Sunday, May 31, 2015

ตัดกระจกบานเกล็ด

วันนี้ว่าด้วยเรื่องของการเก็บของเก่ามาใช้....อีกแย้วววว!!


ตั้งวงกบตรงระเบียงชั้นลอยเสร็จ ผมก็ติดรางบานเกล็ด จากนั้นก็เที่ยวหากระจกบานเกล็ดเก่า ๆ ไปทั่ว ทั้งที่มีวางขวางตาและหลบหน้า ได้มาประมาณ ๔๐ กว่าแผ่น  พอสำหรับหน้าต่าง ๔ บาน  ปัญหาอยู่ตรงที่ว่ากระจกแต่ละแผ่นนั้นยาวไปสำหรับบานหน้าต่างที่จะนำไปใส่ ผมต้องตัดให้พอดีก่อนนำไปใช้


ก่อนอื่นต้องเตรียมเครื่องมือดังต่อไปนี้...
  • ฉากเหล็ก
  • ดินสอหรือปากกาเมจิก
  • ที่ตัดกระจก
  • น้ำมันสนพร้อมพู่กัน
  • แท่นรอง

พร้อมแล้วก็ลงมือตัดได้เลย...


ขีดเส้นด้วยดินสอหรือปากกา...


ใช้ฉากเหล็กทาบแล้วใช้พู่กันจุ่มน้ำมันสน...


นำมาทากระจก บริเวณที่จะตัด...


จากนั้นเลื่อนฉากไปทางซ้ายนิดนึง นำมีดตัดกระจกมาทาบเหล็กฉาก กรีดลากไปบนกระจกเสียงดัง "แกร๊ดดดดด" เป็นเส้นตรง.... 


ต้องขออภัยที่มีดตัดกระจกในภาพไม่มีด้าม (ผมทำหัก)  ต้องจับเฉพาะส่วนหัวแล้วกรีด...


จากนั้นก็เลื่อนแผ่นกระจกมาวางให้รอยกรีดอยู่ตรงขอบแท่นรอง เอาฉากเหล็กทาบแล้วใช้นิ้วโป้งทั้งสองมือกดให้สนิท (ทุ่มน้ำหนักตัวลงไปด้วย)  แน่ใจแล้วก็ใช้ปลายนิ้วมือขวาที่เหลือกดลงไปตรงปลายแผ่นกระจก ไม่ต้องแรงนัก เสียงดัง "แป๊ก"....กระจกก็ขาดออกจากกัน


แต่ละแผ่นใช้เวลาไม่นาน ผมตัดแล้วเดินเอาไปใส่ทีละแผ่น ค่อย ๆ ทำไป ไม่นานกระจกเก่าที่มีอยู่ก็ถูกตัดจนหมด...


ยังขาดอยู่อีกประมาณ ๒๐ แผ่น! 

Saturday, May 30, 2015

Analog vs Digital

ทุกวันนี้ดาวน์โหลดหนังจากเว็บ YTS - HD movies at the smallest file size  ได้มาวันละ ๔-๕ เรื่อง  ส่วนใหญ่เป็นหนังใหม่ ผมเลือกเปิดดูเฉพาะที่เห็นว่าน่าจะพอดูได้ ที่เหลือก็เก็บไว้จนเต็มพื้นที่บนฮาร์ดดิสก์


เว็บ YTS (แนะนำอีกครั้ง) มีไฟล์ให้เลือกโหลด ๒ ขนาดคือ 720p และ 1080p  ขนาดผมเลือกไฟล์ขนาดเล็กแล้ว ก็ยังไม่มีที่ให้เก็บ  ถ้าเป็นตอนมีรายได้...ผมคงจะควักกระเป๋าซื้อ HDD ขนาด 2 TB อีกซักตัวสำหรับเก็บหนังไว้ดูเพลิน ๆ  ตอนชีวิตเดินไปไหนไม่ได้แล้ว

วันนี้ผมอยากถ่ายภาพกล่องวิดีโอ (แต่ละม้วนบรรจุหนัง ๑ เรื่อง) มาให้เพื่อน ๆ ได้ย้อนอดีต...


เจ้าวิดีโอที่เห็นมีอยู่ทั้งหมด ๑๒ เรื่อง ผมนำเอาออกมาจากลังกระดาษขนาดเกือบเท่าลังนม แล้วเพื่อน ๆ ลองดูเจ้า micro SD card ที่วางอยู่บนปลายปากกานั่นดิ!  ขนาด 64 GB สามารถเก็บไฟล์ภาพยนต์ (720p) ที่ดาวน์โหลดมาได้มากถึง ๘๐ เรื่อง แทบไม่น่าเชื่อเลยนะครับ!

ผมโชคดีที่เกิดมาได้เห็นความแตกต่างระหว่างระบบ analog กับ digital อย่างเต็มตาเช่นนี้!

Thursday, May 28, 2015

Nasi Goreng Kampung

มีศูนย์อาหารอยู่ใกล้ ๆ กับสถานีขนส่งบาลิง  มื้อเย็นวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๘ ผมก็ไปฝากท้องไว้ที่นั่น... 


ผมชอบตรงที่ว่ามีรายการอาหารพร้อมราคาให้เราเลือกกิน พูดง่าย ๆ ที่เห็นก็คือเมนู "อาหารตามสั่ง" นั่นเอง ผมจำคำแปลได้ไม่กี่คำ รู้เอาไว้เพื่อสั่งอาหารให้กินได้  Ayam คือ "ไก่" อย่าง Nasi Ayam หรือ "ข้าวมันไก่" เป็นของต้องห้าม ส่วน Bakso คือ "ลูกชิ้น" ก็อย่าได้สั่ง เพราะทำจากเนื้อสัตว์ ถ้าเป็น Udang ก็พอเข้าใจว่าคือ "กุ้ง"


"Nasi Goreng" คือ "ข้าวผัด" เค้ามีให้เลือกมากมายหลายอย่าง ทั้งข้าวผัดกุ้ง ข้าวผัดไก่ ตลอดจนข้าวผัดอเมริกัน   ด้วยความอยากรู้อยากเห็น...ผมลองสั่ง Nasi Goreng Kampung เพราะคำว่า Kampung เหมือนจะติดหู รู้สึกว่าจะหมายถึงหมู่บ้านอะไรทำนองนี้ ผมคิดไปถึง "หมู่บ้านชาวประมง" ที่เห็นตอนที่ปั่นจักรยานจากสิงคโปร์กลับไทย เดาเอาว่าอาจจะเป็น "ข้าวผัดทะเล" เหมือนบ้านเราก็ได้!  มาแล้วครับ....


ผิดคาด...ดูแปลก ๆ นะ ไม่เคยกินข้าวผัดอย่างเนี้ย รู้สึกว่าจะมีหอมเจียวด้วย


ลองตักเข้าปาก เคี้ยวยากหน่อย กลืนฝืดคอ หรือว่ามีปลาแห้งตัวเล็ก ๆ อยู่ด้วย?


อืมมมม์.... ข้าวผัดจานนี้พอกินได้ครับ ถ้าอยู่ที่บ้านผมก็จะพูดว่า "ดีกว่ากินกระดาษหน่อยนึง!.."  จานละ RM 4.00 หรือ ๓๕ บาท...ทำให้อิ่มท้องได้เหมือนกัน

ถึงอย่างไรก็ดีกว่าข้าวผัดเวียดนาม!

Wednesday, May 27, 2015

อย่าได้ท้อแท้

เช้าวันนี้ มีข่าวรถทัวร์เบรกแตกพุ่งลงดอยพระบาทชนรถนักเรียนและบ้านเรือนพังยับ พี่ชายฟังวิทยุแล้วตะโกนบอกว่ามีนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๔ ด้วย ผมเปิดเน็ตดูภาพข่าวแล้วเศร้าใจยิ่งนัก!



ภาพจาก manager online
รู้สึกเวทนาผู้ประสบภัยเหลือเกิน คิดว่าถ้าเป็นพ่อเป็นแม่ ใจคงปิ่มว่าจะขาด...เมื่อเห็นภาพลูกตัวเอง เด็กเหล่านั้นตื่นแต่เช้าเพื่อไปโรงเรียนด้วยความสดชื่นแจ่มใส ใครจะรู้ว่าต้องมาเป็นเช่นนี้!

ผมเคยถูกจ้างให้ไปสอนที่โรงเรียนเทศบาล ๕ หลายเดือน ทำให้ได้รู้จักเด็กชั้นประถมในโรงเรียนเทศบาล บางคนยังจำชื่อได้ ถ้าหลับตาก็พอมองเห็นภาพรอยยิ้มของเด็กน่ารักเหล่านั้น....
เห็นภาพเด็กหญิงที่นอนอยู่ ๒ คน คนนึงไม่ไหวติง อีกคนขาขวาเละเต็มไปด้วยเลือด ใบหน้าแสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนโรงเรียนไหน ผมก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น! 

เมืองไทยมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงเหลือเกิน คิดว่าการพัฒนาได้เดินมาอย่างผิดทาง ประเทศมีงบประมาณในการสร้างถนนหนทาง แต่ไม่สร้างวินัยในการใช้รถใช้ถนนให้ดีตาม ผลคือเคราะห์ร้ายที่เกิดกับผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่...

บ่ายวันนี้ผมตรงไปโรงพยาบาลลำปาง...


ผมไม่ได้บริจาคเลือดมานานแล้ว เนื่องจากอายุเกิน ๖๐ แต่วันนี้ได้ยินประกาศต้องการเลือดกรุ๊ป O ด่วน ผมคิดว่าเลือดคนแก่ ๆ อาจพอช่วยได้!


พบว่าที่หน้าห้องมีคนมากมาย ทั้งบรรดาทหารเกณฑ์ที่ถูกส่งมาจากค่ายฯ และคนหนุ่มคนสาวผู้มีน้ำใจ ทุกคนไปรอให้เลือดด้วยปรารถนาที่จะช่วย...


ผมดีใจเมื่อเห็นภาพที่ปรากฏเบื้องหน้า ตาแก่จากห้างฉัตรต้องขอตัวกลับก่อนนะ  คนมากจริง ๆ รอไม่ไหวจ้า!


ได้แต่ภาวนาให้ผู้บาดเจ็บทุกคนหายไว ๆ  มีข่าวว่าเด็กนักเรียนคนหนึ่งต้องถูกตัดขา ผมขอให้พระเจ้าประทานกำลังใจให้เธอต่อสู้ต่อไป!

หนูจ๋า...อย่าท้อแท้นะ ชีวิตยังมีอะไรสดใสรออยู่ข้างหน้าอีกเยอะ!  สู้ ๆ

Saturday, May 23, 2015

ซ่อมการ์ดจอคอมพิวเตอร์

ว่างเว้นจากการเขียนบล็อก "ช่างเหอะ" ซะนาน ผมรู้สึกอายที่จะแก้ตัวว่าคอมพิวเตอร์เสีย ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมก็กลับมาเขียนย้อนหลังเพื่อเติมเต็ม วันนี้เริ่มด้วยเรื่องการซ่อมการ์ดจอคอมพิวเตอร์ก่อนเลยนะ!

อาการเสียของเจ้า PC ของผมคือเกิดอาการแฮ้งค์ ทีแรกผมคิดว่าแรมพัง ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าไม่ใช่  พอดี hard disk มี bad sector ก็เลยไปโทษว่าเป็นเพราะ hard disk  แต่ในที่สุดผมก็เจอสาเหตุที่แท้จริง


การ์ดจอมีปัญหาครับ เป็นการ์ดยี่ห้อ HIS pci-e 512 MB ที่ผมซื้อมาใช้งานได้ ๕-๖ ปีเแล้ว พัดลม ระบายความร้อนมีรอยแตกตรงกลางใบพัด...


 เมื่อใบพัดทำงานไม่ปกติ ความร้อนของการ์ดจอก็ขึ้นสูง จนก่อปัญหาให้กับส่วนอื่น... 

  
ผมผิดเองที่ไม่เคยถอดการ์ดจอออกมาทำความสะอาดเลย ฝุ่นมากขนาดนั้น ถ้าผมถอดออกมาดูแล หยอดน้ำมันหล่อลื่นซะหน่อย มันก็คงไม่เสีย...


การ์ดจอเสียก็ทำอะไรต่อไม่ได้ เนื่องจากไม่มี VGA on board ผมต้องซ่อมหรือไม่ก็ซื้อตัวใหม่ จำได้ว่าตอนนั้นซื้อมาจาก advice ในราคาพันกว่า ปัจจุบันนี้สามารถหาซื้อการ์ดจอขนาดเดียวกันได้ในราคา ๖-๗ ร้อยบาท แต่ผมก็ไม่อยากเสียตังค์ ขอชุบชีวิตให้มันดีกว่า!

ไปค้นกล่องสัมภารกเจอการ์ดจอ VGA slot ซึ่งเสียแล้วเข้าพอดี มี heat sink และพัดลมติดอยู่ ถอดเอามาใช้น่าจะได้ ลองวางทาบดูแล้วเกือบจะพอดี ต้องใช้ตะไบแต่งคลีบอลูมิเนียมออกเพียงนิดหน่อย....


สามารถใช้รูล็อคที่มีอยู่แล้วอย่างพอเหมาะพอเจาะ...


หลังจากติด heat sink ผมก็ต่อสายไฟให้พัดลม แล้วนำการ์ดใส่กลับเพื่อทดลอง ปรากฏว่าใช้ได้ครับ พัดลมหมุน เครื่องทำงานตามปกติ แต่ทว่าความร้อนยังคงขึ้นสูง ผมแหย่นิ้วเข้าไปสัมผัสกับแผง รู้สึกว่าร้อนจี๋  คิดว่าถ้าขืนใช้ต่อ..พอความร้อนเกินพิกัด เครื่องก็จะแฮ้งค์หรือเกิดอาการจอฟ้าอีก!  ต้องอาศัยวิชา "ช่างเหอะ" อีกแย้ว ผมไปซื้อซิลิโคนสำหรับทา CPU หรือ Thermal Compound จากร้านคอมพ์ฯ ใกล้บ้านมา ๑ หลอด (๓๕ บาท)


ฉีดใส่ค่อนข้างหนักมือ จากนั้นก็นำ heat sink มาวางให้พอดีทีเดียว จัดการล็อคทันทีโดยไม่ให้ขยับหรือดึงออก


จากนั้นก็นำการ์ดไปใส่ slot เปิดเครื่องทดลองอีกครั้ง....


เปิดเครื่องใช้งานครึ่งค่อนวัน...ความร้อนก็ไม่ขึ้นสูง ลองเอานิ้วเข้าไปแตะตรงจุดเดิม พบว่าแค่อุ่น ๆ เท่านั้น! ความร้อนของการ์ดจอถูกระบายได้ดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ!

ตอนนี้คอมพิวเตอร์ของผมใช้งานได้ตามปกติแล้วครับ

Friday, May 22, 2015

ห้างฉัตร-กรุงเทพ

พ.ร.บ. ผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ กำหนดให้รถ บขส. ลดราคาค่าโดยสารให้ผู้สูงวัยครึ่งนึง (ไม่รวมค่าธรรมเนียม)  ทำให้ผมเลือกที่จะนั่งรถ ปอ. ๒ ของ บขส. อยู่บ่อยครั้ง!

เวลาที่เหลืออยู่ในช่วงบั้นปลายชีวิต ผมอยากนั่งรถ ปอ.๒ ไปลงหมอชิตแล้วต่อรถไปเที่ยวต่างจังหวัด แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าผมจะไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งลำปางซึ่งอยู่ห่างจากบ้านถึง ๑๐ กว่ากิโลเมตรได้อย่างไร?  วันนี้มีคำตอบซึ่งแก้ปัญหาได้แล้ว เมื่อไปพบที่จำหน่ายตั๋วรถ บขส. 99 อยู่ตรงข้ามกับตลาดห้างฉัตร!


มีรถไปกรุงเทพฯ เพียงวันละ ๑ เที่ยว เป็นรถ ปอ.๒ ตามที่ต้องการพอดี ผมสามารถจองตั๋วโดยใช้สิทธิ์ผู้สูงวัยได้ที่นั่น


คนขายตั๋วบอกว่า รถจากเชียงใหม่จะแวะไปรับเวลาทุ่มครึ่ง ผมสามารถนั่งไปลงที่สถานีขนส่งหมอชิตแล้วต่อรถไปที่ไหนก็ได้ที่อยากไป

มีทางเลือกใหม่ ๆ ให้อีกแย้ว!

Thursday, May 21, 2015

อย่าเลือกใช้สีราคาถูก

วันที่ ๖ มิถุนายนที่จะถึงนี้...ก็จะครบ ๒ ปีที่ได้ย้ายมาอยู่บ้านห้างฉัตร ห้องดนตรีบริเวณระเบียงชั้นลอยก็ยังไม่แล้วเสร็จซักที ดูเหมือน"ช่างเหอะ"จะอืดอาดเป็นเรือเกลือมาโดยตลอด!


เกิดขยันขึ้นมา...วานนี้ผมหยิบแปรงทาสีลงไปขยับงานต่อ เปิดฝากระป๋องสีน้ำมันสีเขียวยี่ห้อปลาทองออกมาใช้


อยากแนะนำว่า ถ้าเป็นไปได้...เพื่อน ๆ อย่าซื้อสีพวกนี้มาใช้นะครับ ราคากระป๋องละ ๓๒๐ บาท มันถูกก็จริง แต่ใช้งานแล้วไม่เป็นที่น่าพอใจ ปริมาณสีก็ไม่เต็มเหมือนสียี่ห้อดี ๆ แถมเนื้อสีไม่ข้นซะอีก (หุหุ ความจริงผมก็ไม่กล้าซื้อสีดี ๆ มาใช้เพราะมันแพง แต่พูดได้ว่ามันดี ก็เพราะเคยใช้สี superCote ที่คุณแอ้มให้มา พอเปิดฝาออกมาก็เห็นว่ามีสีเนื้อเข้มข้นอยู่เต็ม เวลาทายิ่งรู้สึกได้)

ไหน ๆ ก็ซื้อมาแล้ว... ผมเริ่มใช้ด้วยการทาเหล็กโครงหลังคาที่ยื่นออกไป



เสร็จแล้วก็หิ้วกระป๋องสีขึ้นไปบนดาดฟ้า ใช้มือลูบบานประตูห้อง workshop ซึ่งทาด้วยสีอย่างดี เห็นว่ายังคงสดใสอยู่เหมือนเดิม!


ผมลองใช้สีปลาทองทาผนังระเบียง รู้ทันทีว่าไม่ได้เรื่อง...


 ถ้าเป็นงานสี เพื่อน ๆ ต้องใช้ของดีหน่อยนะครับ!

Wednesday, May 20, 2015

คิดถึงคุณไพสิทธิ์

ทุกวันนี้ในลำปางมีโรงเรียนสอนเครื่องสายเพิ่มขึ้น ผมแอบหวังว่าต่อไปคงมีมือไวโอลินใหม่ ๆ มากขึ้น มือเชลโลก็จะหาได้ไม่ยากอีกต่อไป ในขณะเดียวกันก็หันมามองตัวเอง ไม่รู้ว่าเป็นคนสอนเครื่องสายมาได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่จับไวโอลินก็เฉพาะตอนที่สอนนักเรียนเท่านั้น เมือถึงระดับยาก ผมต้องปล่อยให้นักเรียนทำเอง หุหุ สิ่งที่กำลังทำอยู่คงไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็น "การสอน" อีกต่อไป!  

 

ผมยังมีนักเรียนไวโอลินเหลืออยู่ ๒ คนคือ"อินดี้และเมเปิ้ล" ซึ่งตอนนี้ก้าวข้ามจากเล่ม ๔ ไปเล่นเพลงในตำราซูซูกิเล่ม ๕  ผมไม่ได้หวังว่าทั้งสองคนจะจับไวโอลินอย่างถูกต้องสวยงาม เพราะมันเลยขั้นตอนของการแก้ไขไปแล้ว แต่อยากให้ได้ศึกษาการเล่นที่แตกต่างออกไป อยากเสริมให้รู้ทฤษฎีดนตรี และสามารถบรรเลงร่วมกันได้อย่างไม่แข็งกระด้างหรือปราศจากอารมณ์ เท่านั้นก็พอแล้ว!!

ประกาศสอนฟรีก็ไม่เห็นมีใครมาเรียนเพิ่ม คงสิ้นแล้วสำหรับความหวังที่จะมีวงเครื่องสายของเด็ก ๆ สักวงหนึ่ง! (น่าจะไปอยู่กับ Tony ที่สุมาตรา อินโดนีเซีย...อิอิ)

วันนี้คิดถึงคุณไพสิทธิ์ ต้องขอขอบพระคุณที่มอบไวโอลิน handmade เสียงดีมาให้ผมได้ใช้ เพราะไวโอลินคันนี้ ทำให้ผมมีกำลังใจที่จะสอนต่อไป!

Tuesday, May 12, 2015

วินาทีแห่งความเป็นความตาย

เมื่อ ๕ ปีก่อนผมเขียนเรื่อง"รถต๋ำกั๋น" เล่าว่า..."ถนนดี ๆ ที่หน้าบ้านผม เดี๋ยวก็มีเสียงโครม แล้วตามมาด้วยภาพคนเจ็บลงไปนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นคอนกรีต!!"



เพื่อน ๆ ที่รักครับ การใช้รถใช้ถนนในบ้านเรานั้นอันตรายจริง ๆ แค่ช่วงวันหยุดติดต่อกันหลาย ๆ วันอย่างช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็มีคนตายบนท้องถนนนับร้อย!  นักปั่นจักรยานอยู่ริมทางก็ยังโดนคนเมาขับรถยนต์ชนตายอย่างอเนจอนาถ

เช้าวันนี้บนทางหลวงหมายเลข 11 เชียงใหม่-ลำปาง ข้างหน้าบ้านผมก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีก...


ปกติแล้วทุก ๆ เช้าจะมีลุงคนหนึ่งเดินข้ามถนนมาจากสถานีตำรวจ หลายคนมองด้วยความเป็นห่วงเพราะรถยนต์ที่วิ่งผ่านแล่นเร็วมาก บริเวณนั้นนับเป็นจุดอันตรายสำหรับผู้ที่จะเดิมข้ามถนนไปมา! วันนี้นับเป็นโชคร้ายของคุณลุง ผมเห็นแกโดนรถปิคอัพชน...นอนแน่นิ่งอยู่กลางถนน!!


จากระเบียงชั้นสาม ผมถ่ายภาพวินาทีแห่งความเป็นความตายมาเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน...


นานแค่ไหนกว่ารถพยาบาลจะมาถึง?  ไม่นานนัก...ผมเห็นรถอาสาสมัครกู้ภัยเทศบาลวิ่งมาจอดแล้วลงมือช่วยเหลือทันที


มันเป็นวินาทีแห่งความเป็นความตายจริง ๆ 




 



หลังการปฐมพยาบาลก็นำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ผมภาวนาขออย่าให้คุณลุงเป็นอะไรมากเลย!