Saturday, August 31, 2013

ลูกศิษย์รุ่นเล็กกับรุ่นใหญ่


บ่ายวันนี้น้องเมเปิลมาเรียนไวโอลินไม่ต้องขึ้นชั้นลอย เพราะผมเปลี่ยนให้ไปเรียนที่ชั้นล่าง ต้องย้ายเปียโนก่อนที่จะเริ่มบทเรียน...ผมได้ผู้ปกครองช่วย  แต่ก็เล่นซะเหงื่อตก!!


เมเปิลเล่นเพลง Humoresque ของ Dvorak ได้จบแล้ว แต่ก็ยังต้องซ้อมอีกมาก เพื่อให้ไพเราะ จัดว่าเป็นนักเรียนไวโอลินรุ่นเล็กที่ขยันขันแข็งเป็นพิเศษ...

อย่างที่เคยบอกว่า ผมย้ายเข้ามาอยู่บ้านห้างฉัตรด้วยฤกษ์ดี  จึงมีแต่ผู้คนแวะมาเยี่ยมเยียน  ค่ำวันนี้ก็มีลูกศิษย์อีกคนหนึ่งขับ Honda สีแดงแวะมาหา...


เป็นลูกศิษย์รุ่นใหญ่ชื่อ"เก่งกวี"


ตั้งใจมาเยี่ยมเยียนโดยมีชาและกาแฟติดมือมาฝาก ช่างมีน้ำใจแท้  ขอบคุณมากครับ...


ศิษย์รุ่นใหญ่นำไวโอลินที่เพิ่งซื้อใหม่ในราคา ๖,๕๐๐ บาทมาให้ดูด้วย....



สีซอจีนให้ฟังอีก...


สองทุ่มกว่า...ครูเก่งขับรถออกไปแล้ว บอกกับผมว่าพรุ่งนี้จะต้องเดินทางกลับดอยแม่สะลอง ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ!


ผมรู้สึกดีใจที่วันนี้มีทั้งลูกศิษย์รุ่นเล็กและรุ่นใหญ่มาบรรเลงเพลงที่บ้าน!

Friday, August 30, 2013

แขวนรูป...


ผมย้ายมาอยู่ห้างฉัตรได้ ๓ เดือนแล้ว ยังจัดบ้านไม่เรียบร้อยเลย ช้าเป็นเรือเกลือก็ว่าได้...


วันนี้ผมต้องวางมือจากงานสี  ลงไปติดรูปภาพ...ก่อนที่มันจะเสียไปซะก่อน!!


ผมใช้ตะปูตอกคอนกรีตตัวเล็กตอก...


แล้วนำภาพขึ้นแขวน...



ใช้วิธีการง่าย ๆ ช่วยจับ เพื่อหาตำแหน่งที่จะตอกตะปู....



ใช้เครื่องมือง่าย ๆ คือ ระดับน้ำตัวเล็กก็พอแล้ว....


หลังจากนั้นผมก็ติดรูปคีตกวีไว้บนผนังด้านข้างเปียโน...




ทำแล้ว...ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสอยู่ได้อีกสักกี่ปี  อิอิ !!

Monday, August 26, 2013

Travellin' light ไปพม่า - เตรียมกระเป๋า

เดือนเมษายนปีหน้าโน่น กว่าการเดินทางแบบเบาตัวไปพม่าของผมจะได้เริ่มขึ้น แต่ก็อยากจะเตรียมตัวไปเรื่อย ๆ  เพราะมันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เดินทาง! 

เมื่อวันที่ ๗ สิงหาฯ ที่ผ่านมา ผมได้เขียนเกี่ยวกับขนาดของกระเป๋าที่สามารถนำขึ้นเครื่อง Air Asia ไว้ใน "backpack สำหรับ travellin' light"  


บ่ายวันนี้บุรุษไปรษณีย์ขี่แมงกะไซค์นำพัสดุมาส่งให้อีก ๑ กล่อง ผมรู้ดีว่าข้างในมีอะไรอยู่!  มันคือกระเป๋าที่ผมจะใช้สำหรับการเดินทาง Travellin' light ไปพม่า  เนื่องจากสัมภาระหิ้วขึ้นเครื่องจะต้องเบา (น้ำหนักไม่เกิน ๗ กิโลกรัม) และมีขนาดไม่เกินที่เค้ากำหนดไว้ ผมจึงต้องเตรียมหากระเป๋าสำหรับทริปนี้ไว้ก่อน โดยใช้งบประมาณน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้! งานนี้ก็ต้องประมูลเอา (อีกแล้ว!) 

เมื่อ ๓๐ ปีก่อน  Travellin' light ผมใช้กระเป๋าใส่อุปกรณ์กีฬา (ใบสีแดงในภาพ)


คราวนี้ผมจะใช้กระเป๋า Vodafone ที่ประมูลได้มาในราคา ๑๐๐ บาท...


วางให้เห็นกันชัด ๆ หน่อย....


ผมไม่ได้ประมูลมาใบเดียวนะ  ยังมีเป้สะพายหลัง (backpack) เล็ก ๆ อีก ๑ ใบ....

  
ลูกนี้แพงหน่อย (๒๕๐ บาท) เพราะเป็นเป้คุณภาพดี  ใบไม่ใหญ่!  สะพายหลังแล้วขี่จักรยานพับได้สบาย สามารถใส่ไว้ในกระเป๋า Vodafone ได้ดังที่เห็นในภาพ...


ผมตั้งใจจะบรรจุข้าวของลงเป้แล้วนำเป้ใส่ไว้ในกระเป๋าอีกที ในระหว่างเดินทาง มีของเพิ่ม ผมจะแยกมันออก แบ่งส่วนหนึ่งใส่เป้แบกไว้บนหลัง อีกส่วนนึงก็ใส่กระเป๋าแล้วหิ้วไป   

นี่ไง ผมลองนำแว่นตาและแก้วมังกือ เอ้ย แก้วมังกรมาวางเทียบขนาดให้เพื่อน ๆ ดู...


เรื่องกระเป๋าสำหรับ Travellin' light ไปพม่า...ผมไม่ต้องคิดมากแล้วครับ สองใบหมดไป ๓๕๐ บาท (แม่ค้าแถมกระเป๋าผ้ามาให้อีก ๑ ใบ)


ถ้ามีเวลาผมจะลองจัดของลงกระเป๋าดู  เสร็จแล้วจะนั่งมองไปเรื่อย ๆ  รออีก ๗ เดือนค่อยหิ้วขึ้นเครื่อง อิอิ... 

Saturday, August 24, 2013

การเลือกใช้แปรงทาสี


ผมมีหนังสือ The Australian Home Helper เก่า ๆ อยู่เล่มหนึ่ง ซื้อมาจาก Adelaide ตอนที่เค้าลดราคาจากเล่มละ $9.95 เหลือ $1.95 หรือประมาณ ๕๐ บาท

ในหนังสือแนะนำว่า... แปรงทาสีต้องใช้อย่างดี


แต่ก่อน เวลาทาสีทีไร ผมเลือกใช้แต่แปรงคุณภาพต่ำ (ราคา ๒๐-๕๐ บาท) ผลก็คือขนแปรงหลุด สีหยดย้อย ทาไม่เนียน ไม่เรียบ ทาแล้วเลอะ นอกจากนั้นแล้วแปรงยังอายุสั้นด้วย!  อย่างเช่นเแปรงที่เห็นในภาพต่อไปนี้...

ขนาดยังไม่ทันได้ใช้งาน ขนแปรงก็หลุดแล้ว...
พอดีผมไปค้นเจอแปรงทาสีของนอกเข้า ๑ ด้าม (คิดว่าคงเป็นของ Mr. Sid)  มันดูเก่าและบอบบาง ไม่น่าใช้เอาเสียเลย ผมคิดว่ามันคงไม่ดี แต่ก็ต้องจำใจหยิบออกมาใช้ เพราะหาแปรงด้ามอื่นไม่เจอ!



แต่ที่ไหนได้ มันกลับเป็นแปรงทาสีที่วิเศษสุดเท่าที่ผมเคยใช้ ขนแปรงซึ่งดูเหมือนจะหลุดง่ายไม่หลุดติดผนังเหมือนแปรงราคาถูก... 


ทาง่าย ไม่ทำให้ปวดเมื่อยข้อมือ สีก็ไม่หยดย้อยลงพื้นง่าย ๆ คงเป็นเพราะการออกแบบ  ผมเห็นว่ามันเว้นเป็นช่องไว้ตรงกลางด้วย.... 


ทาผนังห้องน้ำคราวนี้ สีหยดลงพื้นน้อยมาก...


ที่เห็นสีย้อยลงไปบนกระเบื้องนั่นเป็นธรรมดา เพราะเป็นบริเวณใต้เครื่องทำน้ำอุ่น ต้องปล่อยมันไว้อย่างนั้นก่อน เดี๋ยวผมจะแสดงวิธีทำความสะอาดให้ดูนะครับ....

อยากบอกอีกครั้งว่า ทาสีต้องใช้แปรงดี ๆ เท่านั้น!

Friday, August 23, 2013

ทาสีน้ำมัน

ในที่สุดผมก็ตัดสินใจทาผนังและเพดานห้องน้ำด้วยสีน้ำมัน (หุหุ ใครจะว่าก็ช่าง) 

การเลือกทาสีน้ำมันทำให้ผมไม่ต้องลงสีรองพื้นปูนเก่าเหมือนการทาด้วยสีพลาสติก  ผมมีสีน้ำมันอยู่แล้ว ๔ กระป๋อง  ซื้อมาเอง ๒ กระป๋องเป็นสีขาวและสีฟ้า (ยี่ห้อมาร์คและปลาทอง) อีก ๒ กระป๋องคุณแอ้มให้มา  เป็นสีอย่างดี (สีน้ำเงิน)  ผมไม่คิดที่จะซื้อสีอื่นมาใช้  คิดว่ามีอะไรก็ใช้  ไม่เน้นว่าต้องเป็นสีซึ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดีเท่านั้น

ผมเริ่มด้วยการใช้สีฟ้าทาผนังก่อน เป็นสีเกรดทั่วไป เปิดออกมาก็เห็นว่ามีไม่เต็มกระป๋อง เนื้อสีเหลว ผมต้องทา ๓ รอบกว่าจะดูดี...


เข้าไปศึกษาจากเว็บต่าง ๆ เห็นเค้าแนะนำว่า สมัยนี้ต้องทาสีแบบเล่นสี ไม่ใช่ทาสีเดียวเหมือนกันหมด อย่างเช่น ผนังสีนึง เพดานอีกสีนึง เป็นต้น ในเว็บ colourclub.dulux.co.th แนะนำไว้ว่า...
ห้องเล็ก ๆ  การทาสีอ่อนๆ ช่วยหลอกสายตาทำให้ห้องดูกว้างขึ้น แต่การเลือกใช้สีเดียวกันทั้งห้องจะทำให้ห้องดูแบน เกินไป การเลือกใช้ประมาณ 2-3 สีจะช่วยเพิ่มมิติให้กับห้อง สีอ่อนๆ ทำให้ห้องดูกว้างกว่าความเป็นจริง  
เพิ่มความสูง  ห้องที่มีเพดานต่ำมีวิธีแก้ไขง่ายๆ ด้วยการใช้สี 2 วิธี คือ ทาสีฝ้าเพดานด้วยสีสว่าง เช่น ขาว ครีม หรือฟ้าอ่อน เพื่อหลอกสายตาว่าฝ้าอยู่ไกลกว่าความเป็นจริง หรืออีกวิธีคือสร้างลายเส้นตั้งให้ผนังดูสูงขึ้น พื้นที่ก็จะดูโปร่งขึ้นด้วย เทคนิคนี้มักถูกนำไปใช้กับห้องน้ำ หรือห้องที่อยู่ใต้บันได
(ขอขอบคุณที่มา) 

สำหรับเพดาน ผมใช้สี SuperCote ที่คุณแอ้มให้มา...


เป็นบทพิสูจน์ได้ว่าสีแพงนั้นดีจริง เพราะเปิดออกมาก็เห็นเนื้อสีเข้มข้นอยู่เต็มกระป๋อง ผมทาแค่รอบเดียวก็ใช้ได้แล้ว...


คราวที่แล้วผมทาสีพลาสติก ก็มาคุยว่าสียี่ห้อดี ๆ นั้นมันดีจริง ใช้แล้วคุ้ม!  คราวนี้เป็นสีน้ำมัน ผมก็ต้องกล่าวเช่นเดิมว่า ถ้าเป็นเรื่องของสี อยากให้เพื่อน ๆ ลงทุนซื้อของดีใช้  แม้จะแพงกว่าแต่คุณภาพมันดีกว่ากันเยอะเลยครับ...

ถ้าได้ลองด้วยตนเองแล้วจะรู้!

Thursday, August 22, 2013

ชื่นใจกับการแก่


ผมมีวารสาร Future Vol. 5 No. 11 ฉบับเดือนเมษายน ๒๕๒๙ ซื้อไว้ตอนนั้นราคา ๑๕ บาท วันนี้เปิดดูเห็นภาพสมัยที่ใช้กล้องฟิล์มบนหลังปกหน้า(Look-See)  คือภาพ Fisherman with fish และ Horseman and colt เป็น contrast ระหว่างความเย็นและความร้อน จึงอยากสแกนมาให้เพื่อน ๆ ดู.... 


colt คือลูกม้าตัวผู้อายุไม่เกิน 4 ปี

พอดีวันนี้ัฝนตกหยิม ๆ (ยายซิ้มไปตลาด) ทั้งวันเลย!

ในหน้า 44-45 มีบทความในคอลัมน์ "ท่องสวีเดน" ชื่อว่า "ชื่นใจกับการแก่" เขียนโดย "ปุปผนิส" ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจมาก จึงอยากคัดลอกมาโพสต์ให้เพื่อน ๆ (โดยเฉพาะคนแก่ อิอิ) ได้อ่านกัน


ชื่นใจกับการแก่


ชีวิตคนเราดู ๆ ก็แสนจะธรรมดา เริ่มต้นด้วยการเกิดแล้วแก่แล้วก็มีการเจ็บ บางคนเจ็บมากบางคนเจ็บน้อย บางคนก็เจ็บกาย บางคนก็เจ็บใจ ดู ๆ ก็ง่าย ๆ แค่นี้เอง แต่ความเป็นอยู่ของแต่ละชีวิตที่นี่ช่างแสนประหลาดพิสดาร พิลึกกึกกือ แตกต่างกันอย่างคิดไปเท่าไรก็คิดไม่ถึงเสียจริงเจียว แต่ละคนก็ย่อมรู้ได้ด้วยตนเอง รู้ไปเป็นไปตามกาลเวลา รู้ไปมาก็ต้องถึงตอนแก่เข้าจนได้ ถ้าไม่รีบตายข้ามขั้นไปเสียก่อนที่จะแก่
คนแก่ที่สตอกโฮล์มนี้ ดู ๆ แล้วน่าแก่เสียจริง ๆ มีที่อยู่ให้แสนสุขแสนสบาย มีเครื่องประกอบช่วยลดความทุกข์ได้หลาย ๆ อย่าง คนแก่แล้วหาความสบายยาก อย่าไปหาเครื่องเพิ่มความสุขเลย เอาแต่เพียงบรรเทาความทุกข์ก็บุญเหลือแล้ว เพื่อนของคุณแม่เคยคุยกับคุณแม่อย่างสนุกสนานเมื่อตอนท่านทั้งสองอายุได้แปดสิบสามปี ว่าเดี๋ยวนี้ถ้าใครมาให้พรว่าให้อายุยืนสักหมื่นปีละก็ อยากด่าเสียเชียว อยู่ไปทำไมตั้งร้อยปีพันปี แค่ 80 ปี นี่ก็เดี๋ยวก็เจ็บนั่นเดี๋ยวก็ปวดนี่ หาความสบายได้ที่ไหน ทั้ง ๆ ที่บุตรี บุตราท่านก็เป็นศัลยแพทย์ อายุรแพทย์ สารพัดแพทย์ ทั้งหลานเหลนก็มีทั้งพยาบาล หมอตา หมอฟัน แต่ความเจ็บปวดนี่ตัวใครตัวมันไม่เข้าใครออกใคร
แต่ดูคนแก่ที่สตอกโฮล์มแล้ว ดูเหมือนอายุจะยืนหมื่่นปีเอาจริง ๆ เดินไม่ถนัดหรือ ก็มีไม้เท้าให้สารพันชนิด ที่ว่าแก่แล้วเดินสามขาคือแถมไม้เท้าอีกขานั้น ไม้เท้าที่นี่มีไม่ใช่หนึ่งขา จะเอากี่ขาก็มีทั้งนั้น เคยเห็นลองนับดูรวมทั้งเท้าจริง ๆ ด้วยมีถึงสิบขา แต่เขาประกอบให้ใช้มืออย่างสะดวกสบาย เป็นไม้บ้างเป็นโลหะบ้างตามความเหมาะสม เป็นอันว่าไม่ต้องล้มแน่ ถ้าเดินไม่ได้ก็นั่งเก้าอี้เข็นอย่างมีคนเข็นให้ก็ได้ ใช้มือหมุนล้อเอาเองก็ได้ หรือบางทีมีเครื่องยนต์เหมือนรถยนต์ คือใช้มือกดสวิตช์ตรงที่มือจับ เก้าอี้ก็เคลื่อนไปได้ช้า ๆ เหมือนกับขับรถ แต่เก้าอี้ยนต์นี้มีน้อย คงจะแพงมากไม่ได้สอบถามรายละเอียด ได้แต่ดูด้วยตา อาจใช้เคลื่อนด้วยไฟฟ้าก็ได้  แต่ความรู้สึกเหมือนนั่งรถยนต์เลย ขอเรียกเองว่าเก้าอี้ยนต์ หูฟังไม่ค่อยได้ยินหรือ ก็มีเครื่องช่วยฟัง นิดเดียวไม่เกะกะเลย มีสายใส่เข้าไปในหู มีที่เกาะอยู่กับใบหูนิดเดียว ใส่แวนตาทับลงไปก็ได้ ไม่เกะกะกันเลย ห้องน้ำ ห้องส้วมสำหรับคนแก่ก็กว้างขวางมีที่เกาะที่จับสบาย ทุกแห่งที่มีห้องน้ำจะต้องมีห้องแยกเป็น ห้องน้ำหญิง ห้องน้ำชาย ห้องน้ำคนแก่ ห้องน้ำเด็ก ช่างสะดวกสบายไปเสียทุกอย่าง
บ้านคนแก่แห่งหนึ่งตั้งอยู่บนแหลมชายเกาะ เป็นหมู่ตึกหลายชั้น แต่ละตึกสูงต่ำลดหลั่นกันตามรูปของเนินเขา แต่ละตึกมีทางเดินที่สองข้างทางมีต้นไม้ ไม้ดอกต่าง ๆ สีประดับประดาไว้สวยงาม ทางเดินก็เรียบกว้างสะอาด วกวนขึ้นลงไปตามชายน้ำ มีสนามหญ้าเขียวเรียบ ที่นั่งอยู่นี้ข้างหน้าเห็นสะพานข้ามระหว่างเกาะ บนสะพานมีรถวิ่งขวักไขว่ แต่ไม่มีเสียงหนวกหู และไม่มีควันเสียเลย อากาศบริสุทธิ์ยังกับอยู่ในโลกทิพย์ที่ไม่ใช่โลกมนุษย์นั่นเชียว ภายในตัวตึกบางตึก ชั้นล่างมีร้านค้าของใช้ของกินจำเป็นจิปาถะเหมือนซุปเปอร์มาเก็ตเล็ก ๆ มีเรสเตอรองสะอาดสะอ้านกว้างขายอาหารลดราคาสำหรับคนแก่ทุกคน คนภายนอกก็เข้าไปรับประทานอาหารได้ตามปกติถ้าไม่ใช่คนแก่ มีห้องแสดงดนตรีพร้อมที่นั่งดู นั่งฟังโอ่โถงพอสะบายเหมาะสมกับจำนวนคน มีห้องสำหรับพักผ่อนเป็นส่วนกลาง มีห้องสมุด มีห้องให้ทำเย็บปักถักร้อย ห้องทอผ้าได้วยมือ มีที่เล็ก ๆ ใครทำอะไรก็ได้ทำไป มีห้องแต่งผมทั้งชายและหญิง    คนที่ยิ่งอายุมากยิ่งแต่งกายสวยงามมาก ประดับประดาเสื้อผ้าอาภรณ์เต็มยศดูสวยงามและสะอาดตาทั้งหญิงและชาย เป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งการเคลื่อนไหวไม่เป็นที่รบกวนเกะกะกันเลย พูดจาปราศรัยก็ไม่ร่บกวนคนข้างเคียง รักษากฏรักษาระเบียบเป็นตัวอย่างที่ดีจริง ๆ 
คนแก่บางคนชอบมีสัตว์เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน แม้แต่สัตว์เลี้ยงก็รู้ภาษา ถึงเวลาเจ้าของต้องพาไปทำธุระในตอนเช้าครั้งหนึ่งและตอนก่อนนอนอีกครั้งหนึ่ง เขาจัดที่ไว้ให้สำหรับสุนัขถ่ายทุกข์ เจ้าของสุนัขก็ต้องมีถุงพลาสติกติดตัวไปด้วย พอสุนัขถ่ายเสร็จเจ้าของต้องใช้ถุงพลาสติกเก็บอุจจาระไปทิ้งในที่ที่จัดไว้ให้ ฉะนั้นถนนในสตอกโฮล์มจะไม่มีความสกปรกจากสุนัขเลย เท่าที่เห็นรู้สึกว่าสุนัขทุกตัวจะแสนรู้เสียจริง ๆ เวลาขึ้นรถเมล์รถไฟไปกับเจ้าของ ไม่ได้ออกนอกลู่นอกทางไปตอแยใคร ๆ ให้รำคาญ บางคนเจ้าของไม่ต้องผูกโซ่ เวลาข้ามถนนก็เดินคู่ไปกับเจ้าของเลย  ไม่มองไม่แลใครทั้งนั้น เขาช่างฝึกได้น่าชื่นใจเสียเหลือเกิน แต่เพื่อความเป็นธรรมสำหรับผู้ที่ไม่ชอบสุนัข ตู้บางตู้ในรถไฟเขาก็ทำเครื่องหมายห้ามนำสุนัขเข้าไป รถเมล์บางคันถ้าผู้โดยสารแน่นนัก เจ้าของสุนัขเขามีอัธยาศัยคอยไปคันที่พอไปได้ เป็นธรรมดาโลกทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีคนรักเท่าผืนหนัง มีคนชังเท่าผืนเสื่อ ต่างคนต่างทำทุกอย่างด้วยถ้อยทีถ้อยอาศัยกันก็อยู่ร่วมกันได้อย่างสบาย
ในที่อยู่คนแก่นี้ ห้องลิฟต์ดูจะใหญ่เป็นพิเศษเพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัย ระบบไฟกับระบบน้ำนี่ก็ประหลาด ดูเหมือนกับจะเหลือเชื่อเอาทีเดียว ตึกไม่ว่าสูงกี่ชั้นน้ำร้อนน้ำเย็นขึ้นไปถึงหมด และไหลแรงเหมือนกันหมดทุกชั้น ไฟฟ้าไม่เคยเห็นอึดอัดขัดข้องเลย มีอะไรขัดข้องปุ๊ปก็แก้ไขปั๊บ เครื่องทุ่นแรงมีมากมายหลายชนิด เกือบจะไม่ทราบว่าอะไรเป็นอะไร จะใช้ไม่ถูกเสียก็ไม่ทราบ ถ้าเกิดอยากจะใช้ขึ้นมาบ้าง คงงงงวยพอสมควร
รวมความแล้วคนแก่ที่นี่ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยใครเลยก็เกือบจะได้ อยู่อย่างเป็นสุขสงบ ไม่มีใครรบกวนและไม่ต้องรบกวนใครมาก อยากเพลิดเพลินกับธรรมชาติ ก็มีเสียงนกร้อง นั่งดูเดือนตก นั่งฟังนกร้อง ดูน้ำดูฟ้าอยู่ในบ้านก็มองเห็น อยากเพลิดเพลินกับวิทยาศาสตร์ ก็มีวิทยุ โทรทัศน์ เครื่องเทปต่าง ๆ ยังกับว่ามีโรงหนังโรงละครอยู่ในบ้าน จะเลือกดูชาติใดภาษาใดก็ได้ เป็นเจ้าของความแก่ที่ช่างน่าเป็นสุข นี่กระไร ท่านผู้อ่าน อ่านแล้วอยากจะเป็นคนแก่บ้างไหมคะ?
ผมใช้เวลาประมาณ ๔๕ นาที นั่งพิมพ์บทความนี้มานำเสนอเพื่อน ๆ เพื่อให้เกิดกำลังใจที่จะเป็นคนแก่ที่มีความสุขในอนาคต...

Wednesday, August 21, 2013

สีกั๋นเปี้ยน...

คิดถึงสหายรุ่นลายครามที่ชื่อ "บรรจง มโนรส"....ผมเข้าไปค้นหาในอินเทอร์เน็ต เห็นรูปใน facebook  หุหุ อายุ ๖๐ กว่าแล้ว...หน้าตายังดูดีอยู่เลย  ไม่โทรมและไม่ดูแก่เหมือนช่างเหอะ


ถ้าจะพูดถึง "จง" ผมแว่วได้ยินเสียงเพื่อนที่ชอบพูดติดตลกว่า "ลูกเสีย...ลูกเสีย กิ๋นแก๋งบ่าเขีย กิ๋นแล้วบ่าได้ใส่เกี๊ย..ฮ้องว่าเบี่ย ๆ ๆ" (ลูกเสือ ลูกเสือ กินแกงมะเขือ กินแล้วไม่ได้ใส่เกลือ ร้องว่าเบื่อ ๆ ๆ) ผมเลยคิดไกลไปถึงบางคนที่เรียก "ไม้กันเปื้อน" ว่า "ไม้กั๋นเปี้ยน"

"ไม้กันเปื้อน" คืออะไร?  ศัพท์ทางช่างเห็นเค้าเรียกว่า "บัว" ซึ่งมีทั้งบัวพื้น บัวบันได บัวฝ้า (ไม่รวมบัวตูมบัวบาน อิอิ)  เข้าไปอ่าน Forum ในเว็บพันทิพแล้วเห็นเค้าคุยกันว่า "ตรงไม้กันเปื้อนมีรอยแตก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร?"  มีคนมาตอบว่า "ไม่ได้เรียกว่าไม้กันเปื้อนนะครับ เรียกว่า..บัวพื้น" อีกคนมาเสริมว่า "เค้าเรียก บัว ครับ ส่วนที่อยู่ด้านบนที่ติดกับฝ้าเพดานเรียกว่า มอบ"  แต่มีคนนึงบอกว่า "บางคนเรียกไม้กันเปื้อนจริง ๆ ครับ คิดว่าน่าจะมาจากเวลาถูพื้น แล้วไม่ไปเลอะเทอะที่ผนังนะครับ..."   เอาเหอะ...ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไร มันก็คือเจ้าไม้ลักษณะอย่างที่เห็นในภาพต่อไปนี้นั่นเอง!


ไม้บัวที่มีขายตามร้านวัสดุก่อสร้าง แพงเอาการอยู่เหมือนกัน หากต้องการประหยัด ช่างก็จะใช้สีทาแทน.. 

ผู้ออกค่ายอาสาฯ กำลังทาสีตัดขอบบัวพื้น - ที่มาของภาพ BluezoneForum.org
วันนี้ผมก็เลยอยากตั้งชื่อเรื่องว่า "สีกั๋นเปี้ยน" ก็เพราะเพิ่งจะทาสีแทนไม้กันเปื้อน พอดีผมอายุมากแล้ว มือไม้สั่น ตาก็ไม่ดี จะทาแบบพ่อหนุ่มในภาพก็คงจะไม่ตรง จึงต้องอาศัยเทป ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า masking tape ติดเป็นแนวยาวกันไว้ แล้วค่อยทาสีบริเวณที่จะให้เป็นบัว...

ที่มา - The Australian Home Helper


ส่วนสีที่ใช้เป็นสีน้ำมันยี่ห้อ Mandarin Duck ซื้อมาแค่พอใช้จาก Global House ราคากระป๋องละ ๙๕ บาท


เลือกสีเทาแก่ (Dark Gray) ผมทา "สีกั๋นเปี้ยน" เสร็จแล้วปล่อยทิ้งไว้คืนนึงจึงค่อยดึงเอาเทปออก ก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ...

แย่จัง ภาพถ่ายออกมาแล้วสีเพี้ยน ไม่ตรงกับความเป็นจริง!
สีกั๋นเปีั้ยนของผมเพี้ยนจริง ๆ ด้วย อิอิ...