บ่ายวันนี้ผมขี่จักรยานไปถ่ายรูปวัดห้างฉัตร....
จอดรถไว้ใต้เงาไม้...
เห็นป้ายไวนิลติดไว้ที่รั้ว...
จากวัดห้างฉัตร ผมไปวัดเตาปูน เจ้าถิ่น ๒ ตัววิ่งเข้ามาทักทายแล้วผละไป...
คุณโฆฆะบุรุษได้เขียนไว้น่าสนใจใน bloggang.com ว่า...
หมาวัดมันก็มีเขตแดนของมัน และในแต่ละวัดจะมีหลายเขตแดน ทุกแดนมีจ่าฝูงและลูกฝูง แถมหมาวัดยังมีหลายเกรด มีหมาหลวงพ่อ หมาหลวงพี่ หมาหน้าเมน หมาหน้าโบสถ์ รับรองได้ว่าถ้าคุณเอาหมาโตไปปล่อยมันก็จะต้องหนีไปอยู่ที่อื่นเพราะถูกหมาวัดไล่กัด แต่ถ้าคุณเอาหมาเด็กไปปล่อย มันอาจจะไม่หนีเพราะมันจะถูกกัดตายภายในไม่กี่นาที โชคดีอาจจะมุดกุฏิ หรือหลบอยู่ตามโพรงก็อาจจะอยู่ได้หลายวัน และอาจจะโชคดีมีพระหรือเณรช่วยเอาไว้ แต่ก็หวังยากเพราะพระและเณรในวัดมีสองพวก พวกแรกเป็นพระบวชประจำ กับพวกบวชตามฤดูกาลเป็นระยะเวลาสั้น ๆ พวกนี้ส่วนมากจะรักหมา แต่ก็ต้องสิกขาลาเพศออกไปตามกำหนดเวลา ส่วนพวกแรกพระประจำ พวกนี้บอกตามตรงว่าหวังพึ่งได้น้อยเพราะที่อยู่วัดเพราะไม่มีหนทางไปไหน ยกเว้นบางวัดอย่างวัดชลประทาน จะมีระบบเลี้ยงหมาค่อนข้างดี มีระเบียบ แต่วัดส่วนใหญ่ไม่มี วัดไหนถ้าเจ้าอาวาสรักหมาก็โชคดีไป ท่านก็จะออกกฎระเบียบให้พระลูกวัดดูแล แต่ก็อย่างว่าละครับ หมาวัดมีเยอะ ยุกยาอาหารก็มีจำกัด หมาวัดจึงมีเอกลักษณ์เป็นหมาวัด คือสกปรก เป็นขี้เรื้อนหนังกลับแทบจะทุกตัว
อย่างเจ้า Al วัดพระธาตุกู่สี่ขันธ์ตัวนี้ก็ขี้เรื้อนกินเหมือนกัน...
ถึงอย่างไร เป็น "หมาวัด" ก็ยังดีกว่าเป็นสุนัขรับใช้คนโกงชาติครับ!
No comments:
Post a Comment