ผมบอกแล้วไงว่า "ฟ้าหลังฝนจะงดงาม" ชีวิตคนเราก็หาได้มีแต่ความมืดมนตลอดไปไม่!
เมื่อคืนที่ผ่านมาก็มีพายุฝน เช้านี้ผมต้องรีบขึ้นไปบนดาดฟ้า เพื่อสำรวจว่าเจ้า workshop จะสามารถต้านลมต้านฝนได้หรือเปล่า?
ที่เป็นห่วงมาก ๆ คือบรรดา "หนังสือและนิตยสาร" ที่เพิ่งย้ายขึ้นไปเก็บไว้ ปลอดภัยดีครับ ไม่เสียหาย!
แต่ข้อศอกของผมยังบวมปูดอยู่นะ...
ก่อนเที่ยง ผมขี่มอเตอร์ไซค์ไปสำนักงานเทศบาลตำบลห้างฉัตรแม่ตาล มีเรื่องที่จะสอบถาม ๓ หัวข้อด้วยกันคือ ๑. เรื่องการแสดงตนเพื่อรับเบี้ยคนชรา ๒. เรื่องภาษีป้าย และ ๓. เรื่องการเก็บขยะ ความจริงโทรไปสอบถามก็ได้ แต่ผมอยากไปเจอเจ้าหน้าที่โดยตรงมากกว่า
แวะอ่านบอร์ดประชาสัมพันธ์ซะหน่อย...
ก่อนจะเดินไปติดต่อที่กองคลัง...
เจ้าหน้าที่สาว(สวย) ให้ความกระจ่างมาแล้วดังนี้...
- เรื่องเบี้ยคนแก่ ที่นี่ไม่ต้องไปแสดงตนเหมือนกับเทศบาลเขลางค์นคร
- เรื่องภาษีป้าย ป้ายภาษาไทยของร้านค้าที่ประกอบการมีรายได้ จะต้องเสียภาษีปีละ ๒๐๐ บาท แต่ป้าย "เปียโน" ที่ผมจะนำขึ้นติดไว้หน้าบ้าน มีลักษณะคล้ายชื่อบ้านหรือชื่อสวน จึงยังไม่ต้องเสียภาษี แต่ถ้าในอนาคตจะทำเป็นร้านกาฟงกาแฟ ก็ต้องไปเสียภาษีโรงเรือนและภาษีป้าย
- เรื่องเก็บขยะ ทางเทศบาลจะมีรถไปเก็บขยะสัปดาห์ละ ๒ ครั้ง ต้องนำขยะใส่ถุงดำไปวางไว้ข้างถนนตามวันที่กำหนด ค่าเก็บขยะเดือนละ ๒๐ บาท
ได้คำตอบเป็นที่น่าพอใจแล้ว ผมบึ่งรถไปแวะซื้ออาหารกลางวันให้พี่ชายก่อนกลับบ้าน สองวันติด ๆ กันที่ผมซื้อก๋วยเตี๋ยวลูกทุ่ง(ลูกชิ้นยักษ์) ถุงละ ๔๐ บาทให้พี่ชายกิน คิดว่าแกคงเบื่อ วันนี้ผมเปลี่ยนไปซื้อข้าวคะน้าหมูกรอบที่ร้านนายชัยแทน...
ส่วนตัวเองกลับไปค้นหาของเก่าในตู้เย็นกิน!
No comments:
Post a Comment