Saturday, August 24, 2019

อดอาหาร (fasting)

ทุกวันนี้ ผมพยายามดูแลตัวเองให้ดีที่สุด เพราะคิดว่าในอนาคตคงไม่มีใครมาคอยดูแล จึงจำเป็นต้องให้สามารถช่วยตัวเองได้แม้ยามใกล้ตาย 


โชคดีที่มีความรู้ด้านการแพทย์ให้ศึกษามากมายในอินเทอร์เน็ต ผมค้นคว้านำมาปฏิบัติโดยอาศัยหลักกาลามสูตรที่ว่า...
  • อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา 
  • อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบ ๆ กันมา 
  • อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ 
  • อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำรา หรือคัมภีร์
  • อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก
  • อย่าปลงใจเชื่อ เพราะอนุมาน 
  • อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล 
  • อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว 
  • อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ 
  • อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่าเป็นครูของเรา 
ยังไม่ปลงใจเชื่อ...ผมจะต้องลองทำ สังเกตผล และเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่นเรื่อง การใช้ปัสสาวะล้างตาที่เคยเขียนเล่าให้เพื่อน ๆ เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน  ทุกวันนี้ผมก็ยังทำอยู่นะ ในเมื่อผ่านมาแล้วเป็นปียังไม่มีผลเสีย ดวงตาผมกลับแจ่มใส ไปหาหมอตาก็ว่ายังดีอยู่! ผมจึงไม่กลัวอะไร?

วันนี้ขอคุยเรื่อง Intermittent Fasting (IF) หน่อยนะครับ คำว่า "fast" นอกจากจะเป็นคำคุณศัพท์ซึ่งแปลว่า "เร็ว" แล้วยังเป็นคำกริยาและคำนามหมายถึง "อดอาหาร" และ "การอดอาหาร"  แต่เป็นการอดอาหารด้วยความตั้งใจนะ  ไม่ใช่ไม่มีอะไรกิน

ขอบคุณภาพจาก memecrunch.com
ในคำสอนศาสนาส่วนใหญ่จะมีเรื่องของการอดอาหาร (fasting) อยู่ด้วย ชาวมุสลิมถือศีลอด ชาวคริสต์มีการอดอาหารอธิษฐาน ส่วนชาวพุทธที่เห็นชัด ๆ คือพระภิกษุงดอาหารหลังเพล  บล็อกชูใจได้แชร์ประสบการณ์ ๒๕ วันกับการอดอาหารอธิษฐานครั้งแรกดังนี้...
ผ่านไป ๑ สัปดาห์ ผมก็ยังรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย ขนาดว่าเพื่อนคนอื่นไปกินข้าวที่ไหนผมก็ไปด้วยเหมือนปกติ แต่เรางดอาหารแล้วดื่มแค่น้ำเปล่า ถึงอย่างนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรกับอาหารที่อยู่ตรงหน้าเลย ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองเก่งกาจมากที่ไม่ได้กินอะไรมาเกือบอาทิตย์ แต่ไม่ได้อดอยากหิวโหย อาศัยเพียงจิบน้ำบ่อยๆ กันท้องว่าง พอกลับมาย้อนคิดก็ขอบคุณพระเจ้าที่ผมไม่เป็นโรคกระเพาะ
จนเข้าสัปดาห์ที่ 2 ผมจึงเริ่มมีอาการหน้ามืดอยู่นิดหน่อย เพราะพอไม่ได้ทานอะไรแล้วไม่ระวังเรื่องการลุกการนั่ง อันที่จริงผมควรต้องค่อย ๆ ขยับตัว แต่ด้วยความห้าวเลยไปเป็นหนึ่งในทีมงานช่วยเลื่อยไม้เพื่อสร้างรางผักให้กับมูลนิธิแห่งหนึ่งมาด้วย ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่มีเป็นลมเป็นแล้งไปซะก่อน
สัปดาห์ที่ 3 เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการอดอาหารอธิษฐานครั้งนี้สำหรับผม รูปร่างผอมลงอย่างเห็นได้ชัด น้ำหนักลงไป ๑๕ กก. เสื้อผ้าที่เคยใส่ไม่ได้ ก็กลับมาใส่ได้อย่างน่ายินดี.... 
กล่าวกันว่าในระหว่างช่วงอดอาหาร ร่างกายจะมีกลไกการหลั่งฮอร์โมน คือ การหลั่งอินซูลิน (Insulin) ลดลง ทำให้การเก็บกลูโคสในเลือดเข้าสู่เซลล์ลดลง การสะสมของไกลโคเจนและไขมันใต้ผิวหนังก็ลดลง ในขณะที่ Growth Hormone หลั่งเพิ่มขึ้น ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดี เสริมสร้างกล้ามเนื้อได้มากขึ้น 

Intermittent Fasting หรือ IF เป็นการอดอาหารแบบไม่ต่อเนื่อง มีหลายรูปแบบเช่น...
  • แบบ ๒๐/๕ คืออด ๒๐ ชั่วโมง ทานได้ ๕ ชั่วโมง
  • แบบอดอาหารทั้งวัน ๑-๒ วันต่อสัปดาห์
  • แบบ ๑๖/๘ คืออดอาหาร ๑๖ ชั่วโมง ทานได้ ๘ ชั่วโมง
ขนมจีนน้ำยาราคา ๑๕ บาทที่บ้านขามแดง
ผมเลือกแบบ ๑๖/๘ ซึ่งเป็นรูปแบบที่คนนิยมใช้มากที่สุด คือหลังอาหารเย็นตั้งแต่ ๖ โมงก็เริ่มอด โดยพยายามไม่กินอะไรเลย ตื่นเช้ามาทำ oil pulling แล้วก็ยังไม่กิน มาเริ่ม brunch เมื่อเวลา ๑๐ โมง


ได้ผลอย่างไร จะนำมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังอีกทีนะครับ...

No comments: