Friday, November 29, 2013

ถูกอย่างเปอะ!

ปัจจุบันนี้ประตูไม้สักขนาด ๘๐ x ๒๐๐ ซม. สวย ๆ ตกราคาบานละหลายพันบาท...  


วันก่อนผมขี่จักรยานยนต์แวะไปหาคุณแอ้มที่ร้านอิวหลี ตั้งใจจะสอบถามถึงนักเรียนไวโอลิน โชคดีเหลือเกินที่เป็นช่วงงาน "อิวหลีแฟร์" จัดจำหน่ายสินค้าลดราคาประจำปี  คุณแอ้มบอกว่ามีบานประตู Doric (มือสอง) จำหน่ายในราคาถูก...


บานประตู Doric ถึงแม้จะมิได้เป็นบานไม้แท้ แต่ก็เป็นบานแผ่นใยไม้อัดแข็งซึ่งมีความทนทานแข็งแรงกว่าบานประตูไม้อัดธรรมดาราคา ๖-๗ ร้อยบาท ผมกำลังมองหาบานประตูเพื่อนำไปเปลี่ยนเจ้าบานตรงระเบียงอยู่พอดี  เคยไปดูที่ Global House เห็นบานไม้แบบเป็นแผ่น ๆ ตีประกอบเข้าด้วยกันคล้ายบานประตูครัวสมัยก่อน วางขายในราคาบานละ ๑,๔๐๐ บาท อยากได้อยู่เหมือนกันแต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ เพราะไม่รู้ว่าจะขนกลับบ้านได้ยังไง

พอมาเจอบาน Doric... บานทึบราคาบานละ ๓๐๐ บาท!! ผู้นิยมของถูกอย่างผมถึงกับตาลุก!!  คิดในใจว่า "ถูกอย่างเปอะ!"   อย่างเนี้ยไม่ซื้อไม่ได้แล้ว!!


"อิวหลี" ใจดีจังเลย วันนี้กรุณานำสินค้ามาส่งให้ถึงที่บ้านห้างฉัตร ต้องขอขอบคุณ...


เมื่อใหร่จะมีของถูกอย่างเปอะอีก คุณแอ้มช่วยบอกด้วยเน้อ...

Thursday, November 28, 2013

ไม้เก่า

เย็นวันนี้ ผมมีโอกาสได้ไปดูไม้เก่าที่บ้านคุณแม่ครูหนิงซึ่งอยู่ซอย ๗ ถนนลำปาง-แจ้ห่ม... 


มีไม้อยู่ ๓ กอง ๆ อยู่กับดิน อย่างที่ครูหนิงได้ส่งภาพให้ผมดูก่อนล่วงหน้าแล้ว เห็นแล้วก็อยากได้มาทำอะไรเล่นแก้กลุ้ม เพื่อมิให้ต้องนั่งอยู่กับ rocking chair เหมือนคนแก่บางคน!




เกิดความคิดในการปรับปรุงบ้านที่ห้างฉัตรหลายชิ้นงานด้วยกัน  ๒-๓ ปีต่อนี้ไป..ผมน่าจะมีอะไรให้ทำได้อย่างต่อเนื่อง บล็อกช่างเหอะของลุงน้ำชาก็จะได้ไม่เงียบเหงา

ไม้เก่า ๆ อย่างนี้ ผมหามานานแล้วครับ!

Wednesday, November 27, 2013

กล้องถ่ายวิดีโอ

ผมว่าจะเขียนถึงคุณอรรถสิทธิ์มานานแล้ว ตั้งแต่ได้รับน้ำใจจากชายคนนี้... 


ปัจจุบันนี้ social network ทำให้คนเราได้พบกันและมีโอกาสได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันทั้ง ๆ ที่ไม่เคยได้พบหน้ากันมาก่อน บางครั้งได้เห็นเพียงแค่รูป หรือติดต่อกันทางอีเมล แต่ผมก็รู้ได้ว่าเขาเป็นกัลยาณมิตรคนหนึ่ง วันนี้ผมขออนุญาตนำภาพจาก Google+ ของคุณอรรถสิทธิ์มาลง แต่ไม่บอกว่าชายรูปหล่อคนนี้ทำงานที่ไหน และรู้จักกับลุงน้ำชาได้อย่างไร เพียงแต่จะเขียนถึงสิ่งที่คุณอรรถสิทธิ์ได้มอบให้...

หลังจากที่ได้รู้จักเป็นเพื่อนในโลกไซเบอร์มาพักนึง คุณอรรถสิทธิ์ก็บอกผมว่ามีพัดลมดูดอากาศอย่างดีจะมอบให้  ด้วยความซาบซึ้ง..ผมได้ตอบไปว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้พัดลมดังกล่าว  ต่อมาคุณอรรถสิทธิ์ก็เสนอที่จะมอบกล้องถ่ายวิดีโอไว้ให้ผมได้ใช้สำหรับงานสอน หรืออะไรก็ตามที่มีประโยชน์ต่อผู้อื่นอีก  ถึงตอนนี้ผมคิดถึงชั้นลอยที่ใช้เป็นที่สอนเด็ก ๆ และเป็นที่ฝึกซ้อมของวงดนตรี 60+  ขึ้นมาทันที!  วาดภาพว่าถ้าติดตั้งกล้องถ่ายวิดีโอไว้ แล้วเปิดบันทึกการเรียนการสอน ตลอดจนการฝึกซ้อมไปเรื่อย ๆ เป็นชั่วโมง จากนั้นก็นำไฟล์มาตัดต่อ เก็บส่วนที่ดี ๆ มีประโยชน์ ทำเป็นคลิปแล้วนำขึ้นโพสต์  (ไม่ประสงค์จะโอ้อวด แต่เพื่อผู้สนใจจะได้นำไปศึกษา) ผมจึงตอบรับน้ำใจจากคุณอรรถสิทธิ์ด้วยความยินดียิ่ง  

คุณอรรถสิทธิ์กรุณาส่งกล้องมาให้อย่างรวดเร็วทาง EMS  ผมได้รับไว้ตั้งนานแล้ว...


นี่ไงครับ... กล้องที่คุณอรรถสิทธิ์มอบให้  Handycam ยี่ห้อ Sony สภาพใหม่พร้อมแบตเตอรี่ซึ่งเก็บไฟได้ดีเยี่ยม!!


ทุกอย่างทำงานปกติ  กล้องถ่ายชัดเจน ซูมได้ไกล.... 


ผมทดลองถ่ายภาพนิ่ง ปรากฏว่าใช้งานได้ดี แม้จะซูมสุด ๆ  แต่พอจะถ่ายภาพเคลื่อนไหว เจ้าเครื่องก็บอกผมให้ผมใส่ตลับเทปเสียก่อน  ผมต้องหันไปศึกษาเพิ่มเติมจากคู่มือซึ่งดาวน์โหลดได้จากอินเทอร์เน็ต ทราบว่าต้องใช้ตลับเทปวิดีโอแบบมินิใส่ไว้ใน compartment ที่เห็นในภาพ ซึ่งจะต้องเบา ๆ มือมาก ๆ อย่าดันเข้าไป แค่งับฝาลง...มันก็ค่อย ๆ เลื่อนกลับเข้าไปเอง!


เป็นเรื่องใหม่ที่ผมต้องศึกษาอีกมาก ทั้งในเรื่องการใช้งานและการถ่ายภาพยนต์ ผมยังไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน  ตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้ทดลองใช้บันทึกภาพการบรรเลงของเด็ก ๆ เพราะยังไม่รู้ว่าจะหาซื้อเจ้าตลับเทปที่ว่าจากที่ไหน เอาไว้หาซื้อได้แล้ว..ผมจะเล่าให้ฟังอีกนะครับ

วันนี้ต้องขอขอบพระคุณคุณอรรถสิทธิ์อีกครั้ง

Monday, November 25, 2013

Seven Golden Men (1965)


หลายปีมาแล้ว คุณเดชได้ส่งหนังเก่ามาให้ผมดูหลายเรื่อง หนึ่งในจำนวนนั้นคือเรื่อง Seven Golden Man (1965)... 


คนอย่างผมไม่ถนัดในเรื่องการไปเสาะแสวงหาหนังดี ๆ มาดู  ได้แต่อาศัยเพื่อน ๆ บางคนช่วยแนะนำหรือส่งมาให้ดู อย่างเช่น คุณเดช คุณเมธี คุณบิม และคุณหวาน (ลูกศิษย์ไวโอลิน) หรือไม่บางครั้งผมก็อาศัยความช่วยเหลือจากอากู๋ google...

คุณเดชผู้เป็นทั้งนักเขียน นักวาด และนักดนตรี  มักจะเขียนบันทึกสั้น ๆ แนบมาพร้อมกับแผ่นดีวีดีเสมอ มันช่วยให้ผมได้อรรถรสในการชมภาพยนต์เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว...

อย่างเช่น ภาพยนต์เรื่อง Seven Golden Men คุณเดชก็เขียนบอกผมว่า...
ผมชอบหนังเกี่ยวกับการวางแผนโจรกรรมธนาคาร (ไม่ใช่การโพกหน้าถือปืนเข้าปล้นทื่อ ๆ) เพราะถือว่ามันเป็นปฏิบัติการที่สุนทรประนีต ละเอียด แม่นยำ หมดจด ไม่โฉ่งฉ่าง ไม่มีเบาะแสร่องรอย การเบี่ยงเบนความสนใจ การวางพล็อตและเขียนบทต้องท้าทาย สมเหตุสมผล อธิบายได้ และสนุกเร้าใจ
ผมยังนึกถึงหนังปี 2508 ที่เคยดูตอนเด็ก ๆ จำชื่อตัวแสดงได้ Phillippe Leroy และยังนึกถึงบางฉากบางตอนได้ แต่ผมจำชื่อเรื่องไม่ได้ พยายาม search หาหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ จนวันหนึ่งไปนั่งคุยฟื้นความหลังเรื่องหนังกับเพื่อนแฟนหนังวัยเด็กด้วยกัน เขาเป็นคนมีความจำดีมาก (เป็น expert ด้านเอสวิส จำชื่อหนังชื่ออัลบั้มได้ทุกเรื่องทุกคนเสิร์ต) เขาให้เบาะแสว่าชื่อมันคลับคล้ายว่า golden อะไรสักอย่าง ผมก็เลยใช้ keyword ตัวนี้ไปค้น
จนในที่สุดก็เจอจนได้อย่างไม่คาดฝัน เป็นหนังอิตาเลียน+ฝรั่งเศส-สเปน ชื่อเดิม Sette uomini d'oro (1965) เลยทำให้การค้นหาในภาษาอังกฤษไม่เจอ ไม่มีซับแต่ยังดูรู้เรื่องและสนุก ไม่เชยไม่ล้าสมัยทั้งที่เป็นหนังเกือบ 50 ปีมาแล้ว สมัยที่ไม่มีมือถือ ไม่มีกล้องวงจรปิด...
ขอบคุณมาก ๆ ที่ช่วยให้ผมมีหนังดี ๆ อยู่ไม่ขาดระยะ!

Sunday, November 24, 2013

ใบสำคัญรับรองการฉีดวัคซีนระหว่างประเทศ



(International Certificate of Vaccination) เป็นเอกสารจำเป็นที่นักท่องเที่ยวต้องพกพาควบคู่ไปกับหนังสือเดินทาง (Passport) ข้อบังคับนี้เป็นเรื่องในอดีต เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว...

เพื่อน ๆ นักเดินทางซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่อาจจะยังไม่เคยเห็นใบสำคัญรับรองการฉีดวัคซีนระหว่างประเทศดังกล่าว วันนี้จึงอยากสแกนมาให้ได้ดู...






เว็บ siamhealth.net  อธิบายเกี่ยวกับไข้ไทฟอยด์ไว้ว่า...
เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า Salmonella Typhi และ  และ Samonella paratyphi เชื้อนี้จะอยู่ในน้ำและอาหาร หากการสาธารณะสุขดีการระบาดของเชื้อนี้จะลดลง  คนจะรับเชื้อนี้จากการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อโรค คนที่เป็นโรคจะขับถ่ายเชื้ออกทางอุจาระ เชื้อนี้อาจจะปนเปื้อนในน้ำตามธรรมชาติ หรืออาจจะปนเปื้อนอาหาร ผู้ป่วยบางคนจะมีเชื้อในร่างกายที่เรียก carrier ซึ่งสามารถขับเชื้อออกสิ่งแวดล้อมได้ตลอดเวลาโดยที่ไม่มีอาการเมื่อคนได้รับเชื้อ เชื้อจะเข้าสู่ลำไส้ ต่อมน้ำเหลือง ตับ ม้าม โดยทางกระแสเลือด  หลังจากได้รับเชื้อนี้ ๑-๒ สัปดาห์ผู้ป่วยจะเริ่มเกิดอาการเบื่ออาหาร ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดตามตัว มีไข้สูงไข้จะสูงขึ้นเรื่อยๆสูงได้ถึง 40.5 องศาโดยไข้จะคงที่หลังจากเกิดไข้แล้ว ๗ วัน มีอาการท้องร่วง บางรายอาจจะมีผื่นขึ้นตามตัว บางรายอาจจะมีอาการแน่นท้อง หากไม่รักษาผู้ป่วยบางรายหายเองได้ใน ๓-๔  สัปดาห์
ปัจจุบันนี้เค้าไม่กลัวไข้ไทฟอยด์ และไม่ต้องใช้ใบสำคัญรับรองการฉีดวัคซีนระหว่างประเทศ แล้วครับ!

Saturday, November 23, 2013

ขอเกี่ยวประตูม้วน...

วันนี้ "อินดี้" มาเรียนไวโอลินเวลา ๑๐.๐๐ น. - ๑๑.๐๐ น. เป็นนักเรียนคนเดียวที่ยังเหลืออยู่ (ไม่นับเมเปิลและน้องชาย)... 


ในเรื่องการเล่นไวโอลิน เมื่อนักเรียนไม่ประสงค์จะทำตาม ด้วยการจับเครื่องมืออย่างถูกต้อง หรือลากเสียงให้ยาวครบตามอัตราตัวโน้ตที่กำหนด ผมก็ไม่บังคับหรือเข้มงวด  ยึดแต่เพียงว่าถ้านักเรียนบรรเลงแล้วมีความสุขก็เป็นอันว่าใช้ได้...

จบชั่วโมง ผมเดินลงไปส่งนักเรียนที่หน้าบ้าน! 


พอจะปิดประตู อ้าว...ประตูเหล็กดันม้วนขึ้นไปจนหมด เอื้อมก็ไม่ถึง ผมดึงลงมาปิดไม่ได้!!  ความจริงแล้ว บ้านที่มีประตูม้วนจะต้องมีเหล็กตะขอวางไว้ใกล้ ๆ เพื่อใช้ดึงประตูลง 


เมื่อย้ายจากบ้านปงแสนทองมาอยู่ที่นี่ ผมพบว่าไม่มีเหล็กตะขอดังกล่าวไว้ให้ใช้! โชคดีที่มีเจ้า weed killer ซึ่งเพิ่งจะเขียนถึงอยู่ใกล้มือ...


ผมนำมาใช้แทนได้เลย...

Friday, November 22, 2013

แฟร้งก์ฝืด!

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผมไปตั้งสายเปียโนหลังหนึ่ง เป็นเปียโนอัพไรท์ยี่ห้อ Yamaha...


ก่อนลงมือตั้งสาย พบว่ามีค้อนตัวหนึ่งค้างอยู่...


เมื่อค้อนตีไปข้างหน้าแล้วไม่กลับลงมา โน้ตตัวนั้นก็จะเล่นไม่ดังอีก จำเป็นต้องแก้ไข ก่อนที่จะตั้งเสียง งานนี้ผมต้องยก action ออกมาซ่อมข้างนอก...


ยกออกมาแล้ว หาที่วางให้ดี ค่อย ๆ ใช้ไขควงปากแบนขันสกรู ถอดตัวค้อน (เสียง E) ที่มีปัญหาออกมาอย่างเบามือ  ผมถอดตัวข้าง ๆ (Eb) ออกด้วยเพื่อให้ทำงานได้สะดวกขึ้น...







เจ้าชุดหัวค้อนจะประกอบด้วยกลไกชิ้นหนึ่งมีชื่อว่า flange 


เพื่อน ๆ จะเห็นว่ามี pin หรือเข็มทองเหลืองสอดอยู่ โดยมีสักหลาดแดงรองรับ มีเชือกคล้องอยู่กับสปริง อาการค้าง (ค้อนไม่ถอยกลับเข้าที่) นั้นเกิดได้หลายสาเหตุ อาทิ เชือกขาดหรือหลุด, สปริงหัก, pin คด,  เกิดความฝืด, สักหลาดบวม ลองถอดออกมาดูเถอะ...จะว่ามันฝืดเพราะอะไร? 


สำหรับเปียโนของคุณอารีย์หลังนี้ก็มีเจ้า flange ตัวนี้ตัวเดียวเท่านั้นที่มีปัญหา เชือกก็ไม่ชาด สปริงก็ไม่หลุด แต่ขยับไปมาไม่คล่อง ปัญหาอยู่ที่ความฝืดระหว่าง pin (เข็มทองเหลือง) และสักหลาดสีแดง ต้องใช้เจ้าเครื่องมือปลายแหลมที่เห็นนี้...


ค่อย ๆ ดัน pin ออกมานิดนึง เสกคาถาแล้วเป่าพรวด (อย่าให้น้ำลายกระเด็นใส่) ดัน pin กลับแล้วขยับไปมา  ทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ความฝืดหายไป  (อิอิ)  เรียบร้อยแล้วก็ประกอบชุดค้อนทั้ง ๒ ชุดกลับเข้าที่  นั่นไง...ค้อนไม่ค้างแล้ว!!


ซ่อมเสร็จก็ลงมือตั้งสายได้เลย...

หุหุ แฟร้งก์ฝืด ไม่ใช่ แฟรงก์เฟิร์ต เมืองที่ร่ำรวยที่สุดในกลุ่มสหภาพยุโรปนะครับ

Thursday, November 21, 2013

weed killer

ผมมีเพื่อนคนหนึ่งนามสกุล "แซ่ด่าน" เคยเรียนช่างไฟฟ้าที่วิทยาลัยเทคนิคภาพพายัพ (เทคนิคตีนดอย) ร่วมกับผมเป็นเวลา ๑ ปี แล้วลาออกไปเป็นพ่อค้า 

ผู้คนที่บ้านจังหวัดลำพูนเรียกเสี่ยหรือพ่อเลี้ยงคนนี้ว่า "โกส่าย"  เขาไม่ต้องเรียนสูง แต่หันไปประกอบสัมมาอาชีพจนกลายเป็นผู้มีอันจะกินได้ในเวลาไม่นาน...


"โกส่าย" เป็นคนเก่งและมีความคิดสรรสร้าง เคยมอบสิ่งประดิษฐ์ชิ้นหนึ่งให้ผม มีลักษณะดังนี้...


close up ให้ดูตรงปลายด้วย...


ผมเรียกเจ้าตัวนี้ว่า "Weed Killer"  เพราะโกส่ายทำขึ้นมาเพื่อใช้กำจัดวัชพืชนั่นเอง  ด้วยขนาดเหมาะมือและมีน้ำหนักเบา...เจ้าด้ามไม้ที่มีหัวโลหะลักษณะคล้ายตะขอ สามารถใช้เกี่่ยวพวกหญ้าและวัชพืชต่าง ๆ ซึ่งอยู่บนพื้นดินออกได้อย่างง่ายดาย  เป็นเครื่องมือสำหรับผู้สูงวัยที่จะเดินออกกำลังแล้วใช้เจ้า weed killer เกาะเกี่ยวกำจัดวัชพืชไปด้วย...   

ผมทดลองใช้แล้วได้ผลดีมากครับ....

Tuesday, November 19, 2013

หมุนมือที่วัดพระธาตุลำปางหลวง...

เมื่อวานนี้ ผมเล่าเรื่องการทดลองใช้เลนส์มือหมุน Tokina 60-300 mm กับกล้อง Nikon D50 ถ่ายภาพที่วัดลำปางกลาง...  



จากวัดลำปางกลาง (1) ผมเดินทางต่อไปยังวัดพระธาตุลำปางหลวง (3)....    



วันนี้อยากจะนำภาพที่ได้จากการหมุนมือที่วัดพระธาตุลำปางหลวงมาให้เพื่อน ๆ ดูสักหน่อย



ทดลองซูมไกลสุดเลนส์ สามารถเห็นได้ในรายละเอียดของยอดฉัตรทองคำ!!





ซุ้มพระบาท...


เจ้ามือหมุนมีน้ำหนักนะ  เวลาซูมไกลสุด มันไม่นิ่ง!   ผมคงต้องใช้เวลาฝึกอีกมาก หรือไม่ก็ต้องหันไปใช้ขาตั้งกล้องซึ่งไม่ค่อยชอบเอาซะเลย  อย่างไรก็ตามผมคิดว่าการใช้เลนส์ซูมทำให้เรามีโอกาสถ่ายภาพเพื่อเก็บรายละเอียดได้สะดวกสบายขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย ยกตัวอย่างเช่น เจ้าตูบที่วิหารหลวง...


แทบจะมองเห็นเห็บ อิอิ


ส่วนเจ้ากระทงที่ยังหลงทางอยู่ในสระน้ำหน้าวัด อยู่ไกล ๆ ก็จับภาพได้...


ผมนั่งอยู่จุดเดียว สามารถหมุนมือเลือกถ่ายภาพได้หลายรูปแบบ หลายตำแหน่ง...



ภาพเหล่านี้ ไม่ต้องย้ายก้นออกจากที่นั่งเลยนะครับ...




นอกจากภาพนี้...


หมุนมือไม่ไหวแล้วฮับ กลับบ้านดีฝ่า!