Wednesday, December 18, 2013

การออกกำลังเพื่อสุขภาพ

ขอเปลี่ยนเป็นเรื่องของสุขภาพซะหน่อย วันนี้ผมหยิบหนังสือ "ทำอย่างไรชีวิตจะยืนยาวและมีความสุข" ฉบับพิสดาร ของ นายแพทย์เฉก ธนะสิริ มาอ่าน...



ในหน้า ๙๖-๙๗ กล่าวถึง "การออกกำลังเพื่อสุขภาพ" ว่ามีหลักการดังนี้ :-

  1. จะต้องเป็นการออกกำลังที่ทุก ๆ ส่วนของร่างกายได้รับความเคลื่อนไหว ยืดหด ไม่ใช่ว่าจะใช้อวัยวะส่วนหนึ่งส่วนใดมากเกินไป พยายามให้ทุก ๆ ส่วนได้ใช้พลังงาน
  2. จะต้องออกกำลังในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิ่งในผู้สูงอายุ ให้ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นทีละน้อย เพิ่มระยะเวลาให้นานเข้า และเพิ่มระยะทางขึ้นตามลำดับจนสภาพร่างกายอยู่ตัว มิฉะนั้นเข่าจะอักเสบ ออกกำลังติดต่อกันได้เป็นระยะเวลาอย่างน้อย ๒๕-๓๐ นาที หรือมากกว่านั้นก็ยิ่งดี แต่ระวังโปรดอย่าให้เกินกำลังของตน
  3. จะต้องออกกำลังโดยสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ ๔-๕ ครั้ง ถ้ามากกว่านั้นยิ่งทำทุกวันยิ่งดี
  4. ในขณะที่ออกกำลังอยู่นี้ ห้ามคิดถึงเรื่องการงานเป็นอันขาด ต้องปล่อยจิตให้ว่างอยู่เฉย ๆ....
  5. การออกกำลังเพื่อสุขภาพไม่มีการจำกัดอายุ เพศ และเวลา แต่ถ้าเป็นเวลาเช้าจะดีที่สุด จิตใจจะผ่องใสและได้รับอากาศที่บริสุทธิ์กว่า นอกจากนั้นยังได้รับแสงแดดในตอนเช้าซึ่งมีรัศมีอุลตราไวโอเล็ตอีกด้วย  ข้อควรระวัง - ห้ามออกกำลังกายภายหลังทานอาหารน้อยกว่า ๔ ชั่วโมง และในขณะที่ยังมีอาการเจ็บป่วยอยู่ 

ผมอ่านเจอในเว็บบอร์ด "คนรักจักรยาน"  นักปั่นท่านหนึ่งโพสต์ว่า...
ไปตรวจสุขภาพมา...ผลการตรวจเลือดไม่ดีนัก มีผลดังนี้
-น้ำตาล 136
-คลอเรสเตอรอล 280
-ไตรกรีเซอร์ไร 208
เป็นไปได้มั๊ยว่าผมกินของหวาน ๆ และอาหารพวกแป้งมากไป ปกติผมจะปั่นจักรยานวันละประมาณ 30-40 ก.ม. วันหยุดมีเวลาก็ปั่นประมาณ 60-100 ก.ม. ก็เลยมีความคิดว่าต้องโด้ปด้วยน้ำตาลถึงจะมีแรงปั่นได้ทันเพื่อน ๆ ก็เลยล่อแต่ของหวาน ๆ แล้วมันก็ชื่นใจจริง ๆ เวลาได้กินเข้าไป หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย ทีนี้เป็นปัญหาว่าหมอสั่งให้ควบคุมอาหาร ของหวาน ของมัน ของเค็ม ห้ามเด็ดขาด แล้วผมจะมีแรงปั่นหรือนี่ ผมจะทำอย่างไรดีถึงจะปั่นได้ไกล ๆ และเร็วทันเพื่อน ๆ ลืมบอกไปว่า อายุ 53 ปี น.น. 74 ก.ก. ส่วนสูง 178 ซ.ม.
ด้วยความเคารพ...ผมขออนุญาตคัดลอกมาลง อยากให้เป็นตัวอย่างในเรื่องการออกกำลัง การปั่นจักรยานก็เป็นวิธีการออกกำลังที่ดีของผู้สูงอายุ เท่าที่อ่านจัดได้ว่าผู้โพสต์เป็นผู้ที่ออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ น้ำหนักและความสูงก็ดูเหมาะสม ผลเลือดน่าจะสวยกว่านี้...

คงจะจริงอย่างที่ท่านบอกว่า ยิ่งปั่น ยิ่งเหนื่อย ก็ยิ่งโด้ปน้ำตาล น่าจะเป็นผลทำให้ระดับน้ำตาลและไขมันค่อนข้างสูงกว่าปกติ

ในเว็บ yourhealthyguide.com กล่าวว่า ระดับ triglycerides ต่ำกว่า 150 mg/dl = ค่าที่เหมาะสม
ส่วนระดับ total cholesterol  ต่ำกว่า 200 mg/dl = ระดับที่เหมาะสม,  200-239 mg/dl = คาบเส้น  และ สูงกว่า 240 mg/dl = สูงผิดปกติ

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูล)

นั่นแสดงว่าการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ ถ้ามากเกินไป แล้วทำให้ต้องกินเพิ่มเพื่อชดเชยกับความอ่อนล้าหิวโหย บางครั้งถ้าไม่สมดุล ก็อาจส่งผลเสียได้เหมือนกัน....

ผมเองยังไม่ได้ออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานอย่างสม่ำเสมอตามที่ได้สัญญาไว้กับตัวเอง เมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ได้รับการตรวจเลือดประจำปีแล้ว ได้ผลมาดังนี้...
Creatinine         0.9 mg/dl
Trigyceride    203 mg/dl
Uric Acid          7.7 mg/dl
Cholesterol    209 mg/dl
FBS                89 mg/dl
รอบเอวผมเพิ่มขึ้นอีก ๑ นิ้ว คุณหมอพรเทพเห็นพุงแล้วยิ้ม  แนะนำให้ผมลดน้ำหนักและลดพุงลงอีก บอกว่าถ้าทำได้...อะไร ๆ ก็จะดีขึ้น

ที่การาจี ประเทศปากีสถาน
ไม่อยากบอกเลยว่า...ลดยังไงก็ลดไม่ได้ แต่ถ้าได้แบกเป้ท่องโลก กลับมาเมื่อไหร่ น้ำหนักจะลดลงทันทีไม่ต่ำกว่า ๓-๔ กิโลกรัม

เป็นวิธีลดน้ำหนักของช่างเหอะ อิอิ ก่อนสิ้นปีนี้เห็นท่าจะต้องไปลดน้ำหนักสักหน่อย!

Tuesday, December 17, 2013

Snow in Sapa

เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ปีที่แล้ว ผมเมลสอบถามโรงแรมควีนส์ ที่เมืองซาปา ประเทศเวียดนามว่า.. "หิมะจะตกหรือเปล่า?" 


   

คุณ Hung Pham Viet (ผู้จัดการ) ตอบกลับมาว่า "....It is very rarely to see snow in Sapa"  ผมก็เลยตัดสินใจไม่ไปซาปา...แต่ไปวังเวียงแทน!  


วันนี้ผมคิดถึงเมืองที่อยู่ในม่านหมอก และโรงแรมที่มีเตาผิงไว้สำหรับอากาศหนาวจัด...


ตอนนี้ลำปางมีอากาศหนาวเย็น ผมได้ทราบข่าวว่าที่ซาปามีหิมะตก.... 


หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายงานว่า...
ปีนี้ชาวเวียดนามกับนักท่องเที่ยวทางตอนเหนือของประเทศได้ลุยหิมะกันอีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่อุณหภูมิลดต่ำลงถึงจุดเยือกแข็ง กลายเป็นปีหนาวเย็นมากที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี หิมะเริ่มตกโปรยปรายตั้งแต่ตอนเช้าตรู่วันอาทิตย์ ทั้งในเขตเมืองซาปา (Sap) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยม และบริเวณเขาฟานสิปาน (Fansipan) ที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลกว่า 3,100 เมตร และเป็นยอดเขาสูงที่สุดในประเทศ  
หิมะเกาะหนาตามท้องถนน บนหน้าผา ในหุบเขา ทับบนหลังคาบ้านเรือนราษฎรทั้งในเขต อ.ซาปา และ อ.บ๊าตสาต (Bat Xat) กับอีกหลายท้องถิ่นที่อยู่ห่างไกลของ จ.หล่าวกาย (Lao Cai) ที่อยู่ทางตอนเหนือสุดติดชายแดนมณฑลหยุนหนันของจีน 
หิมะทำให้การสัญจรไปมาระหว่างอำเภอเมืองหล่าวกาย กับ อ.ซาปา เป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากถนนที่เลื้อยคดเคี้ยววกวนไปตามไหล่เขามีหิมะปกคลุมถนน รถราลื่นไถล นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากต้องติดอยู่บนเขา หลายคนต้องเลื่อนกำหนดการอื่นๆ และอยู่ในซาปาต่อไปอีกสักระยะ....     
    


ผมเตรียมตัวไม่ทันครับ ไม่งั้นจะขอไปลุยหิมะกับเค้าซักหน่อย!!

Monday, December 16, 2013

เปลี่ยนบานประตู

ผมเคยเล่าว่าบานประตูตรงระเบียงชั้น ๒ และชั้น ๓ เป็นบานประตูไม้แท้แบบมีช่องกระจก มันดูสวยงามแต่ไม่ค่อยแน่นหนา ภาพนี้เป็นบานประตูของบ้านที่อยู่ติดกัน...


หลายเดือนมาแล้ว ผมได้ถอดเอาบานประตูดังกล่าวออก แล้วนำไปใส่แทนบานไม้อัดซึ่งอยู่ตรงทางขึ้นบันไดชั้น ๓


จากนั้นก็นำบานไม้อัดขึ้นไปใส่ตรงระเบียง  เป็นการใส่แก้ขัดไปก่อน ในช่วงที่ยังไม่มีบานประตูที่ดีกว่านี้..


จนกระทั่งผมได้บานประตู Doric มาจากร้านอิวหลี  (ดังที่ได้เขียนไว้ใน "ถูกอย่างเปอะ")


ช่วงเวลา ๔ วันที่ผ่านมา ผมง่วนอยู่กับเรื่องของบานประตูและหน้าต่าง  วันนี้เพิ่งจะเสร็จ ทุกอย่างดูเข้าที่เข้าทางแล้ว ก็เลยอยากนำภาพมาให้เพื่อน ๆ ได้ดู...


ถอดบานประตูไม้อัดที่ระเบียงชั้น ๓ ออก แล้วใส่แทนด้วยบาน Doric ซึ่งมีลายไม้อยู่ด้านใน  ดูสวยงามแล้ว...ไม่ต้องทาสีทับ


แต่ด้านนอก ผมต้องทาด้วยสีน้ำมันสีขาว ๒ รอบ


ก่อนลงสี ผมต้องใช้เวลาแต่งบานประตูเป็นชั่วโมง ๆ กว่าจะทำให้เข้ากับวงกบได้  บานประตูมีขนาดมาตรฐาน (80 x 200 ซม.) แต่วงกบแคบกว่าเยอะ... งานนี้เหนื่อยครับ!

จากนั้นผมก็เปลี่ยนบานประตูระเบียงห้องพี่ชาย...


เปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว แต่บานนี้ไม่สวยเหมือนบานชั้น ๓


ต้องทาสีขาวทับ ๒ รอบ...


สีแห้งแล้วค่อยใส่กลอนและมือจับ...


ด้านนอกก็ต้องทาสี ๒ รอบเช่นเดียวกัน รวมทั้งขอบหน้าต่างด้วย...


ต่อจากนั้นผมก็นำบานที่เปลี่ยนออก ไปใส่ตรงบันไดขึ้นชั้น ๒


เป็นการติดตั้งบานประตู ก่อนที่จะมีวงกบ  (อีกแย้ว... อิอิ)

Sunday, December 15, 2013

ซ่อมประตูดาดฟ้า...


การซ่อมแซมของเก่าใหักลับมาใช้งานได้ดีนั้นยากและต้องใช้เวลามากกว่าการติดตั้งของใหม่... 

อย่างเช่นการลง Windows ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ถ้าเป็นเครื่องใหม่ ดีวีดีรอมตัวใหม่  ฮาร์ดดิสก์ใหม่ ทุกอย่างใหม่หมด การติดตั้งก็จะราบรื่น ไม่มีปัญหาให้ต้องปวดหมองเหมือนกับในเครื่องเก่า ๆ ที่มีซีดีรอมอ่านได้บ้างไม่ได้บ้าง หรือฮาร์ดดิสก์มี bad section 


งานไม้ก็เหมือนกัน ประตูดาดฟ้าที่บ้านห้างฉัตรเป็นประตูไม้จริงที่ถูกตีคลุมไว้ด้วยแผ่นสังกะสีเพื่อกันฝน ตอนผมมาอยู่ใหม่ ๆ ผมก็เห็นแล้วว่าบานมีขนาดแคบลง ปิดแล้วเห็นช่องว่างระหว่างขอบประตูกับวงกบอย่างชัดเจน นอกจากนั้นมันยังไม่แข็งแรง คลอนไปมาคล้ายกับคนฟันโยก..จะหลุดออกจากเหงือกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้!

ได้เวลาที่จะต้องลงมือซ่อมแล้วครับ ก่อนอื่นต้องเอาบานพับเก่าออกก่อน ผมใช้ไขควงแบนตัวใหญ่งัดออกได้อย่างง่ายดาย...


เค้าใส่บานพับไว้แค่ ๓ ตัว เป็นอย่างบางซะด้วย...


ไม่แข็งแรงพอ!  ผมต้องใส่เพิ่มอีก ๑ ตัว ซื้อบานพับซื้อ ๑ แถม ๑ (อย่างหนา) จากห้างไทวัสดุมาเตรียมไว้แล้ว...


หันไปดูบานพับประตูข้างบ้านซึ่งอยู่ติดกัน จะเห็นว่าติดไว้อย่างไม่ถูกต้อง ไม่แน่นหนา ถ้าอย่างงั้น...แค่ใช้ไขควงแบนตัวใหญ่ ๆ งัดไม่กี่ทีก็หลุดแล้ว! 


ไม่ได้ครับ...ของผมต้องทำให้แข็งแรงกว่านั้น!  

นอกจากจะเปลี่ยนบานพับใหม่ ๔ ตัวแล้ว ผมยังเสริมวงกบด้วยไม้ระแนงบาง ๆ ให้มีช่องว่างระหว่างขอบประตูและวงกบน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้...


หลังจากติดตั้งบานประตู ผมก็เปลี่ยนกลอนไปเป็นแบบกลอนประตูเหล็ก...


ใส่มัน ๒ ตัวเลย เสริมด้วยกลอนธรรมดาที่ขอบบนอีก ๑ ตัว...


เรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้แน่นหนากว่าเดิมเยอะเลย!

Saturday, December 14, 2013

ประโยชน์ของตะแกรงร่อนทราย

ผมตากกล้วยมาได้หลายวันแล้ว...แต่ก็ยังไม่โอ เนื่องจากแดดไม่จัด คิดว่าคงต้องตากอีกสัก ๒ แดด... 


เดินทางไปลาวเมื่อปีกลาย ผมพก "กล้วยตาก" ไปด้วย จำได้ว่ากล้วยตากลูกสุดท้ายไปหมดในที่พักเมืองอุดมไชย.... 


ทำให้ได้กินยาหลังอาหาร ก่อนที่จะขึ้นรถไปเดียนเบียนฟู


วันนี้ผมตากกล้วยอีก...แสดงว่าการเดินทางท่องโลกกำลังใกล้เข้ามา   

บนดาดฟ้า...แม้แมลงวันบางตัวอาจบินขึ้นมาไม่ไหว แต่ก็มีนกกลุ่มหนึ่งแวะเวียน มากินพริกขี้หนูสุกที่ผมปลูกไว้... 


ช่างเหอะแก้ไขปัญหาด้วยการนำเอาตะแกรงร่อนทรายที่มีอยู่ มาใช้ให้เป็นประโยชน์ ดังที่เห็นในภาพ...


ฉีดน้ำล้างให้สะอาดก่อนที่จะนำมาใช้งานนะครับ...

Friday, December 13, 2013

ตำรา country fiddle

วันนี้ "ศุกร์ ๑๓" หรือ Friday 13th ผมมีงานรออยู่ ต้องทำประตูบ้าน ๓ บานให้เสร็จ สามารถล็อคได้อย่างแน่นหนา เพื่อเตรียมไว้สำหรับการเดินทางท่องโลกในช่วงปลายปีที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้... 


ไม่ใช่งานง่าย!  เพราะบานประตูเล็กเกิน ผมต้องเสริมวงกบ ต้องใส่กลอนให้เข้ากับรูสลักที่มีอยู่แล้ว ต้องคว้าน ต้องเจาะ ต้องขันสกรูเข้าออก จนปวดข้อ หนังลอก เกิดแผลถลอก  ทำเรื่องประตูมาแล้ว ๒ วันเต็ม วันนี้ยังต้องทำต่อ  ผมต้องให้แล้วเสร็จก่อนตะวันตกดิน  (ไม่งั้นมองไม่เห็น อิอิ)

เคยรับปากคุณแชมป์ว่าจะหาตำราเล่นไวโอลินแนว country ให้ วันนี้ผมขอนำตำรา Anyone Can Play Country Fiddle ของ Mel Bay มาให้ก่อน ๑ เล่ม เพื่อน ๆ ที่ชอบการสีไวโอลินแนวนี้ก็ดาวน์โหลดไปฝึกได้


คลิกเพื่อดาวน์โหลดได้ ที่นี่ 


ความจริงมีคลิปวิดีโอประกอบด้วย แต่ไฟล์มันใหญ่เกินไป ผมต้องแปลงให้ขนาดเล็กลงเสียก่อน เพื่อดาวน์โหลดได้ง่ายขึ้น สามารถนำใส่ไว้ใน sd card เปิดดูบน smart phone ได้ ขอเวลาหน่อยนะ... 


งานรัดตัวจริง ๆ ฮับ...

Thursday, December 12, 2013

Travel Myanmar by Land

ในอดีต...การเดินทางไปเที่ยวประเทศพม่าต้องบินไปอย่างเดียว!  ส่วนการเข้าพม่าทางท่าขี้เหล็กหรือแม่สอดก็เป็นเพียงแค่เข้าไปเยี่ยมชมพื้นที่บริเวณนั้นแบบเช้าไปเย็นกลับเท่านั้น นักเดินทางจะแบกเป้เดินทางลุยต่อไปยังเมืองอื่นไม่ได้โดยเด็ดขาด


ครั้งแรกที่ผมไปพม่า เค้ากำหนดเวลาให้อยู่ได้แค่ ๗ วันเท่านั้น...


ไปครั้งที่ ๒ สามารถอยู่ได้ ๑๔ วันแต่ผมอยู่แค่ ๗ วัน  จะไปครั้งที่ ๓ เดือนเมษายนปีหน้านี้ ผมจองตั๋ว Air Asia ไว้แล้ว จะบินจากดอนเมืองไปมัณฑะเลย์ คราวนี้ผมขออยู่ให้ครบ ๒ อาทิตย์เลย กะว่าจะไปเยี่ยมเยียนคนรู้จักเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต...


วันนี้มีข่าวดีมาแจ้งให้เพื่อน ๆ ทราบว่า นักท่องเที่ยวที่มีหนังสือเดินทางสามารถเดินทางเข้าออกพม่าทางบกได้แล้ว กล่าวคือ ไม่ต้องบินไปก็ได้

ขออนุญาตนำข่าวจาก "คมชัดลึก" มาให้อ่านด้วยดังนี้
                 คึกคัก!พม่าเปิดใช้วีซ่าที่ด่านพรมแดน  'รมว.ความมั่นคงและชายแดน' รัฐฉาน ประเทศพม่า เผยนักท่องเที่ยวสามารถทำวีซ่าผ่านแดนเข้า-ออกพม่าได้ ชี้เดินทางกลับได้ในทุกช่องทาง
                 28 ส.ค.56 ทางการพม่าจัดให้มีพิธีเปิดการใช้หนังสือเดินทางระหว่างประเทศและวีซ่าไทย-พม่า ขึ้น โดยมี พ.อ.อ่องดู่ รมว.ความมั่นคงและชายแดน รัฐฉาน ประเทศพม่า เดินทางไปเป็นประธานในพิธีพร้อมได้นำกล่าวชี้แจงเรื่องการอนุญาตประชาชนทั้งสองประเทศ และชาวต่างชาติที่จะสามารถเดินทางเข้าและออกผ่านด่านพรมแดนดังกล่าวได้โดยสะดวกในอนาคต จากนั้น พ.อ.อ่องดู่ และอูชายบ่งติ้น รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมืองเชียงตุง กรมตรวจคนเข้าเมือง ได้ร่วมกันติดริบบิ้นเปิดพิธีบริเวณกลางสะพานข้ามลำน้ำสาย โดยมีภาครัฐและเอกชนของทั้งฝั่งพม่าและฝั่งไทยเดินทางไปร่วมเป็นเกียรติเป็นจำนวนมาก...
                สำหรับการใช้พาสปอร์ตและวีซ่าดังกล่าวจะไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ โดยเมื่อไปถึงชายแดนสามารถยื่นพาสปอร์ตแล้วจะดำเนินการนำไปตรวจสอบหรืออ่านสกรีนพร้อมบันทึกภาพบุคคลด้วยกล้องอัตโนมัติส่งข้อมูลเข้าไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ เสร็จแล้วบันทึกข้อมูลเก็บไว้ก่อนจะตีตราอนุญาตให้เข้าสู่ประเทศพม่าได้ ซึ่งผู้ยื่นสามารถเดินทางไปยังทุกแห่งในพื้นที่ที่ได้รับการอนุญาตและยังสามารถเดินทางกลับออกมาได้ในทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็นที่สนามบินย่างกุ้ง ช่องทางชายแดนมูเซ-จีน ช่องทางเมียวดี ฯลฯ ได้ด้วย...
radio.prd.go.th ก็รายงานข่าวดีเช่นกันว่า...
ทางการพม่าที่ จ.เมียวดี เปิดให้บริการทำวีซ่าให้คนเข้า-ออก ผ่านด่านพรมแดนเชื่อม อ.แม่สอด จ.ตาก ได้แล้ว ทำให้ผู้มีหนังสือเดินทาง และมีวีซ่าเข้าเมือง สามารถเดินทางเข้าหรือออก ได้ตามกระบวนการสากล คาดปูทางเปิด วีซ่าขาเข้า ที่ออกให้ตามด่านถาวร ไม่ต้องไปขอที่สถานทูตพม่า ได้ภายในสิ้นปีนี้

เช้าวันนี้ ( 28 ส.ค.56) ที่บริเวณเชิงสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ฝั่งจังหวัดเมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ทางการพม่าได้จัดพิธีเปิดให้บริการตรวจลงตราวีซ่าที่ด่านพรมแดนเมียวดีเป็นครั้งแรก โดยมีพลจัตวาขิ่นยี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมือง และนายอูเทอ่อง รัฐมนตรีการท่องเที่ยวและกีฬา ของพม่า เป็นประธานในพิธี ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐและเอกชนของ อ.แม่สอด จ.ตาก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีดังกล่าวด้วย

นายปรีชา ใจเพชร นายอำเภอแม่สอด กล่าวว่า การเปิดให้บริการวีซ่าของพม่าในครั้งนี้ ถือเป็นประวัติศาสตร์ เพราะเดิมการเดินทางเข้าพม่าผ่านทางชายแดน ของชาวต่างชาติหรือผู้ที่ไม่มีหนังสือเดินทางระหว่างประเทศ จะทำไม่ได้เลย แต่หลังพม่าเปิดประเทศมากขึ้น ทางการพม่าได้พัฒนาระบบการเข้าออกชายแดนใหม่ นำมาสู่การเปิดให้บริการวีซ่าที่เมียวดีเป็นครั้งแรก และยังจะมีด่านพรมแดนอื่นๆ ในพม่า ที่เชื่อมกับประเทศไทยรวม 6 จุด ที่เปิดให้บริการในลักษณะเดียวกันด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้มีหนังสือเดินทางและมีวีซ่าเข้าเมือง สามารถเดินทางเข้าหรือออก ณ ด่านชายแดนของพม่าได้ตามกระบวนการสากล รวมทั้งสามารถเดินทางกลับทางด่านชายแดน ด่านใดด่านหนึ่งใน 6 ด่านชายแดนของพม่าได้ ไม่เหมือนในอดีต ที่หากเดินทางเข้าทางด่านชายแดนไหน จะต้องเดินทางกลับทางด่านนั้นเป็นต้น
หมายความว่า...ต่อจากนี้เพื่อน ๆ จะเข้าประเทศพม่าทางท่าขี้เหล็ก นั่งรถไปตองยี แล้วไปเที่ยวต่อที่ทะเลสาบอินเลเหมือนที่ผมไปพม่าครั้งที่แล้วก็ได้ หรือจะเข้าทางด่านแม่สอด ไปมะละแหม่ง แล้วลุยไปถึงย่างกุ้งก็เป็นได้...


wikitravel.org อัพเดทข้อมูลใหม่แล้วว่า...
By land - Situation has changed since the 28th of August 2013, it is now possible to enter Myanmar freely by land from at least 3 Thai/Myanmar border crossings, Mai Sai, Mai Sot and Ranong,and travel into the country see Myanmar Geneva Thai Border Some extra paperwork may have to be filled out before getting onto the buses.
Hopping across the Thai border into Myanmar's border towns is easy, but crossing into or out of Myanmar proper by land is becoming much easier and will get more streamlined the more often it is done. Visa-free entry is possible at some border crossings, but you must then exit Myanmar via the same border crossing, usually (but not always) on the same day that you enter, and fees apply (normally US$10).
ถ้าเพื่อน ๆ สนใจก็เตรียมตัวแบกเป้ไปเที่ยวพม่าได้เลย แต่ถ้าจะปั่นจักรยานเข้าไป...ผมยังไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่?

วันนี้ผมเขียนเรื่องท่องเที่ยวอีกแล้ว งานช่างเหอะก็เลยไม่ได้นำมาคุย(ไม้)!

Wednesday, December 11, 2013

สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ๔

ภาพจากเว็บ manager.co.th

สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ ๔ เชื่อมต่อระหว่างอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย กับบ้านห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป. ลาว เปิดแล้วครับ...

วันนี้ Manager Online รายงานข่าวว่า...
๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 เชื่อมระหว่าง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย กับ เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และทรงเปิดนิทรรศการเชื่อมสัมพันธ์สองแผ่นดิน ณ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย
ต่อไปคนที่จะปั่นจักรยานไปเที่ยวลาว จีน หรือเวียดนาม ก็ไม่ต้องนำจักรยานใส่เรือข้ามโขงอีกแล้ว สามารถขี่ข้ามสะพานได้เลย เหมือนกับที่ผมเคยขี่ผ่านสะพานเชื่อมระหว่างไทยกับมาเลเซีย

ภาพจาก FB บขส.
บขส. เป็นเสือปืนไว  พรุ่งนี้เค้าจะเปิดเดินรถเป็นปฐมฤกษ์จากเขียงรายไปบ้านห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.๒ เที่ยว คือ ๑๐.๐๐ น. และ ๑๕.๓๐ น. และตั้งแต่มะรืนนี้ จะให้บริการวันละ ๔ เที่ยว คือ ๐๖.๐๐ น. ๐๙.๐๐ น. ๑๒.๓๐ น และ ๑๕.๓๐ น. ระยะทาง ๑๖๖ กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง ๔ ชั่วโมง ค่าโดยสารคนละ ๒๒๐ บาท.....

นอกจากนั้น บขส. ก็ยังเดินรถจากเชียงใหม่ไปหลวงพระบาง  วันละ ๑ เที่ยว รถออกเวลา ๙ โมงเช้า ใช้เวลาวิ่ง ๑๘ ชั่วโมง ค่าโดยสาร ๑,๒๐๐ บาท  เพื่อน ๆ จะนั่งจากเชียงใหม่ไปลงหลวงน้ำทาก็ได้ ค่าโดยสาร ๗๗๕ บาท

สำหรับรถเมล์เขียว หรือ green bus นั้น ผมก็แอบคิดไว้ในใจว่า วิ่งข้ามสะพานได้แล้ว ต่อไปคงไม่ต้องเปลี่ยนรถ วิ่งคันเดียวจากเชียงใหม่ไปหลวงพระบางได้เลย  แต่ไม่รู้ว่าค่าโดยสาร่จะยังคงเป็นคนละ ๑,๕๐๐ บาทอยู่หรือเปล่า?

ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติม ผมจะนำมารายงานให้ทราบอีกนะครับ...

Tuesday, December 10, 2013

ตำราเปียโนง่ายสุด ๆ

 วันนี้มีตำราเปียโนง่ายสุด ๆ มาให้ดาวน์โหลดฮับ...


ตำรา ๓๔ หน้า เหมาะสำหรับเด็กเล็กอนุบาล ๒-๓ เป็นภาษาสเปน แต่ใช้ได้ครับ ไม่มีปัญหา สามารถคลิกดาวน์โหลดได้ ที่นี่ 

คุณสุทัศน์ช่วยดาวน์โหลดแล้วพิมพ์ให้เจ้าตัวเล็กด้วยเน้อ...

Monday, December 09, 2013

อยากทำเค้าเตอร์...


เย็นวันนี้ คุณพ่อของน้องเมเปิลได้กรุณาช่วยขนไม้จากบ้านคุณแม่ครูหนิงมาให้ผมที่บ้านห้างฉัตร....  ผมรู้สึกดีใจมาก ๆ  ด้วยไม้เก่าจำนวนนี้ คงจะใช้ทำอะไรได้อีกเยอะ!

ผมฝันอยากจะสร้าง workshop ไว้บนดาดฟ้า กะให้เป็นที่ทำงานสารพัดอย่าง (ตามประสาช่างเหอะ)...


อยากทำเค้าเตอร์สวย ๆ ไว้ที่ชั้นล่างด้วยล่ะ  คิดว่าน่าจะไม่ยากจนเกินไป เพราะผมเคยมีประสบการณ์จากการทำเค้าเตอร์ที่บ้านปงแสนทองมาแล้ว ข้าวของที่ใช้ตกแต่งก็ยังคงหลงเหลืออยู่บ้าง...

ขอนำภาพมาให้ดูบานนึง เพื่อน ๆ ลองดูเค้าเตอร์ที่อยู่ด้านหลังนะครับ...


อ่อ...ผมเคยเขียนเกี่ยวกับเรื่องการออกแบบ Counter Bar ด้วยนะ....


วันนี้รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของชายหลายคนที่ช่วยขนไม้จำนวนไม่น้อยมาให้ถึงที่บ้านจนเหงื่อท่วมตัว.... 

ขอขอบพระคุณทุกคน ด้วยความจริงใจครับ!