เงินประมาณ ๑ หมื่นบาทเป็นงบเดินทางก็คงพอจัดสรรได้ครับ ผมคิดเสียว่า...กลับมาแล้วค่อยโหมทำงานใช้หนี้ก็ได้ จะรอให้ขายบ้านได้เสียก่อนแล้วค่อยไป...คิดว่าไม่ดีแน่! เพื่อน ๆ มาให้กำลังใจกันหน่อยเด้อ ช่วยแนะนำด้วยว่าผมควรไปไหนดี? เอาแค่ ๒ อาทิตย์พอครับ แล้วต้องไม่ติดปีกด้วยนะ!
คราวก่อนผมเดินทางโดยรถไฟไปยังสิงคโปร์ ใช้เวลา ๒ สัปดาห์ หมดเงินไป ๙ พันบาท (รวมค่าของฝากด้วย) มาครั้งนี้มีงบประมาณและระยะเวลาพอ ๆ กัน..ผมจะเลือกไปไหนดี? ไปลาวเหนือ...แล้วหาทางลุยต่อไปให้ถึงฮานอยหรือดานังดีไหมเอ่ย?
หรือว่าไปขอดูงานในโรงเรียนประถมบ้านนอกของลาวดีไหม?
อยากได้ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศลาวจาก Lonely Planet (มี ๓๙ หน้า) สามารถคลิกโหลดได้ ที่นี่ ครับ
ที่แอบคิดหวังไว้ในใจ คืออยากแอบปั่นจักรยานจากสุไหงโก-ลก ไปสิงคโปร์โดยใช้เส้นทางฝั่งตะวันออกของมาเลเซีย ซึ่งมิใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ การปั่นแค่วันละ ๖๐-๗๐ กิโลเมตร..แล้วพักเที่ยวตามจุดต่าง ๆ ทางชายฝั่งด้านตะวันออกของมาเลเซียแบบไม่เร่งรีบนั้น ไม่หนักหนาสาหัสเกินไปสำหรับผู้สูงวัยที่ใจถึง!
เพียงแต่ว่า trip จักรยานจะต้องจัดหาอุปกรณ์และใช้เวลาเตรียมตัวมากกว่านี้...
ผมก็เลยคิดถึงลาวเหนือและเวียดนามแทน! อืมมม...ถ้าไปเช่นนั้น ผมควรต้องนำเต็นท์ติดตัวไปด้วย เราไม่หรอกรู้ว่าวันใดอาจมีความจำเป็นต้องตั้งเต็นท์พักแรมที่ไหนสักแห่งหนึ่งบนหนทางอันยาวไกล! มีไปด้วยก็ใช่ว่าจะลำบากยากเย็นอะไร!
เต็นท์ของผมอายุพอ ๆ กับถุงนอนเลยครับ ป้า Alice ส่งมาให้จากแคนาดา..เมื่อ ๒๐ ปีเห็นจะได้! ทุกวันนี้ก็ยังอยู่ในสภาพดี พร้อมที่จะนำออกลุยได้ทุกเวลา ผมลองนำมันมาผูกติดกับเป้ให้เพื่อน ๆ ได้เห็นดังนี้...
ถ้าไปค้างแรมในอุทยานแห่งชาติหรือตามรีสอร์ทต่าง ๆ การตั้งเต็นท์นอนจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก ทำให้ได้อยู่กับธรรมชาติและใช้ชีวิตด้วยความเรียบง่าย อย่างเช่น ที่ผมไปตั้งเต็นท์นอนในไร่หญ้ารีสอร์ท ร่วมกับคณะครูและนักเรียนโรงเรียนลำปางกัลยาณีเมื่อ ๔ ปีที่แล้ว...
สรุปแล้ว แบกเป้ครั้งนี้...ผมน่าจะนำเต็นท์ติดตัวไปด้วย
เพื่อน ๆ เห็นด้วยมั้ยครับ?
No comments:
Post a Comment