันทน์ และหลวงพระบางคือเมืองที่พี่อุดมได้ไปเยือนก่อนที่จะจับรถยนต์โดยสารจากหลวงพระบางไปยัง Meng La, ประเทศจีน รองเท้าของพี่อุดมได้ทิ้งรอยประทับไว้แล้วที่เชียงรุ้ง สิบสองปันนา และคุนหมิง ก้าวต่อไปของนักเดินทางผู้นี้คือประเทศเวียดนามและกัมพูชา
พี่อุดมเขียนว่า...
"....In China a bit hard to travell because they don't speak English and very few English sign. From Kin Ming to He Kou China border. Mar.7 I will walk cross the China border to Lao Cai border , Vietnam. Then take a bus to Hanoi. From Ha Noi to Da Nang and Ho Chi Min City. From here to Panom Pen and Seam Reap , Cambodia. Then to Thailand. I wish to travel with you. Next time let's travel together. It' s very interesting to travel alone in Open Communist Countries. China will be the world super power country in the near future. Looking forward to see you again....."ขอบคุณพี่อุดมที่เตารพรัก ขอให้เที่ยวให้สนุกนะครับ...