Friday, September 30, 2011

วิธีไล่หนู



ถ้าถามว่าในบรรดาสัตว์ที่อาศัยร่วมชายคาอยู่ด้วย ผมกลัวอะไรที่สุด? คำตอบก็คือ "หนูและแมลงสาบ"! จริง ๆ แล้ว ผมไม่ได้กลัวว่ามันจะมากัดหรือทำร้าย แต่กลัวว่ามันจะไปกัดข้าวของแล้วก่อให้เกิดความเสียหายมากกว่า อีกประการหนึ่งคือมันเป็นพาหะนำโรคที่น่าขยะแขยงอีกด้วย 

ถ้าประเมินความเสียหายที่ผมได้รับจากหนูตัวเล็ก ๆ รวมแล้วผมคิดว่าน่าจะสูงถึง ๓ หมื่นบาทนะ เท่าที่จำได้ก็มี เครื่องถ่ายเอกสารราคาแพงที่นำมาจากเชียงใหม่ซึ่งโดนหนูกัดสายไฟจนพัง กลายเป็นเศษขยะมีราคาเท่ากับหนังสือพิมพ์เก่า ๆ กองหนึ่ง - เปียโน Robinson ที่ยกไปเล่นที่ร้าน "ดอย" เมื่อปี ๒๕๒๐ ก็ถูกแม่หนูเข้าไปคลอดลูกอยู่ใต้คีย์บอร์ด แล้วบรรเทาความหิวด้วยการแทะไม้เนื้ออ่อน หอม ๆ ซึ่งมีให้เลือกมากมายรอบ ๆ บริเวณที่อยู่อาศัย (พร้อมกับฟังเพลงไปด้วย) - เจ้าโต(รถยนต์โตโยต้าคราวน์) ของผมก็โดนหนูเข้าไปกัดสายไฟ จนต้องเรียกช่างมาลากไปซ่อม หมดเงินเป็นพัน - เครื่องโทรสารเอย เครื่องซักผ้าเอย แล้วก็เตาด้วยนะ รวมทั้งหนังสือที่มีค่า ทุกอย่างถูกเจ้าหนูตัวเล็กทำลายหมด!

แมลงสาบก็เช่นกัน มันเคยกัดสายไฟเส้นเล็ก ๆ ในอีเล็คโทนจนใช้การไม่ได้ ทั้งหนังสือและเสื้อผ้าดี ๆ ของผมก็เคยถูกมันแทะ  ที่สำคัญคือผมเคยโดนแมลงสาบเข้าหู ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อนให้หมอช่วยคีบออก...

ช่วงนี้เกิดภาวะน้ำท่วม เจ้าหนูและแมลงสาบก็คงต้องอพยพหนีน้ำ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ มันเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว พอน้ำลดก็พร้อมที่จะกลับมาสร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของบ้านอีกเช่นเดิม 


วันนี้ผมอยากนำ "สูตรสมุนไพรไล่หนูและแมลงสาบ" มาฝากครับ  เป็นสูตรที่คิดค้นโดยคุณจันทรา สลีสองสม ประธานกลุ่มฯ หมู่ที่ ๑๑ บ้านร่องปลายนา ตำบลบัวสลี อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีวิธีการทำดังนี้


เตรียมส่วนผสมซึ่งประกอบด้วย ใบพลู ๔ ส่วน หัวข่า ๓ ส่วน กระเทียม ๒ ส่วน และเกลือ ๑ ส่วน 

ภาพจากรักบ้านเกิดดอทคอม

วิธีทำและวิธีใช้  ให้เอาใบพลูไปนึ่งให้สุกก่อน จากนั้นนำมาสับ บด พร้อมกับหัวข่า กระเทียม ส่วนเกลือต้มให้ละลายเทผสมยาที่เราเตรียมไว้ คนให้เข้ากันตักใส่กระป๋องไว้  นำกระป๋องยาไปวางไว้ที่ ๆ มีหนูและแมลงสาบชุกชุม ถ้าได้กลิ่นมันจะหนีและไม่มารบกวนข้าวของต่าง ๆ อีกเลย ตัวยานี้ก็ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้อีกด้วย


อ่อ...ผมเพิ่งอ่านเจอ "เกร็ดความรู้" ในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ประจำวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ ว่าด้วยเรื่อง "ล่าหนูกวนใจให้พ้นบ้าน" ในส่วนที่เกี่ยวกับวิธีการพื้นบ้าน เขียนไว้ว่า "...นำกิ่่งยี่โถมาตากแห้ง และทุบ นำไปวางตามที่ต่าง ๆ ที่พบหนู ประมาณ ๑-๒ สัปดาห์ พวกหนูจะทยอยหนีออกจากบ้านไปเอง"
หากิ่งยี่โถได้จากไหนเนี่ย?  wikipedia ให้ข้อมูลไว้ว่า "ยี่โถเป็นไม้พุ่มสูงประมาณ ๒๐ ฟุต เปลือกของลำต้นมีสีเทาเรียบ เมื่อตัดหรือเด็ดจะมีน้ำยางไหลออกมา ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปร่างรี ปลายและโคนใบแหลม ยาว ๑๕-๑๗ ซ.ม. กว้าง ๑.๗-๒.๐ ซ.ม. ขอบใบเรียบไม่มีจัก หนาแข็ง มีสีเขียวเข้ม ก้านใบสั้น ออกตามข้อของลำต้น ดอกมีสีชมพู ขาว ออกตามปลายของยอดลำต้นเป็นกระจุกหรือช่อ รูปร่างคล้ายกรวยหรือปากแตร เวลาบานกลีบจะมีกลิ่นหอม ดอกยี่โถสามารถออกดอกได้ทั้งปี ผลเกิดเมื่อดอกมีการผสมเกสรและร่วงหลุดไป จะเกิดผลเป็นฝัก หนึ่งฝักต่อหนึ่งดอก ยี่โถ ๑ ดอก เมล็ดลักษณะคล้ายเส้นไหม การปลูกยี่โถสามารถปลูกได้ทุกที่เนื่องจากขึ้นได้ในสภาพดินทุกชนิดได้ดี โดยการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง หรือการปักชำกิ่ง"

อืมม์....ผมเห็นท่าจะต้องไปหายี่โถมาปลูกไว้สักต้นสองต้นแล้วล่ะ ได้ผลอย่างไรจะนำมาเล่าให้ฟังอีกครั้งนะครับ 

ที่มาของภาพเคลื่อนไหวหนู : animationbuddy.com
ที่มาของภาพและข้อมูล : rakbankerd.com
ที่มาของข้อมูล : dailynews.co.th  
ที่มาของข้อมูลเรื่องยี่โถ : th.wikipedia

1 comment:

Unknown said...

ขอบคุณที่แชร์สูตรสมุนไพรไล่หนูนะคะ ขอลองเอาไปใช้ดูจ้า หนูที่บ้านเยอะเหลือเกิน ว่าจะเลี้ยงแมวก็แพ้แมวด้วยอ่ะค่ะ