Tuesday, November 08, 2011

วิธีตากกล้วย


เมื่อ ๗ เดือนที่แล้ว ผมเคยเขียนลงบล๊อกว่า "แดดดีจัง…ผมนำกล้วยออกไปตากที่ระเบียงหลังบ้าน มันเป็นแนวทางต่อสู้กับภาวะสินค้าราคาแพง...."   มีภาพประกอบเป็นกล้วยน้ำว้าอ้วน ๆ ๘ ลูกนอนผึ่งแดด...เรียงกันอยู่บนจานเซรามิคใบละ ๒๐ บาท!

ขนมหวานที่ขายอยู่ทุกวันนี้ได้ขึ้นราคาเป็นถุงละ ๕ บาท  มีนิดเดียวเอง...ตักเข้าปากไม่กี่คำก็หมดแล้ว ในสภาพเศรษฐกิจตกสะเก็ด...ผมจำเป็นต้องหันเข้าหาการดำรงชีพแบบเศรษฐกิจพอเพียง ซื้อกล้วยน้ำว้ามาทำกล้วยตาก เก็บไว้กินแทนขนมหวานจากท้องตลาด

แสงแดดไม่ต้องเช่าไม่ต้องซื้อ ยิ่งเป็นหน้าหนาว อากาศแห้ง แดดจัด เหมาะมาก ๆ สำหรับการตากกล้วย ผมอยากให้เพื่อน ๆ ลองทำดู  ลงทุนเพียงแค่ซื้อกล้วยน้ำว้าจากตลาดมาซัก ๔-๕ หวี สนนราคาโดยทั่วไปคือหวีละ ๕-๑๐ บาท ผมชอบใช้กล้วยลูกเล็กราคาหวีละ ๕ บาท เพราะใช้เวลาในการตากน้อยกว่ากล้วยลูกโต  พอแห้งได้ที่แล้วขนาดของมันจะลดลงจนเกือบดูคล้ายกล้วยเล็บมือนางที่ทางภาคใต้นิยมนำไปทำเป็นกล้วยตากบรรจุกล่องออกวางจำหน่าย....

อย่างเจ้ากล้วยลูกที่เห็นในภาพก็มาจากกล้วยน้ำว้าหวีละ ๕ บาท ใช้เวลาตากแค่ ๔ แดดก็ใช้ได้แล้ว แต่ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการให้เนื้อเหนียวหนึบ เคี้ยวมันส์ ควรตากต่ออีกสัก ๒ แดด ถึงตอนนั้นก็จะกลายเป็นกล้วยเล็บ(หัวแม่)มือนางที่อร่อยมาก ๆ  กินแล้วจะติดใจ!

อุปกรณ์ที่ใช้ก็มีเพียงถาดโลหะ ๑ ถาด และมุ้งลวดเหลือใช้อีก ๑ ผืน ทำความสะอาดถาดให้ดี..ก่อนที่จะปลอกกล้วยโยนลงไป  กล้วยลูกเล็กปลอกง่ายกว่าลูกใหญ่ ผมใช้มือเดียวก็ยังได้  เผลอแป๊ปเดียวเจ้ากล้วยน้ำว้าทั้งหมดก็ลงไปนอนกระจัดกระจายอยู่ในถาดเรียบร้อยแล้ว!


ถ้าใช้กล้วยหลายหวี ก็ต้องจัดระเบียบกันหน่อย คือเรียงชิดเป็นแถว ๆ วางเต็มเนื้อที่ แต่คราวนี้ผมมีกล้วยน้อย จึงปล่อยให้นอนอาบแดดกันตามชอบใจ...


ใช้มุ้งลวดคลุมถาดไว้ซะหน่อยเพื่อกันแมลงวันและนกมารบกวน ยกขึ้นตากไว้บนที่สูง ปล่อยให้รับแสงแดดได้เต็มที่ สาย ๆ ก็ยกถาดออกไปตากแดด ตกเย็นก็เก็บ (ถือว่าเป็น ๑ แดด)  ในกรณีที่บ้านมีมดเยอะ ควรวางถาดบนกระป๋องซึ่งรองน้ำไว้กันมดขึ้น หากฝนลงก็ต้องรีบเก็บเข้าบ้าน อย่าปล่อยให้บรรดานางงามกล้วยทั้งหลายนอนเปลือยแช่น้ำฝนอยู่นาน จะเจ็บป่วยไปซะก่อน!

ไม่ยากครับ ในที่สุด...เราก็ได้กล้วยตากอร่อย ๆ ไว้กินล้างปากหลังอาหาร หรือเป็นอาหารว่างเคี้ยวหนึบเคี้ยวหนับ อร่อยกว่าขนมคอนโดซึ่งมีส่วนผสมเพียงแค่แป้ง, น้ำตาล และสารแต่งสี!

Tips : คุณเมธีเคยแนะนำให้ใช้ปีบสี่เหลี่ยมทาด้านนอกด้วยสีดำ ทำเป็นตู้อบกล้วยแบบประหยัดได้ด้วย

ขอบคุณครับ....

No comments: